“แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ยอดนักสู้หญิงวัย 24 ปี มาถูกทาง จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย ให้เครดิตเป็นต้นแบบของนักสู้หญิงที่ก้าวไปได้ไกลในสังเวียนการต่อสู้ เผยด้วยชื่อเสียงขณะนี้ ไม่ได้อยู่เฉพาะไทยและสิงคโปร์เท่านั้น ยังข้ามดังไกลถึงสหรัฐอเมริกา
จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย องค์กรศิลปะการต่อสู้ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สิ่งที่น่าจับตาในวงการศิลปะการต่อสู้ สำหรับประเทศไทยแล้ว คือการสร้างชื่อเสียงของนักต่อสู้หญิง “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะความโดดเด่นในผลงานการต่อสู้ ทั้งที่ประเทศไทย และประเทศสิงคโปร์เท่านั้น แต่ล่าสุดชื่อเสียงของนักมวยหญิงไทย วัย 24 ปี จากจังหวัดระยอง ยังมีชื่อเสียงในระดับสากล โดยเฉพาะกับประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ให้ความสนใจและชื่นชมศิลปะการต่อสู้ในแบบผสมผสาน
อันเป็นความสามารถ และเป็นการสร้างผลงานที่มาจาก”แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” ทั้งนี้ “แสตมป์ แฟร์แท็กซ์” นักสู้หญิงจาก ประเทศไทย มีโปรแกรมขึ้นสังเวียนชิงแชมป์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง รอบชิงชนะเลิศ โดยพบกับ “ริตู โฟกาต” วัย 27 ปี จากอินเดีย ใน ONE: WINTER WARRIORS ซึ่งจะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม ที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม ประเทศสิงคโปร์
“แสตมป์เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักมวยหญิงจากไทย ที่จะไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้นักมวยหญิงส่วนมากจะชกกันแค่ตามต่างจังหวัด ไม่มีเวทีใหญ่ ๆ รองรับ และในประเทศไทยก็ไม่มีการต่อสู้ชนิดอื่นให้ได้แข่งขันมากนัก การที่แสตมป์ ได้มาสู้ใน วัน แชมเปียนชิพ จึงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า นักมวยหญิงไทยก็มีศักยภาพที่สูงในระดับโลก ที่สำคัญไม่ได้เก่งเฉพาะมวยไทย แต่ยังสามารถใช้เทคนิคที่มีปรับเปลี่ยนไปแข่งขันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ( มวยไทยผสมคาราเต้ ) รวมถึง การต่อสู้แบบผสมผสาน MMA ที่กำลังจะขึ้นชิงชนะเลิศที่สิงคโปร์อีกด้วย”
เขา กล่าวว่า ด้วยทักษะ ความสามารถเฉพาะตัว ของ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ ที่สามารถแข่งขันได้หลายประเภท ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนสนับสนุนให้นักสู้หญิงจากไทย ได้รับการยอบรับ จนมีแฟนคลับติดตามมากมายและเป็นที่จับตาของผู้ชมทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา สิ่งเหล่านี้ทำให้ แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ มีมูลค่าที่สูงขึ้น จนเป็นนักมวยหญิงไทยที่ทำรายได้สูงที่สุดในขณะนี้ เขา กล่าว
แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ สร้างชื่อจากการเป็นแชมป์ โลก ONE มวยไทย และ ONE คิกบ็อกซิ่ง ดังนั้นใน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งใช้ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA หากคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ก็จะขึ้นแท่นผู้ท้าชิงรายต่อไป จากเจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบัน คือ “แองเจลา ลี” นักสู้หญิงสัญชาติสิงคโปร์ เจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบัน
การพบกันระหว่าง แสตมป์ แฟร์เท็กซ์ และ ริตู โฟกาต ในคืนวันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม จะเป็นการปะทะกันที่สร้างความน่าสนใจ เนื่องจากทั้งคู่มีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างกันชัดเจน และมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ทั้งนี้ในการต่อแบบผสมผสาน MMA จะใช้ศิลปะแบบผสมผสาน แสตมป์ มีความโดดเด่นด้านมวยไทย การใช้หมัด เข่า ศอก ส่วน ริตู เป็นสไตล์มวยปล้ำมาก่อน
ในการพบกันของแสตมป์ แฟร์แท็กซ์ VS ริตู โฟกาต เป็นคู่รองของรายการ ONE: WINTER WARRIORS ซึ่งมีชิงชัยกันทั้งหมด 6 คู่ ประกอบด้วย คู่เอกเป็นการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นไลต์เวต ของ รีเกียน เออร์เซล กับผู้ท้าชิง อิสลาม มูร์ตาซาเอฟ, ชิว เจียนเหลียง พบ ฮิโรกิ อากิโมโตะ (คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต), ทิโมเฟย์ นาสติวคิน พบ เซยิด กูเซน อาร์สลานาลิเอฟ (MMA รุ่นไลต์เวต), คัง จี วอน พบ มาร์คัส อัลเมดา (MMA รุ่นเฮฟวีเวต) และ ฮู หยง พบ ยูยะ วากามัตสึ (MMA รุ่นฟลายเวต)
สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ในวันศุกร์ที่ 3 ธ.ค.64 ตั้งแต่เวลา 19.30 น. ผ่านทาง ONE Super App, YouTube ของ ONE Championship, AIS Play
จิติณัฐ อัษฎามงคล ประธาน วัน แชมเปียนชิพ ประเทศไทย
“แสตมป์ แฟร์แท็กซ์” นักสู้หญิงจาก ประเทศไทย มีโปรแกรมขึ้นสังเวียนชิงแชมป์ ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นอะตอมเวตหญิง รอบชิงชนะเลิศ พบกับ “ริตู โฟกาต” วัย 27 ปี จากอินเดีย ใน ONE: WINTER WARRIORS วันศุกร์ที่ 3 ธันวาคม ที่ สิงคโปร์ อินดอร์ สเตเดี้ยม ประเทศสิงคโปร์