เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว ผกก.5 บก.ป. พร้อม พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก และ พ.ต.ต.ธีระยุทธ ไทยราช สว.กก.5 บก.ป. ร่วมจับกุม นายวสันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาปลอมเอกสารสิทธิ, ใช้เอกสารสิทธิปลอม และฉ้อโกง จับได้ที่ด้านหน้าอาคารแห่งหนึ่ง ย่านถนนนราธิวาสเจ้าพระยา แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากประมาณปี 2550 ผู้ต้องหา เดิมทีไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นนักธุรกิจ อยู่ในแวดวงสังคมไฮโซ ทำทีตีสนิทแพทย์หญิง หรือหมอศัลยกรรมความงามรายหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ เชิงชู้สาว จนมีคบหากัน ต่อมาเมื่อเห็นว่าเริ่มตายใจจึงออกอุบายชักชวนให้นำเงินมาลงทุนซื้อห้องชุดคอนโดมิเนียมหรูย่านปทุมวัน และราชเทวี เพื่อพักอาศัยอยู่ด้วยกัน โดยผู้ต้องหาจะทำทีให้ผู้เสียหายทยอยผ่อนชำระผ่านตนเองรวมเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาท นอกจากนี้ยังชักชวนให้นำเงินมาลงทุนธุรกิจซื้อขายรถหรู รถซูเปอร์คาร์มือสอง อาทิ เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู แลมโบกินี และปอร์เช่ อีก 20 ล้านบาท อ้างแบ่งกำไรคนละครึ่ง โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนออกเงินลงทุน ส่วนตัวผู้ต้องหาจะเป็นคนบริหารจัดการ ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจผู้เสียหายจึงยอมทำตาม
กระทั่งต่อมาผู้เสียหายเกิดตรวจสอบพบว่า เรื่องทั้งหมดเป็นการกุเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกเอาเงินจากตนเอง เนื่องจากไม่ได้มีซื้อคอนโดฯ จริงแต่เป็นเพียงการเช่าอยู่อาศัย เช่นเดียวกับการลงทุนธุรกิจการซื้อขายรถยนต์หรูมือสองเองก็ไม่ได้มีนำเงินที่ผู้เสียหายมอบให้ไปซื้อรถยนต์แต่อย่างใด แต่กลับนำเงินที่ผู้เสียหายให้ไปเช่ารถหรูจากร้านเช่าแล้วนำมาแอบอ้างเพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่านำเงินไปลงทุนจริง รวมความเสียหายที่ถูกหลอกทั้งหมดเป็นเงินประมาณ 36 ล้านบาท หลังทราบความจริงผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความกับทางพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. จนมีออกหมายจับและนำมาสู่การติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบประวัติพบเคยก่อเหตุในคดียักยอกทรัพย์ มูลค่า 900,000 บาท มาแล้ว เบื้องต้นนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป