ดิสนีย์ (Disney+) ผู้ให้บริการด้านความบันเทิงครบวงจร เป็นรายล่าสุดที่เข้าร่วมวงศ์ไพบูลย์เมตาเวิร์ส (Metaverse)
บ็อบ ชาเป็ก (Bob Chapek) เปิดเผยในช่วงการประชุมผู้ถือหุ้นของดิสนีย์ว่า ดิสนีย์กำลังเตรียมตัวเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สในอนาคตอันใกล้นี้
ชาเป็ก กล่าวกับนักลงทุนว่า การเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สของดิสนีย์ในครั้งนี้ เปรียบได้ดั่งช่วงเวลาอันเป็นประวัติศาสตร์ของดิสนีย์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น เนื่องจากถ้าหากย้อนหลังไปเกือบหนึ่งร้อยปีที่แล้ว ดิสนีย์ ภายใต้การนำของวอลต์ ดิสนีย์ และ รอย ดิสนีย์ พวกเขาได้สร้างสิ่งใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมให้กับโลกใบนี้อย่างแอนิเมชันที่มีชื่อว่า Steamboat Willie ซึ่งเป็นแอนิเมชันเรื่องแรกของโลกที่มีการใส่เสียงเอฟเฟกต์เข้าไปในภาพยนตร์
สิ่งที่น่าสนใจก็คือเรื่องราวต่อจากนี้ว่า ดิสนีย์ จะเชื่อมต่อโลกจริง และโลกดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างไร พร้อมกับชวนให้ติดตามต่อไปว่า เมตาเวิร์สของดิสนีย์จะมีหน้าตาออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ดิสนีย์มีโอกาสเลือกสวนสนุกของตัวเองให้กลายเป็นเมตาเวิร์ส ผ่านอุปกรณ์อย่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ VR
ขณะที่ ชาเป็ก ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับสำนักข่าว CNBC โดยเขากล่าวว่า ในจินตนาการของเขา บริการสตรีมมิงอย่าง ดิสนีย์พลัส (Disney+) สามารถยกระดับไปเป็นคอนเทนต์แบบสามมิติได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ดิสนีย์มีการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่ต่างไปจากเดิม
นับตั้งแต่การประกาศรีแบรนด์จากเฟซบุ๊ก (Facebook) ไปเป็นเมตา (Meta) ส่งผลให้บริษัทชั้นนำหลายแห่งประกาศตัวพร้อมเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สกันทั่วหน้า ไม่ว่าจะเป็นไมโครซอฟท์ (Microsoft), Niantic ผู้พัฒนาเกม Pokemon Go, ไนกี้ (Nike) และรายล่าสุดก็คือ ดิสนีย์ ซึ่งยังไม่นับรวมบริษัทเกมที่เข้าสู่โลกมินิเมตาเวิร์สไปแล้วล่วงหน้าอย่าง Fortnite และ Roblox.
ที่มา: Reuters, IGN