Elon Musk กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า หุ่นยนต์ที่เรียกว่า Tesla Bot จะได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานที่มนุษย์ไม่อยากทำ และว่าทางบริษัทจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์แบบเดียวกับที่เทสลาใช้ในรถยนต์ ซึ่งรวมไปถึงระบบที่ซับซ้อนของกล้องและอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำงานในสถานการณ์จริงได้
หุ่นยนต์ซึ่งมีความสูงประมาณ 1.7 เมตรนี้ยังถูกออกแบบมาให้เป็นมิตรกับมนุษย์อีกด้วย
Musk กล่าวอีกว่า การใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวในขั้นตอนการผลิตนั้นอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงไปได้ เพราะพวกมันจะสามารถช่วยจัดการกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ การงานจัดแสดงหุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ของเทสลานั้น มีขึ้นหลังจากที่หน่วยงานด้านความปลอดภัยของรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า กำลังสืบสวนเหตุการณ์รถชนกันหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับรถเทสลา เหตุการณ์รถชนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการใช้ระบบช่วยเหลือการขับรถของทางบริษัท
Musk ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในระหว่างงานแสดงของบริษัท แต่เขาก็ย้ำอีกครั้งว่า เทสลามั่นใจว่าระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบจะทำงานที่ระดับความปลอดภัยที่สูงกว่าการขับขี่รถของมนุษย์
สำนักบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติเผยข้อมูลว่า มีเหตุการณ์รถชน 11 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับรถเทสลาหลายรุ่น ซึ่งชนกับรถฉุกเฉินที่จอดอยู่บนถนน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีก 17 ราย
ทางหน่วยงานกล่าวว่า มีการยืนยันว่ารถยนต์เทสลาที่เกี่ยวข้องนั้นใช้ระบบ Autopilot หรือ Traffic-Aware Cruise Control ของบริษัทก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ทั้งสองระบบใช้ชุดกล้องและอุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อช่วยผู้ขับรถ
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมบางคนตั้งคำถามว่า หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่ Musk บรรยายไว้จะกลายเป็นจริงหรือไม่ เพราะเทสลาเคยมีประวัติการประกาศเปิดตัวสินค้าที่ต้องเผชิญกับความล่าช้าครั้งใหญ่หรือถูกยกเลิกไป
Raj Rajkumar ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าวกับรอยเตอร์ว่า เขาไม่แน่ใจว่าหุ่นยนต์ Tesla Bot นั้นจะเป็นเพียงเป็นความฝันที่ทำให้เกิดความตื่นตัวในเรื่องหุ่นยนต์หรือไม่
แต่เขาก็สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า ต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปีก่อนที่หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จากบริษัทใด ๆ บนโลกใบนี้จะสามารถเดินไปที่ร้านเพื่อซื้อข้าวของต่าง ๆ ได้จริง ๆ
