ป้าต้อย ตัวตึงเมืองนนท์ สู้ชีวิตทำขนมใส่ไส้ขาย เอกลักษณ์เฉพาะตัว ชฎาม้า หน้าต้องขาว
(9 ธ.ค.65) ไม่ว่าแดดจะร้อนหรือฝนจะตกพร่ำๆสักเพียงไหน แต่ในทุกวันช่วงเช้าๆ สายๆ ผู้คนที่เดินทางไปมาบนถนนประชาราษฎร์ มุ่งหน้าตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี จะพบเห็นสาวสองสูงอายุรายหนึ่ง เดินเข็นรถขายขนมใส่ไส้เพียงคนเดียวตามลำพัง ด้วยลักษณะท่าทางและการแต่งตัวที่ดูสะดุดตา ทาหน้าด้วยแป้งขาว สวมชฎาม้าไว้บนศีรษะ ใส่เสื้อผ้าลายดอกของผู้หญิง เดินซอยเท้าเป็นจังหวะเดินเข็นรถเข็นขายขนมใส่ไส้ พร้อมกับลำโพงที่เปิดเสียงที่บอกให้ผู้คนรับรู้ว่า ขนมใส่ไส้ในตำนานเมืองนนท์ โดยฝีมือสาวสองสูงวัยที่ชื่อ ป้าต้อย เมืองนนท์ มาแล้ว
โดยภาพจำที่ผู้คนพบเห็นป้าต้อย ขนมใส่ไส้เมืองนนท์นั้น มาจากลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ส่วนตัว ชฎาม้าหน้าขาว ซึ่งจะพบแกเดินเข็นรถขายขนมใส่ไส้ตั้งแต่หน้าวัดทินกรนิมิตรซึ่งป้าต้อยแกอาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว หลังจากทำขนมเสร็จในช่วงเช้าสายๆ ก็จะเดินเข็นรถขายขนมมุ่งหน้าไปยังตลาดสดเทศบาลนครนนทบุรี หอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรีและเดินวนกลับมาที่ยังวัดทินกรเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรทุกวัน จนเป็นที่รู้กันในกลุ่มลูกค้าและผู้คนที่จะช่วยอุดหนุนขนมใส่ไส้อันเลื่องชื่อโดยฝีมือป้าต้อย
โดยลูกค้าขนมใส่ไส้ของป้าต้อยนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่นอกจากจะชื่นชอบในความอร่อยของขนมใส่ไส้แล้ว ส่วนหนึ่งทุกคนก็อยากช่วยเหลือสนับสนุนอาชีพของป้าต้อย สาวสองสูงวัยรายนี้ ที่เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำมาหากินโดยสุจริตสู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อ และไม่แคร์สายตาใครกับอาชีพที่ทำอยู่ แม้ว่าในบางครั้งป้าต้อยจะดูมองจากคนภายนอกด้วยความขบขันจากการแต่งกายซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแกก็ตาม แต่สำหรับคนในพื้นที่ตั้งแต่หน้าวัดทินกรไปจนถึงหอนาฬิกาท่าน้ำนนท์ จะมองต่างอย่างเข้าใจในตัวป้าต้อย เพราะป้าต้อยเลือกที่จะทำขนมขายแล้วเข็นรถขายด้วยความภาคภูมิใจมากกว่ารอคอยความช่วยเหลือมานานนับ 10 กว่าปี จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดนนทบุรี “ชฎาม้า หน้าขาว ขายขนม” แบบอย่างตัวตึงเมืองนนท์ ที่สู้ชีวิตโดยไม่หวังพึ่งพาใครนอกจากตัวเอง