เตรียมตั้งกรรมการสอบ “เจ้าหน้าที่รัฐ” ออกโฉนดเกาะนุ้ยนอก จ.กระบี่ แฉมีขบวนการตั้งแต่หาที่ทำเลทองไปจนถึงหานายทุนมาซื้อ ส.ส.ส่งเรื่อง กมธ.ที่ดินตรวจเพิ่ม เอาผิด แก๊ง “ชัยยุทธ”
จากกรณีชาวบ้านเจ๊ะหลี หมู่ 3 ต.เกาะลันตาใหญ่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ยื่นหนังสือถึง นายอำเภอเกาะลันตา ให้ตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดิน บนพื้นที่เกาะนุ้ยนอก เนื้อที่ 5 ไร่เศษ และมีการประกาศขายไร่ละ 20 ล้านบาท ทั้งที่เกาะดังกล่าวไม่เคยมีหลักฐานของการอยู่อาศัย ทำกิน และไม่เคยมีการครอบครองของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ เป็นเกาะที่ชาวบ้าน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นที่พักชั่วคราว หลบคลื่นลมแรง พักรอ ขณะทำประมง โดยพบว่า โฉนดที่ดินดังกล่าว ออกเมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ลงนามโดย ผอ.ศูนย์อำนวยการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน จ.กระบี่-พังงา-ตรัง ต่อมาเครือข่ายภาคประชาชนในพื้นที่ ยื่นหนังสือขอให้มีการตรวจสอบพื้นที่เกาะอีกหลายแห่ง จนนำไปสู่การตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI รวมทั้งกรมป่าไม้ และ ป.ป.ช.
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ทีมข่าวเฉพาะกิจ ติดตามความคืบหน้าของเรื่องนี้จากนายสมโภชน์ ทองชู นายอำเภอเกาะลันตา จ.กระบี่ ทราบว่า ในส่วนของการตรวจสอบในระดับอำเภอ ขณะนี้มีการสอบสวนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปแล้ว 4 ราย แยกเป็นกลุ่มที่มีส่วนร่วมในการเซ็นออกโฉนด ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ 2 คน ซึ่งทั้ง 2 คน ก็ให้ข้อมูลว่าไม่รู้เห็นกับการออกโฉนด โดยอ้างว่ามีคนนำเอกสารมาให้เซ็น ซึ่งคำอ้างดังกล่าวเป็นสิทธิของทั้ง 2 รายที่จะอ้าง แต่จะมีน้ำหนักฟังได้หรือไม่ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการระดับจังหวัดจะพิจารณาอีกครั้ง
ส่วนอีก 2 รายที่สอบเพิ่มเติม เป็นผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เกาะนุ้ยนอก และในพื้นที่หมู่ 4 ที่เป็นที่ตั้งเดิมของ ส.ค.1 โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ยืนยันว่า ส.ค.1 ฉบับดังกล่าว เดิมตั้งอยู่ที่หมู่ 4 จริง และไม่ทราบว่าถูกนำไปออกโฉนดตั้งแต่เมื่อไหร่ นอกจากนี้ที่สอบสวนไปยังมีประเด็นการอ้างว่ายื่นขอออกโฉนดตั้งแต่ปี 2553 แต่เมื่อไปตรวจสอบเอกสารยื่นขอ กลับไม่มีเอกสารการยื่นขอออกโฉนดตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งรายละเอียดการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด คาดว่าจะสามารถสรุปได้เสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ จากนั้นจะนำเสนอไปยัง ผวจ.กระบี่ เพื่อให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยกับเจ้าหน้าที่รัฐในส่วนของฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้อง คือผู้นำชุมชนทั้ง 2 ราย โดยจะมีบทลงโทษทางวินัยของราชการ หากผิดวินัยร้ายแรง โทษหนักสุดคือให้ออก
ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งติดตามเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น กล่าวด้วยว่า การเปิดโปงขบวนการออกเอกสารสิทธิที่ดินเกาะนุ้ยนอก กำลังเป็นกระแสที่ประชาชนให้ความสนใจ เพราะเป็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยข้อมูลที่มีการตรวจสอบพบว่ามีความผิดชัดเจน หลังจากนี้จะรอกระบวนการสอบสวนของแต่ละหน่วย ว่าจะเอาผิดกับขบวนการเหล่านี้ได้แค่ไหน แต่ตนยังเชื่อมั่นว่า ป.ป.ช.ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบหลัก จะทำเรื่องนี้ออกมาได้กระจ่าง เพราะเป็นองค์กรอิสระ ซึ่งทางเลขาธิการ ป.ป.ช.เอง ก็สั่งการเรื่องนี้ไปยัง ป.ป.ช.กระบี่ ให้ตรวจสอบให้ชัดเจนเพราะทาง ป.ป.ช.ให้ความสนใจเรื่องนี้มาก
“ในส่วนของการตรวจสอบพื้นที่อื่น ทั้งพื้นที่ป่า พื้นที่ภูเขา และพื้นที่เกาะ ที่ถูกนำมาออกโฉนดโดยศูนย์อำนวยการเดินสำรวจฯ ซึ่งมีนายชัยยุทธ ไชยทองรักษ์ ทำหน้าที่เป็น ผอ.ศูนย์ฯ ได้ยื่นเรื่องนี้ให้ กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจสอบแล้ว เพราะมีหลายพื้นที่น่าสงสัย ที่เห็นได้ชัดอีกแห่งคือเกาะกำนุ้ย ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ระหว่างเกาะกำ และเกาะบูบู ใน อ.เกาะลันตา ซึ่งถูกนำมาประกาศขายเป็นเกาะส่วนตัว ทราบว่าผู้ครอบครองในปัจจุบัน เป็นเจ้าของบริษัทยารายใหญ่ในประเทศ ซึ่งวันที่ 10 ธ.ค.นี้ กมธ.ที่ดินฯ จะนำคณะลงพื้นที่ อ.เกาะลันตา เพื่อตรวจสอบหลายประเด็นน่าสงสัย”
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านบนเกาะลันตา ทำให้ทราบว่า ที่ผ่านมาหากชาวบ้านทั่วไป เมื่อไปยื่นขอออกโฉนดที่ดินซึ่งครอบครองอยู่จริงมานาน แต่มักจะถูกบ่ายเบี่ยง บางรายถูก เจ้าหน้าที่ที่ดินเรียกรับเงินใต้โต๊ะ ใครไม่มีจ่ายก็ไม่สามารถออกโฉนดได้ แต่ขณะเดียวกันพอเป็นกลุ่มขบวนการค้าที่ดิน กลับดำเนินการได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทราบว่าขบวนการออกโฉนดฮุบเกาะ มีการทำงานกันเป็นขบวนการ ร่วมมือกันทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ กลุ่มนายหน้าค้าที่ดินใน จ.กระบี่ และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งผู้นำชุมชนบางคน หาพื้นที่สวยทำเลดี แล้วดำเนินการออกโฉนด ก่อนจะติดต่อหานายทุนมาซื้อ จึงต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ลึกเพื่อรื้อขบวนการเหล่านี้ออกไป สิ่งที่ชาวบ้านทำครั้งนี้เป็นการแสดงพลังในการปกป้องทรัพยากรที่เป็นของชาติอย่างแท้จริง
ด้าน นายวศิน สิริเกียรติกุล รองประธาน กมธ.วิสามัญฯ สภาผู้แทนราษฎร ในฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ป.ป.ช. กล่าวว่า สำหรับ ขั้นตอนการดำเนินการตรวจสอบ ประเด็น “เกาะนุ้ยนอก” ตอนนี้แยกเป็น 4 ส่วน 1. ส่วนของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิโดยตรง ส่วนนี้มีทาง ผวจ.กระบี่ รับผิดชอบในการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน 2. ส่วนของฝ่ายการเมือง จะใช้กลไกของฝ่ายนิติบัญญัติ คือ คณะ กมธ.สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้มีการสอบสวนติดตามเรื่องนี้ ใน กมธ.ที่ดินฯ เรียบร้อยแล้ว 3. ส่วนของตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. จะเข้ามาดูในส่วนของคดีอาญาทั้งหมด ซึ่งมีการไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วโดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม 4. ในส่วน ป.ป.ช. เป็นองค์กรอิสระ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งการตรวจสอบของทุกหน่วยงานสุดท้าย หากพบว่ามีการกระทำผิดประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อให้พิจารณาส่งให้อัยการ ส่งฟ้องต่อศาล หรือคณะกรรมการ ป.ป.ช.อาจมีมติส่งฟ้องศาลเองก็ได้ ล่าสุดทราบว่าประเด็นเกาะนุ้ยนอก ถูกนำเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่แล้ว.