ตำรวจอุบลราชธานีจับกุมหนุ่มใหญ่วัย 41 ปี ก่อเหตุข่มขืนหญิงวัย 18 ปี ค้นบ้านถึงช็อก เจอหญิงเหยื่อข่มขืนอีกคนถูกจับขังไว้ สอบประวัติพบคนร้ายเคยติดคุกมาแล้วถึง 4 ครั้ง
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โลกโซเชียลเผยแพร่ ภาพจากล้องวงจรปิดในเทศบาลนครอุบลราชธานี จับภาพชายอายุ 41 ปี ทราบชื่อภายหลังว่านาย ปธานิน หรือ ปาน ผู้ต้องคดีล่อลวง ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนหญิงสาว และลักทรัพย์ ซึ่งไปก่อเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยเป็นภาพขณะนายปาน ผู้ต้องหาเดินตาม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหายที่เสร็จจากการออกกำลังกายในสวนสาธารณะทุ่งศรีเมือง กำลังจะกลับมาขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ข้างสวนสาธารณะฝั่งหน้าศาลแขวงจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อกลับบ้าน ผู้ต้องหาใช้เท้าเตะผู้เสียหายหลายครั้ง ก่อนลากตัวกลับเข้าไปในสวนสาธารณะ เพื่อข่มขืน แต่เปลี่ยนใจบังคับให้ผู้เสียหายซ้อนรถจักรยานยนต์ไปยังบ้านร้างแห่งหนึ่ง แล้วลงมือข่มขืนก่อนหลบหนีไป หลังก่อเหตุ น.ส.เอเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ให้ตามจับตัว
ต่อมาชุดสืบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี นำโดย พ.ต.ท.ทศพร เส็งเรียบ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้ติดตามดูพฤติกรรมของคนร้าย พบเป็นนายปาน ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเช่าหนึ่งในตำบลขามใหญ่ จึงติดตามหาตัวและพบนายปาน กำลังเดินเตร่หาเหยื่อในพื้นที่ตำบลดังกล่าว จึงเข้าจับตัวเมื่อเย็นวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำตัวเจ้าหน้าที่เข้าค้นหาของกลางในบ้านพัก
ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ต้องตะลึงเพราะมีการกักขังหญิงสาวสมมติชื่อว่า น.ส.บี อายุ 18 ปี ซึ่งหนีออกจากบ้านในจังหวัดภาคเหนือ และได้เดินทางมาหาแฟนที่จังหวัดศรีษะเกษ โดยมาลงรถที่สถานีขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี เมื่อเย็นวันที่ 22 พ.ย. และมาพบกับนายปาน สมอ้างรู้จักทางไปบ้านของแฟน ก่อนลวง น.ส.บี ไปที่บ้านเช่าของนายปาน ข่มขืนและกักขังไว้ในห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำ น.ส.บี ส่งให้แพทย์ช่วยรักษาและดูแลสภาพจิตใจเช่นเดียวกับ น.ส.เอที่โรงพยาบาลเดียวกัน
สำหรับนายปาน ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาที่ได้ก่อเหตุไว้ช่วงนี้ ถึง 6 คดี คือ ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ของประชาชนในเมืองจำนวน 3 คัน ไปขายหาเงินใช้ ขโมยหมวกกันน็อค ชุด รปภ. และคดีล่อลวง ทำร้ายร่างกาย ข่มขืนหญิงสาว ซึ่งประวัตินายปาน ก่อนถูกจับได้ครั้งนี้ เคยก่อคดีลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ติดคุกมาแล้วถึง 4 ครั้ง แต่หลังพ้นโทษเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ก็ออกมาก่อเหตุครั้งนี้อีก
ขณะที่มีภาพวงจรปิดยืนยันพฤติกรรมของนายปาน เข้าไปลักรถจักรยานยนต์ภายในบ้านพักหลังหนึ่งบนถนนสุริยาตร์ อำเภอเมืองอุบลราชธานี หลังจากที่ทำการข่มขืน น.ส.เอ แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา กระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือ กระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ก่อนจะนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ขณะเดียวกันจากการสอบถามประชาชนที่เป็นหญิงสาวเข้ามาใช้สวนสาธารณะทุ่งศรีเมืองออกกำลังกาย กล่าวว่า แม้สวนสาธารณะแห่งนี้ จะอยู่ใจกลางเมือง แต่ไม่ควรเข้ามาใช้บริการในช่วงที่ค่ำมืดแล้ว เพราะไม่มีใครสนใจใคร ตกเป็นเหยื่อให้คนร้ายได้ง่าย พร้อมทั้งเรียกร้องให้เทศบาลนครอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จัดกำลังคนมาดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาใช้บริการด้วย
ด้านนางลักขณา แม่ค้าขายน้ำมะพร้าวข้างทุ่งศรีเมืองมานานกว่า 10 ปี บอกว่า ปกติสวนสาธารณะจะปิดตอนเวลา 22.00 น. แต่ก่อนจะมีก็แค่ขโมยรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่มาออกกำลังกาย ส่วนการทำร้ายเหยื่อ ก่อนลากไปทำข่มขืนเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก และเกิดก่อนปิดสวนไม่ถึงชั่วโมง ต่อไปหญิงสาวที่มาคนเดียวไม่ควรอยู่ค่ำมืดมาก และเทศบาลฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจควรต้องจัดกำลังมาคอยดูแลความปลอดภัยด้วย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งเพื่อพบกับนายพิเชรฐ์ อายุ 42 ปี ซึ่งพักอาศัยในรีสอร์ท ที่นายปาน ใช้เป็นที่กักขัง น.ส.บี สาวไทยใหญ่ จังหวัดตาก ได้ให้ข้อมูลว่า นายปานพา น.ส.บีมาขอเข้าพักช่วงเช้าวันที่ 25 พ.ย. ใน สภาพอ่อนแรงไม่ได้สติคล้ายคนเมาแต่ไม่ทราบว่าเมาจากสาเหตุใด จากนั้นนายปานก็ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกไปจากหอพักทิ้ง น.ส.บี ไว้เพียงลำพัง กระทั่งช่วงเย็นเจ้าของรีสอร์ทสงสัยว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ถึงเงียบผิดปกติ จึงได้เปิดประตูเข้าไปพบว่า น.ส.บีนอนจมกองปัสสาวะอยู่บนที่นอนในสภาพที่หมดแรงช้ำไปทั้งตัวจึงได้ประสานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ปกครองที่จังหวัดตากก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล