เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กันยายน 64 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก นางสาวสมใจ พิมพ์ดี อายุ 58 ปี อาศัยอยู่ในสวนตำบลหนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี หลังพาคุณพ่อ คือ นายล้วน เขียวฟัก อายุ 85 ปี ไปฉีดวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า เข็มแรก แล้วกลายเป็นอัมพาตนอนติดเตียงอย่างน่าเวทนา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณพ่อ ยังเดินไปไหนมา ลุกเหินเดินคล่อง กินข้าวได้ด้วยตัวเอง แต่หลังจากกลับจากฉีดวัคซีนได้เพียง 2-3 วัน ก็มีอาการท้องเสีย อาเจียน ถ่ายอุจจาระออกมาเป็นลิ่มๆ สีดำ จากนั้นคุณพ่อก็ไม่สามารถลุกขึ้นเดิน-นั่ง จากที่เคยช่วยตัวเองได้ วันนี้ต้องนอนป่วยกลายเป็นคนอัมพาต
นางสาวสมใจ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ตนเองและครอบครัวรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่คุณพ่อต้องมาเป็นเช่นนี้ จริงๆ แล้ว ตนเองและพี่ๆ น้องๆ ทุกคนอยากให้คุณพ่อ ได้ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งตัวคุณพ่อเองก็บอกว่าทำแต่สวน อยู่ในสวนก็ไม่ต้องฉีดก็ได้ แต่เราทุกคนอยากให้ท่านมีภูมิต้านทาน จึงพาไปฉีดวัคซีนเมื่อเดือนที่แล้ว คิดไม่ถึงว่า พอกลับมาถึงบ้านคุณพ่อจะมีอาการข้างเคียง จนกลายเป็นคนอัมพาตติดเตียง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้คุณพ่อเป็นคนที่แข็งแรงมาก ทุกวันนี้ ต้องอาศัยตนเองและลูกๆ ช่วยกันผลัดกันดูแลคุณพ่อ ถ้ารู้แบบนี้ตนจะไม่ให้คุณพ่อฉีดวัคซีนเลย พร้อมทั้งนำหลักฐานใบนัดฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในวันที่ 22 ตุลาคม 64 ที่สนามวัดไทรใหญ่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี มาให้ผู้สื่อข่าวดู แล้วบอกว่ากับผู้สื่อข่าวว่า คงไม่ต้องฉีดแล้วเข็มที่ 2 ขนาดเข็มแรกยังอัมพาต ถ้าเข็ม 2 ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว
ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เข้ามาตรวจสอบดูแลว่าสาเหตุที่คุณพ่อกลายเป็นแบบนี้ มาจากการฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ แต่ทุกคนในครอบครัวเชื่อว่าเป็นเช่นนั้น และยืนยันว่าคุณพ่อกลายเป็นคนอัมพาต เพราะมาจากการฉีดวัคซีนเข็มแรกอย่างแน่นอน