ตำรวจ ปส. สนธิกำลังเปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาร 66/1” จับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญหลายคดี พร้อมติดตามยึดทรัพย์เครือข่ายกว่า 230 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 ร่วมกันแถลงแผนปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาร 66/1” ตรวจยึดทรัพย์สิน มูลค่า 230 ล้านบาท
พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวว่า ตามนโยบาย ผบ.ตร. ช่วงปีใหม่ ตำรวจได้ทำงานไม่มีวันหยุด และนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการเรื่องชุมชนยั่งยืน เพื่อลดปริมาณผู้เสพ และมีการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวเขตชายแดนเพื่อนบ้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติการในครั้งนี้ได้ออกหมายจับ 9 ราย จับกุมได้ 6 ราย เป็นผู้สมคบและมีส่วนร่วมในขบวนการ ทั้งนี้ พอจะทราบตัวผู้บงการแล้วเป็นคนไทย หลังจากนี้จะต้องออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาให้ได้ ตำรวจจะไม่หยุดทำงานจะสืบสวนติดตามจับกุมต่อไป
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ทางตำรวจ บก.ปส.4 ได้สืบสวนสอบสวนและขยายผลของเครือข่ายสำคัญจนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาร 66/1” เมื่อช่วงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยตำรวจ บก.ปส.4 นำทีมบูรณาการกำลังกับ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ เป้าหมายใน กทม. นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี อำนาจเจริญ ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และตรัง รวม 40 จุด โดยสืบเนื่องจากเมื่อปลายปี 2564 ต่อเนื่องปี 2565 ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.ปส.4 ได้สืบสวนจับกุมคดียาเสพติดในพื้นที่ กทม.ต่อเนื่องปริมณฑลหลายคดี และได้ขยายผลจนทราบถึงแหล่งที่พักยาเสพติดอยู่ในพื้นที่เขตดอนเมือง สามารถจับกุมคนจำหน่ายได้พร้อมตรวจยึดของกลางยาบ้าได้ประมาณ 1 ล้านเม็ด และขยายผลต่อจนทราบถึงเครือข่ายและสามารถจับกุมคนทำหน้าที่ธุรกรรมทางการเงิน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินได้รวมมูลค่า ประมาณ 75 ล้านบาท จากนั้นได้ขยายผลอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่การออกหมายจับนายฉัตรชัย หรืออาฟู่ ผู้สั่งการ และผู้ทำหน้าที่ต่างๆ ในเครือข่าย และทำการสืบสวนมาโดยตลอด
การเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมเครือข่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 4 ราย คือ นายสุวัฒน์ ระดับผู้สั่งการ นางมยุรีย์ เป็นผู้ทำธุรกรรมทางการเงิน นายธนโชติ และ นายนนท์ เป็นผู้ค้าในพื้นที่ ส่วนในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จับกุมได้ 1 คน คือ นายเปรมปวริศ มีหน้าที่ทำธุรกรรมทางการเงิน และในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จับกุม นายจตุรพร ซึ่งเป็นผู้ค้าในพื้นที่ ทั้งหมดถูกแจ้งข้อหา “กระทำผิดฐานสมคบกันฯ เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด, สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด และรับเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้กระทำผิด
นอกจากนี้ตำรวจ ปส.4 ยังได้ยึดอายัดทรัพย์สินที่คาดว่าจะได้มาจากการค้ายาเสพผิดหลายรายการในหลายพื้นที่ เช่น 1. บ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งอยู่ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร 11 หลัง, ปทุมธานี 2 หลัง, นนทบุรี 1 หลัง, ชลบุรี 1 หลัง และ สุราษฎร์ธานี 1 หลัง รวมทั้งสิ้น 16 หลัง มูลค่าประมาณ115,000,000 ล้านบาท 2.โฉนดที่ดิน ในจังหวัดอำนาจเจริญ 4 แปลง, อุบลราชธานี 2 แปลง กำแพงเพชร 1 แปลง, ขอนแก่น 1 แปลง และ ภูเก็ต 1 แปลง รวมจำนวน 9 แปลง มูลค่าประมาณ 94,000,000 ล้านบาท 3.รถยนต์ ยี่ห้อ นิสสัน 350z 1 คัน, อีซูซุ ดีแมคซ์ 2 คัน, ฮอนด้า ซีวิค 2 คัน, ฮอนด้า CRV 1 คัน และโตโยต้า คัมรี 1 คัน รวม 7 คันมูลค่าประมาณ 8,500,000 บาท 4.ทองคำแท่ง จำนวน 8 แห่ง จำนวน 360 บาท มูลค่า ประมาณ 11,000,000 บาท ยึดได้ที่บ้านนายเปรมปวริศ ในพื้นที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 5. ทองคำรูปพรรณ จำนวน 21 บาท มูลค่าประมาณ 630,000 บาท 6. เงินสด 1,300,000 บาท 7. เงินที่อายัดจากบัญชี จำนวน 1,300,000 บาท 8.ทรัพย์สินอื่นๆ เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม 11 ใบ, นาฬิกา 21 เรือน และ พระเลี่ยมทอง 3 องค์ มูลค่าประมาณ 2,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ ประมาณ 230 ล้านบาท
ส่วนกระแสข่าว นายฐปนันท์ หรือหนูเฉิน ธรรมรัตน์ธาดา ผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ทางการไทยต้องการตัวได้เสียชีวิตแล้วในต่างประเทศ พล.ต.อ.ชินภัทร กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ ยังรอการยืนยันอยู่ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานประเทศเพื่อนบ้านเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายสำคัญในคดียาเสพติดมาดำเนินการตามกฎหมาย