“ทนายโนบิ” นำ “น้องบาส” ฮีโร่ช่วยเด็กไฟดูด ขึ้นโรงพักแจ้งความเพจดัง อ้างเปิดรับบริจาคไม่โปร่งใส หวั่นหาผลประโยชน์จากความเจ็บป่วยของพี่น้องประชาชน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ทนายความ นำนายอรรถชัย อาจอุดม หรือน้องบาส อายุ 19 ปี ฮีโร่ช่วยนักเรียนที่ถูกไฟดูด และนางสมถวิล เมืองณะศรี อายุ 62 ปี ยายน้องเรดิโอ นักเรียนหญิงชั้น ม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ ที่ถูกไฟดูดหมดสติ บริเวณหลังโรงเรียนสตรีราชินูทิศ ถนนศรีชมชื่น เขตเทศบาลนครอุดรธานี เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี หลังโดนเพจดังนำเหตุการณ์ดังกล่าวไปรับบริจาค และนำเงินมามอบให้ แต่ไปโพสต์ลงเพจไม่ตรงจำนวน
ทนายโนบิ เผยว่า มีเพจหนึ่งโพสต์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องเงิน ที่นำมามอบให้น้องบาสและน้องเรดิโอแล้วนำไปโพสต์ ซึ่งน้องบาสและแม่น้องเรดิโอได้ไปเจอโพสต์ในเพจ ซึ่งไม่ตรงกับความจริง จึงได้สอบถามข้อมูล ทำให้ทราบว่าข้อความที่โพสต์และข้อเท็จจริงไม่ตรงกัน น้องบาสและครอบครัวน้องเรดิโอ จึงเดินทางมาแจ้งความ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นน้องบาส และครอบครัวผู้ประสบเหตุ ไม่ได้อนุญาตและมีเจตนาเปิดรับบริจาคจากพี่น้องประชาชน
รวมทั้งมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า ยอดเงินที่นำมามอบให้ครอบครัวผู้ประสบเหตุ กับยอดเงินที่รับบริจาคมา แท้ที่จริงมีเท่าไรกันแน่ เพราะที่ผ่านมายอดปัจจุบัน กับยอดที่ให้มาไม่ตรงกัน และเอาความเจ็บป่วย อีกทั้งความน่าสงสาร ไปโพสต์ทำให้หลายคนโอนเงินมาให้ เพื่อจะส่งมอบมาให้ครอบครัวผู้ประสบเหตุ แต่พอมาถึงอาจจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือถ้าไม่มีการทวงถาม หรือทักท้วงจากเอฟซี หรือพี่น้องประชาชน ก็จะไม่ได้รับการชี้แจง พอครอบครัวผู้ประสบเหตุทราบข้อมูลแล้วจึงประสานมาหา ได้มีการลงไปพูดคุยกับน้องบาสและคุณยายน้องเรดิโอ จนทราบเรื่องราวทั้งหมด
ทางด้าน นายอรรถชัย หรือ น้องบาส เล่าว่า มีคนชื่อ “องุ่น” มาพบที่โรงพยาบาล บอกว่ามีคนโอนเงินมาให้ จะมามอบที่โรงพยาบาล โดยมอบเป็นซองกับทุกคน ต่อมาตนไปเห็นในเพจว่ามอบให้น้องๆ จำนวน 15,000 บาท โดยให้คนละ 5,000 บาท ตนคิดว่าไม่น่าจะถึง เพราะยายน้องเรดิโอบอกว่าได้แค่ 1,000 บาท ซึ่งไม่เป็นไปตามที่โพสต์ และได้มามอบเงินใส่ซองที่บ้าน แล้วขอยืมเงิน 1,000 บาท จะไปเติมน้ำมัน แล้วชวนคุยจนลืม ตอนกลับก็เอาซองที่มอบให้ไปด้วย พอยายมาถามหาซอง ก็พบว่าไม่มี เมื่อโทร.ไปถามก็บอกว่าลืมไว้ในกระเป๋า จากนั้นก็ได้โอนเข้าบัญชีธนาคาร 4,000 บาท ที่ตนสงสัยก็คือ ถ้าจะนำเงินมาให้ แล้วทำไมไม่ให้ 5,000 บาทไปเลย จึงอยากให้ออกมาชี้แจง
ทั้งนี้ ตนไม่ได้บอกให้เขาไปโพสต์รับบริจาค ตนโพสต์ว่าโทรศัพท์พังใช้ไม่ได้ ตอนนั้นมีคนโทร.มาหาแล้วประสงค์จะมอบโทรศัพท์ให้โดยตรง ตนเลยเปิดบัญชีรับบริจาคให้โอนเข้าบัญชีแค่ 1 ชั่วโมงก็ปิดรับบริจาค ไม่ได้บอกว่าให้เอาไปฝากคนโน้นคนนี้
ส่วนนางสมถวิล เมืองณะศรี อายุ 62 ปี ยายน้องเรดิโอ เล่าว่า ตอนอยู่โรงพยาบาลเขามามอบเงินให้ โดยควักเงินออกมา 1,000 บาท ใส่ซองสีขาวให้ จากนั้นก็ให้น้องบาสถ่ายรูปให้ มีภาพชัดเจนในการรับซอง แล้วเอาซองใส่กระเป๋า ต่อมาลูกสาวไปเห็นในเพจว่ามอบเงินให้ 5,000 บาท จึงโทร.มาบอกว่าเงินในเพจกับเงินในซองมันตรงกันหรือไม่ จึงได้ไปรื้อในกระเป๋าในซองมีเงิน 1,000 บาท มีพยาบาลหลายคนเห็น ขอสาบานจากใจจริงผู้หญิงแก่ๆ คนนี้ว่าในซองมีเงิน 1,000 บาท
ขอร้องว่าอย่ามาเอาคนเจ็บป่วยที่นอนโรงพยาบาล ไม่เคยคิดจะอยากได้เงินกับใคร ไม่คิดจะเปิดบัญชีขอบริจาคจากใคร เราขอเพียงให้รอดชีวิตมาเรียนหนังสือ หรือมาเป็นคนดีของสังคม พอยายมาดูเพจ ทำให้ยายคิดว่าเงินในเพจและเงินในซองไม่ตรงกัน วอนว่าอย่าไปทำแบบนี้ เพจไหน หน่วยงานไหน ที่อยากบริจาค อยากช่วยเหลือ ก็เอามาให้โดยตรง ถ้าสงสารและเมตตา ถ้ามาทำในลักษณะนี้ ทำให้คุณยายและผู้ป่วย ซึ่งได้รับความทุกข์จากการเจ็บป่วยอยู่แล้ว เอาเราไปหากิน ขอร้องอย่าเอาเป็นตัวอย่าง ขอให้หยุด
ทนายโนบิ กล่าวอีกว่า ได้มีการตรวจสอบจากนายอำเภอเมืองอุดรธานี ไม่มีบุคคลใดมาขอเปิดการเรี่ยไรและบริจาค ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏ ก็แสดงว่ากลุ่มบุคคลกลุ่มเพจดังกล่าว ยังไม่ได้ขอนุญาต หากพฤติกรรมเป็นการส่งมอบเงินไม่ครบ ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคมาก็จะมีปัญหา วันนี้จะเข้าหารือกับพนักงานสอบสวน ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะลงบันทึกประจำไว้ เป็นหลักฐานว่าครอบครัวไม่ได้มีเจตนาหรือความต้องการให้บุคคลใดบุคคลหนึ่ง นำเรื่องราวดังกล่าวไปเปิดรับบริจาคแต่อย่างใด และการกระทำดังกล่าว จะไม่เกี่ยวข้องกับผู้ประสบเหตุทุกคน พี่น้องประชาชนที่ติดตามข่าวอยากช่วยเหลือสนับสนุน อยากแนะนำว่าให้ติดต่อครอบครัวผู้ประสบเหตุโดยตรง ไม่ควรผ่านบุคลใดบุคคลหนึ่ง เพราะอาจจะเป็นช่องว่างให้มิจฉาชีพหาผลประโยชน์จากความเจ็บป่วยของพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า จะลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบว่ามีฐานความผิดอะไรบ้าง เข้าข้อกฎหมายมาตราใด และจะได้สอบปากคำผู้เสียหาย และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยหลังจากนั้น ทนายโนบิ ได้พาน้องบาสและน้องเรดิโอ ไปเยี่ยมน้องโซดาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งน้องโซดากำลังจะเข้าสแกนสมอง.