ยูเครนยังคงยืนหยัดต่อสู้กับกองกำลังรัสเซียมานานกว่า 1 เดือน และทหารต่างชาติหลายพันคนก็ตบเท้าเข้ามาในยูเครนตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน แต่หนึ่งในทหารที่เป็นที่จับตามองมากที่สุดคือ ‘วาลี’ ผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น มือสไนเปอร์ที่อันตรายที่สุดในโลก
ทั้งนี้ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ‘วาลี’ สไนเปอร์ระดับโลก ได้เสียชีวิตแล้ว หลังเข้าร่วมรบกับกองกำลังยูเครน เพื่อต่อต้านการรุกรานจากรัสเซีย ดังนั้น เพื่อสยบข่าวลือเรื่องการเสียชีวิตของเขา วาลี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ของแคนาดา ผ่านวิดีโอคอล และเผยให้เห็นว่าเขายังสบายดี ไม่มีรอยขีดข่วนใด ๆ
—วาลี คือใคร?—
วาลี เป็นอดีตทหารสไนเปอร์ชาวแคนาดา เขาเดินทางมาถึงยูเครนเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา กับเพื่อนทหารอีก 3 คน พร้อมด้วยกลุ่มทหารผ่านศึกสหราชอาณาจักร
ก่อนหน้านี้ สไนเปอร์ วัย 40 ปี ทำงานในตำแหน่งวิศวกรคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อสงครามยูเครนเริ่มระอุ เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงาน และทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง เพื่อเข้าร่วมกองกำลังต่างชาติพิทักษ์ดินแดนของยูเครน โดยชื่อจริงของเขายังคงเป็นความลับ และใช้เพียงแค่ชื่อว่า ‘วาลี’ แปลว่า ผู้พิทักษ์แห่งอาหรับ
“สัปดาห์ก่อน ผมยังนั่งเขียนโปรแกรมอยู่เลย แต่ตอนนี้ผมต้องจับอาวุธต่อต้านรถถัง เพื่อฆ่าคนจริง ๆ นั่นคือความจริงของผมในตอนนี้” วาลี กล่าว
วาลี กล่าวอีกว่า สิ่งที่ยากที่สุดในการตัดสินใจคือ เขาต้องพลาดงานวันเกิดของลูกชาย แต่วาลีมีทางเลือกไม่มาก
“ผมอยากช่วยพวกเขา…ง่าย ๆ แค่นี้เลย”
“ผมต้องช่วยเพราะยังมีประชาชนต้องใช้ชีวิตอยู่กับระเบิด เพียงเพราะเขาอยากจะเป็นยุโรปไม่ใช่รัสเซีย” วาลี กล่าว
—สไนเปอร์มือพระกาฬ—
วาลี เคยสังกัดอยู่กรมทหารราบที่ 22 แห่งแคนาดา เมืองกันดาฮาร์ ในช่วงสงครามอัฟกานิสถานเมื่อปี 2009 และ 2011 นอกจากนี้ เขายังร่วมเป็นทหารอาสาหลายครั้ง เพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามหรือ ไอเอส ที่อิรัก ในปี 2015
ทั้งนี้ สื่อ รายงานว่า วาลีสามารถยิงเป้าหมายได้ถึงวันละ 40 คนต่อวัน ในขณะที่ ค่าเฉลี่ยการสังหารของสไนเปอร์ทั่วไปอยู่ที่ 5-6 คนต่อวัน
วาลียังเป็นเจ้าของสถิติระยะสังหารไกลที่สุดในโลก เขายิงนักรบไอเอสในเมืองโมซูล จากระยะทาง 3.5 กิโลเมตร โดยใช้ปืนไรเฟิล McMillan Tac-50 ในปี 2017
—วาลี กับชีวิตในยูเครน—
วาลี กล่าวว่า เขารบอยู่ใกล้กรุงเคียฟเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และมันอันตรายมากที่จะเปิดเผยตำแหน่งของเขาให้แก่เพื่อน และครอบครัวโดยใช้โทรศัพท์ เนื่องจากศูนย์ฝึกอบรมในพื้นที่ตะวันตกของยูเครนถูกโจมตี โดยมีข่าวลือว่า รัสเซียใช้สัญญาณโทรศัพท์ทำให้สามารถแยกแยะกองกำลังจำนวนมากได้ และวาลีได้ทิ้งโทรศัพท์ไว้ในที่ปลอดภัยในระหว่างการต่อสู้รอบล่าสุด
“มีสองสิ่งที่ผมยืนยันได้ คือ การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และเรื่องที่คนคิดว่าผมตายแล้ว” เขา กล่าวกับ อเล็กซ์ บลอยด์ จากหนังสือพิมพ์ The Record ของแคนาดาเมื่อวันอังคาร (22 มีนาคม)
“ผมยังมีชีวิตอยู่…คุณเห็นไหม ไม่มีรอยขีดข่วนเลยสักนิด”
วาลี กล่าวอีกว่า เขาเห็นทหารรัสเซียยิงไม่เลือกหน้า พร้อมยืนยันว่ารูปภาพและข่าวที่รายงานการโจมตีโรงพยาบาล และย่านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตะวันออกคือเรื่องจริง
“พวกเขาใช้ปืนใหญ่, ไรเฟิล และกระสุนเป็นจำนวนมาก…ทหารรัสเซียยิงทุกที่ ผมคิดว่าผมอาจได้รับปลอกกระสุนหลายร้อยนัดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา”
—ทหารต่างชาติอาสาช่วยยูเครน—
รัฐบาลยูเครน รายงานว่า มีอาสาสมัครต่างชาติกว่า 2 หมื่นคน จากทั้งหมด 52 ประเทศ เข้าร่วมกับกองกำลังยูเครน และชาวต่างชาติเหล่านี้ จะได้สวมใส่เครื่องแบบทหารยูเครน และได้รับสัญชาติ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าถ้าหากพวกเขาถูกรัสเซียจับ จะได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาเจนีวา
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลแคนาดามีคำแนะนำต่อพลเรือนไม่ให้เดินทางไปยูเครน ขณะที่ เมลาเนีย โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนนาดา กล่าวว่า พลเรือนสามารถเข้าร่วมกองกำลังยูเครนได้ ตามหลัก ‘สิทธิส่วนบุคคล’
—————
แปล-เรียบเรียง: พรวษา ภักตร์ดวงจันทร์
ภาพ: Ukraine UA