ภูเขาไฟคุมเบรวีฮา (Cumbre Vieja) บนเกาะลาปาลมา ของสเปน ที่เกิดการปะทุรุนแรงตั้งแต่เมื่อ 19 ก.ย. โดยลาวาหินร้อนไหลทะลักจากปากปล่องลงมาท่วมทับพื้นที่เมืองเอล ปาโซ และอีกหลายเมือง ซึ่งทางการทยอยสั่งอพยพประชาชนล่วงหน้าหลายครั้ง จนถึงตอนนี้มีประชาชนต้องออกจากบ้านเรือนรวมแล้วเกือบ 7,000 คน
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า ธารลาวาจะไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกในวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 กันยายน) และเตือนว่า จะเกิดการระเบิดขึ้นทันที เมื่อลาวาที่ร้อนเดือดอุณหภูมิสูงถึงกว่า 1,800 องศาฟาเรนไฮต์ สัมผัสกับน้ำทะเลที่เย็น และจะทำให้เกิดกลุ่มก๊าซพิษจำนวนมาก พวยพุ่งขึ้นมาจากน้ำทะเล จนหน่วยงานสเปนที่ดูแลด้านทะเลได้ประกาศปิดพื้นที่ในทะเล เป็นระยะทาง 2 ไมล์ทะเล เพื่อป้องกันอันตรายจากการระเบิดและก๊าซพิษ
อย่างไรก็ตาม ธารลาวาของภูเขาไฟคุมเบรวีฮา บนเกาะลาปัลมา ของประเทศสเปน ที่ไหลลงสู่ทะเลทำให้เกิดแผ่นดินงอกในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งพื้นดินที่เพิ่มขึ้นมายังเป็นถ่านหินสีดำ โดยยังต้องรอการสำรวจในเรื่องความปลอดภัย และถ้าธารลาวายังไหลลงทะเลต่อเนื่อง เกาะลาปัลมา อาจได้พื้นที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกันนักวิทยาศาสตร์ออกมาระบุถึงข้อกังวลของหลายฝ่ายที่คิดไปถึงกรณีเลวร้ายที่สุดของภัยธรรมชาติครั้งนี้ ตามทฤษฎีธรณีวิทยาที่มีการเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อน ในงานวิจัยที่ตีพิมพ์ทางวารสารธรณีวิทยา ซึ่งสตีเฟน วาร์ด แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย และไซมอน เดย์ แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน อ้างอิงจากข้อมูลการสำรวจและศึกษาพบว่า การระเบิดของภูเขาไฟคุมเบร วีฮา ในอนาคตมีโอกาสที่จะทำให้แผ่นดินทางด้านใต้ของเกาะ ประมาณ 150-500 ลูกบาศก์กิโลเมตร ถล่มลงสู่ทะเลในมหาสมุทรแอตแลนติก และมีการทำแบบจำลองการเกิดดินถล่มในครั้งนี้ว่าจะทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิความสูงกว่า 50 เมตร ซัดไปไกลถึงแถบอีสต์ โคสต์ ชายฝั่งทางตะวันออกของสหรัฐฯ นั้น
ศาสตราจารย์เครสโป บลัง นักธรณีพลศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเกรนาดาในสเปน เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทำให้ผู้คนแตกตื่นตกใจ ซึ่งในกณีเลวร้ายที่สุดคือแมกมาจะไหลออกจากก้นหลุมแมกมา (magma chamber) จนหมด และอาจทำให้เกิดการยุบตัวภายในปล่องภูเขาไฟ แต่โอกาสเกิดขึ้นน้อย และเชื่อว่าเมื่อภูเขาไฟสงบลงทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านสถาบันภูเขาไฟวิทยาของหมู่เกาะคะแนรีของสเปน ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟของรัฐบาลสเปน ออกประกาศเตือนครั้งใหม่ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 กันยายน) ตามเวลาท้องถิ่นว่า อันตรายจากภูเขาไฟระเบิดครั้งนี้ ยังไม่จบสิ้นลง แต่จะยังคงเป็นภัยคุกคามประชาชนต่อไปอีกนาน 84 วัน หรืออีกเกือบ 3 เดือน ซึ่งได้เตือนประชาชนบนเกาะลา ปัลมาว่า ยังจะเกิดธารลาวาไหลออกมาเพิ่มอีก อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กอีกหลายครั้ง ภูเขาไฟยังจะพ่นเถ้าถ่าน ก๊าซพิษ รวมไปถึงเกิดฝนกรดตกลงมาด้วย และประกาศเตือนก่อนหน้านี้ ทางสถาบันเตือนว่า ภูเขาไฟได้พ่นซัลเฟอร์ ไดอ็อกไซด์ออกมาจำนวนมากทุกวันถึงวันละ 8,000-10,500 ตัน ที่เป็นอันตรายต่อปอด
