นักวิทยาศาสตร์ผู้ตกเป็นข่าวอื้อฉาวและเคยต้องโทษจำคุกหลังจากที่เขาทดลองผ่าตัดพันธุกรรมมนุษย์เป็นครั้งแรกของโลก ได้ออกมาเปิดเผยถึงสภาพของทารกแฝดซึ่งปัจจุบันนี้ เติบโตและแข็งแรงดีเหมือนเด็กทั่วไปคนอื่นๆ
เฮ่อเจี้ยนขุย นักวิจัยผู้อยู่เบื้องหลังการตัดต่อพันธุกรรมของทารกแฝดชาวจีนในปี 2561 ซึ่งก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบจากผู้คนจำนวนมากในวงการการแพทย์และวิทยาศาสตร์นานาชาติ ได้ออกมาเปิดเผยถึงความเป็นอยู่และสุขภาพของเด็กฝาแฝดที่ผ่านการตัดต่อพันธุกรรมในโครงการของเขา
เฮ่อเจี้ยนขุยเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำเมื่อเดือนเม.ย. ปีที่แล้ว หลังจากที่เขาสร้างกระแสต่อต้านและตำหนิในประเทศจีนจากโครงการตัดต่อพันธุกรรมทารกของเขา ทำให้เขาได้รับการตัดสินโทษจำคุก 3 ปีในข้อหาทุรเวชปฏิบัติ จงใจละเมิดกฎหมายกำกับด้านชีวการแพทย์ของประเทศเพื่อ “ชื่อเสียงและเงินทอง” เป็นการส่วนตัว
หลังจากพ้นโทษ นักวิจัยผู้อื้อฉาวได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเกี่ยวกับความเป็นไปและสุขภาพของเด็กฝาแฝด “ลูลู่” และ “นานา” ซึ่งขณะนี้มีอายุได้ 4 ขวบ เด็ก ๆ มีสุขภาพดีและเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงเช่นเดียวกับเด็กทั่วไป เขากล่าวว่าไม่ต้องการให้เด็ก ๆ โดนรบกวนด้วยเหตุผลเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และย้ำว่าความสุขของเด็กและครอบครัวต้องมาก่อนอย่างอื่น
อย่างไรก็ตาม เหอ ได้ยอมรับว่าเขาพลาดที่ลงมือ “เร็วเกินไป” และสารภาพว่ารู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก รวมทั้งสาบานว่าจะขอเป็นผู้ดูแลและจัดหาการรักษาหรือยาที่จำเป็นในการติดตามอาการของเด็ก ๆ ไปตลอดชีวิต
ลูลู่ และ นานา เป็นเด็กฝาแฝดที่ถือกำเนิดพร้อมกับยีนที่ได้รับการตัดต่อเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันโรค HIV ด้วยเทคนิค CRISPR-Cas9 ซึ่งจะทำลายยีน CCR5 ซึ่งทำให้เด็กมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ HIV ได้ง่าย
แต่การตัดต่อดังกล่าวก็ทำให้เกิดการเปลี่ยนลำดับพันธุกรรมที่ผิดเพี้ยนและแตกต่างกันไปในตัวฝาแฝด จึงยังต้องมีการติดตามดูสุขภาพของเด็กทั้งคู่จนกว่าจะถึงวัยรุ่นหรือเมื่อเด็กทั้งสองอายุครบ 18 ปี
แหล่งข่าว : nextshark.com
เครดิตภาพ : Pixabay / Arek Socha