ป.ป.ส. ร่วม ตำรวจ ภาค 5 แถลงจับยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด ไอซ์ 288 กก. ยึดเงินสด 1.1 แสนบาท ทอง 2 รายการ เครือข่าย “หนูเจิ้น” เตรียมตั้งรางวัลนำจับตัวการ 5 แสนบาท
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ต.ค. 64 ที่สำนักงาน ป.ป.ส. ดินแดง นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 แถลงข่าวจับกุม นายกิตติธร แสนท้าว อายุ 24 ปี และนายกานต์ ธนาวงศ์ไพศาล อายุ 24 ปี ทั้งสองเป็นชาวม้ง พร้อมของกลาง ไอซ์ 288 กิโลกรัม ยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด รถกระบะ ยี่ห้อ อิซูซุ ดีแม็กซ์ สีเทา ทะเบียน ผต 3908 นครปฐม ลักษณะต่อตู้ทึบด้านหลัง (ใส่ยาเสพติดของกลาง) และรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีดำ ทะเบียน 2 ฒง 2348 กรุงเทพมหานคร พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 1.1 แสนบาท และทองรูปพรรณ 2 รายการ
พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาเมื่อวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจภูธรภาค 5 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย และสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 5 จับกุมนายชาญชัย แซ่เล่า และพวกรวม 4 คน พร้อมของกลาง ยาบ้า 5.9 ล้านเม็ด และรถจยย. 4 คัน จับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่โถ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ต่อมา ขยายผลจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาเคยนำยาเสพติดไปส่งที่โกดังเก็บสินค้า ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีการติดป้ายอำพรางว่าเป็นร้านรับซื้อของเก่า ร่วมกันสืบสวนเฝ้าติดตาม จนกระทั่งจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 20-21 ต.ค. 64 จาการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ถูกจ้างวานมาจากนายสันติ แซ่ลี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติดรายสำคัญ ซึ่ง สำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว
ด้าน นายวิชัย กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าว เป็นการบูรณาการความร่วมมือของหลายหน่วยงาน จากนี้จะเร่งขยายผลจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์สิน เพื่อทำลายเครือข่ายและโครงสร้างการค้ายาเสพติดรายสำคัญดังกล่าวโดยแนวทางการขยายผลยึดทรัพย์และสืบสวนการเงินเพื่อทำลายเครือข่าย ถือเป็นแนวทางสำคัญของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในการปราบปรามยาเสพติด ส่วนการติดตามจับกุมตัวนายสันติ หัวหน้าขบวนการดังกล่าว พบว่าได้หลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ใช้ชื่อเครือข่ายว่า “หนูเจิ้น” ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. เตรียมตั้งรางวัลนำจับ มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท นอกจากนี้ จะมีการขอข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อจัดทำลำดับความสำคัญ และมูลค่ารางวัลนำจับเครือข่ายยาเสพติด โดยจะจัดทำเป็นโปสเตอร์ หรือปฏิทินหมายจับ เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ทั้งในและต่างประเทศช่วยติดตามจับกุมตัว ซึ่งผู้แจ้งเบาะแสจะได้เงินรางวัล 75 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่จับกุมจะได้ส่วนแบ่ง 25 เปอร์เซ็นต์.