ประชาธิปัตย์เสียเลือดก้อนใหญ่ “เสนพงศ์” ประกาศตัดขาดทั้งตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

ประชาธิปัตย์เสียเลือดก้อนใหญ่ที่ “นครศรีฯ” “เสนพงศ์” ประกาศตัดขาดทั้งตระกูล “พงศ์สินธุ์” แจงเหตุสละเรือเพราะโดนมองไม่เห็นหัว ตัดสิทธิลงสมัคร ส.ส. แต่ทีตระกูลอื่นลงได้ 2 คน “จุรินทร์” โต้ไม่ได้ทอดทิ้งใคร ยึดตามยุทธศาสตร์เลือกตั้ง “ตั๊น จิตภัสร์” ดับกระแสโยกซบ ภท. พปชร.เปิดศึกฟัด ปชป.ใครกันแน่ทำของแพง ภท.กลิ่นหอม ส.ส.พปชร.แห่ซบเพิ่ม “สุทิน” แจง พท.ปรับโฉมไม่เกี่ยวโดนยุบ “วันชัย” ปูดแบ่งเค้ก ส.ว.ลากตั้ง เหตุผู้มีอำนาจแตกคอ “ระวี” ถก “วิษณุ”-พท.ดันนิรโทษกรรมต่อ ส.ส.ปชป.หวด สธ.คุมเข้มแค่ช่อดอก ปุ๊นในครัวเรือนเสรี โพลชี้คนภาคกลางเทใจให้ “อุ๊งอิ๊ง”-เพื่อไทย “บิ๊กตู่” ชูกุญแจ 3 ดอกพาอาเซียนฝ่าวิกฤติ เปิดเมนูเด็ด “ปลากุเลาตากใบ” รับผู้นำเอเปก

สถานการณ์ภายในพรรคประชาธิปัตย์ยังคงห้ามเลือดไม่อยู่ เมื่อนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรม ราช 4 สมัย แถลงการณ์ ลาออกจากประชาธิปัตย์ทั้งตระกูล เพราะถูกมองไม่เห็นค่าตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสมัคร ส.ส. ขณะที่ตระกูลอื่นได้ลงถึง 2 คน

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช ออกแถลงการณ์แจ้งขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ว่า เมื่อพรรคเปิด ตัวผู้สมัคร ส.ส.เมืองคอนอย่างเป็นทางการ นับว่าเป็น ความชัดเจนไม่มีชื่อตน จากนี้ไปขอตัดสินใจทาง การเมืองด้วยตัวเอง ทั้งที่เคยเป็นผู้สมัครเก่าของพรรคในการเลือกตั้งซ่อม และมีพี่ชายคือนายเทพไท เป็นอดีต ส.ส. 4 สมัย ทำหน้าที่ปกป้องพิทักษ์อุดมการณ์ต่อสู้ให้กับพรรคอย่างเข้มแข็ง ยืนหยัดต่อสู้กับระบอบทักษิณจนถูกฟ้อง 23 คดี แต่พรรคกลับไม่ให้ความสำคัญ ไม่เห็นคุณค่าของนักสู้ ตัดสิทธิ์สมาชิกครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ แต่กลับให้สิทธิ์ตระกูลอื่นลงตระกูลละ 2 คน ถือว่าไม่ให้เกียรติคนที่เคยต่อสู้ให้กับพรรค เมื่อแนวทางเป็นเช่นนี้จึงจำเป็นต้องพิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคทันที

ขอตัดขาดกับ ปชป.ทั้งตระกูล

นายพงศ์สินธุ์กล่าวว่า ยืนยันว่าสมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ไม่ได้ทิ้ง ปชป. แต่พรรค ปชป.ต่างหากที่ทอดทิ้ง ไม่ให้โอกาสสมาชิกคนในตระกูลเสนพงศ์ เป็นเช่นนี้สมาชิกในครอบครัวทั้งหมดจะยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคปชป. ที่ผูกพันมายาวนาน แม้ว่าจะไม่ใช่ตระกูลดั้งเดิม หรือสืบทายาทมาจากรุ่นพ่อ แต่ครอบครัวตระกูลเสนพงศ์เป็นผู้สนับสนุนพรรคมาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ เป็นหัวคะแนนให้กับผู้สมัครของ ปชป.ทุกคน จนมาถึงสมัยนายเทพไท บัดนี้สมาชิกในครอบครัวตระกูลเสนพงศ์ตกลงใจพร้อมกันขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป. พร้อมกับคืนเสื้อแจ็กเกตที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค สวมให้ในวันประกาศส่งสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.นครศรี ธรรมราช เขต 3 ด้วย ลาก่อนพรรคประชาธิปัตย์สวัสดี

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“จุรินทร์” โต้ไม่ได้ทิ้ง “เสนพงศ์”

ที่ อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีคนในตระกูลเสนพงศ์ บอกถูกพรรคประชาธิปัตย์ทอดทิ้งว่า ไม่มีใครทิ้งใคร เพียงแต่พรรคต้องพิจารณาไปตามความเหมาะสม มีขั้นตอนกระบวนการพิจารณา พรรคให้ความเป็นธรรมกับทุกคนที่สนใจลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรค แต่ 1 เขตมีผู้แทนฯได้ 1 คน จะส่ง 2 คน ก็ไม่ได้ ยกเว้นสนใจจะไปลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ถ้าไม่ลงบัญชีรายชื่อพรรคก็ไม่มีทางออก ไม่ว่าพรรคไหนไม่ใช่เฉพาะ ปชป. หลังเอเปกสถานการณ์การเมืองจะเดินใกล้โหมดเลือกตั้งมากขึ้น จะเข้มข้นขึ้น ทุกพรรคต้องลงพื้นที่หาเสียง และการโยกย้ายของทุกพรรคก็จะมากขึ้น

กก.บห.ยังน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

เมื่อถามว่าผู้บริหารพรรคต้องมาคุยกันเพื่อหยุดเลือดไหลออกหรือไม่ นายจุรินทร์ตอบว่าผู้บริหารพรรคคุยกันตลอด ทำงานไปกันด้วยดี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค กก.บห. ส.ส. และสมาชิกพรรค ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราทำงานอย่างมียุทธศาสตร์ มีเป้าหมายไม่สะเปะสะปะ มีการกำหนดไว้หมดแล้วว่าพื้นที่ใดเป็นพื้นที่เป้าหมายพิเศษ พื้นที่ใดที่ต้องไปดำเนินการ 1, 2, 3, 4, 5 การเลือกตั้งเที่ยวหน้าจะเปลี่ยนไป จากบัตรเลือกตั้งใบเดียวเป็นบัตรสองใบ ยุทธศาสตร์ในการหาเสียงก็ต้องแตกต่างกันไป

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“ตั๊น จิตภัสร์” ยันไม่ย้ายพรรค

น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย หรือพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ยังลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์ เพราะเติบโตและได้รับโอกาสมากับพรรคนี้ตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ พรรคให้โอกาสทำงาน และทุกวันนี้ยังช่วยงานนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ทุกวันนี้ที่ได้เป็น ส.ส.ก็เพราะพรรคเปิดโอกาสให้ เหตุผลที่เลือกอยู่กับประชาธิปัตย์ เพราะพรรคนี้คือสถาบันการเมือง ไม่ว่าใครจะมาหรือใครจะไป ตัวพรรคยังคงอยู่ตลอดและอยู่มาแล้วกว่า 76 ปี ยอมรับว่ารู้สึกเสียดายและเสียใจที่ ส.ส.รุ่นพี่ๆ และเพื่อน ส.ส.หลายคน มีการเปลี่ยนแปลงย้ายออก แต่ทุกคนคงมีเหตุผลเป็นของตัวเอง และมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง เราเข้าใจว่าแต่ละพื้นที่แข่งขันต่างกัน

ตั้งกลุ่ม “เพื่อนอันวาร์” รุก 3 จชต.

นายพิเชษฐ ถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในการสัมมนาพรรค พปชร.ครั้งนี้ คล้ายตรวจกำลังพลและเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง สำหรับภาคใต้ได้หารือกับนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ ที่มาเฝ้าสังเกตการณ์การสัมมนามีความเห็นตรงกันจะตั้งกลุ่ม “เพื่อนอันวาร์” เพื่อกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับการพัฒนา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และจังหวัดฝั่งอันดามัน ในฐานะเคยเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เสนอให้มีนโยบายคืนสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มจากยกเลิกกฎอัยการศึกเฉพาะอำเภอเมืองก่อน และกำหนดยุทธวิธี “การเมืองนำทหาร” นโยบายส่งเสริมการลงทุน ตั้งศูนย์ฮาลาล เชื่อมโยงกับมิตินโยบายท่องเที่ยว เชื่อว่ากลุ่มเพื่อนอันวาร์เปิดตัวเมื่อไหร่ รับรองสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แน่

พปชร.ฟัด ปชป.ใครทำของแพง

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอบโต้นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเรียกร้องให้คนนครฯรวมพลังหยุดพรรคเผด็จการ รวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ปล่อยให้สินค้าแพงทั้งแผ่นดินว่า นายชัยชนะเป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรให้ร้ายพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เป็นมารยาทการเมืองเบื้องต้นที่ควรต้องทำ ไม่ใช่พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ทั้งที่เราทำงานในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน อยากให้นึกถึงใจคนที่ต้องทำงานร่วมกันจะรู้สึกอย่างไร ถ้าพูดบ้างว่าที่ของแพงทั้งแผ่นดินนั้น ใครเป็น รมว.พาณิชย์ มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบโดยตรง แต่ทำไมข้าวของยังแพง เคยมี ส.ส.ยกจังหวัด มีรัฐมนตรีหลายคน แต่ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจะรู้สึกอย่างไร ไม่น่าใช่แบบอย่างนักการเมืองรุ่นใหม่

ภท.กลิ่นหอม ส.ส.พปชร.แห่ซบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเคลื่อนไหว ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่จะย้ายเพิ่มเติมมาอยู่พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส.กทม. 4 คน ได้แก่ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร ประธาน ส.ส.กทม. นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ นายประสิทธิ์ มะหะหมัด ส.ส.กทม. นอกจากนี้ยังมี ส.ส.กาญจนบุรี พปชร. รวมถึงนายสีหเดช ไกรคุปต์ พี่ชาย น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี และ น.ส.อนุสรี ทับสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทยด้วย เร็วๆนี้พรรคภูมิใจไทยจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ภาคเหนือ ที่ย้ายมาจากพรรคเพื่อไทย จำนวนหนึ่งด้วย ส่วน น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ส.ส.กทม. พปชร. จะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

แจง พท.ปรับโฉมไม่เกี่ยวโดนยุบ

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมพรรค วันที่ 28 พ.ย. เพื่อเตรียมปรับโครงสร้างพรรคว่าไม่มีนัยอะไร เพียงแต่เมื่อจะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เราต้องปรับทัพให้เหมาะสมกับสถานการณ์ คนที่เป็น ส.ส.เขตอยู่ เวลาเขาอาจจะน้อย ไม่มีเวลาให้กับพรรค เพราะต้องทำพื้นที่ ฉะนั้นต้องเอาคนที่มีเวลาเต็มที่มาทำในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น เมื่อถามว่ามีการมองว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นการประเมินความพร้อมหากโดนยุบ นายสุทินตอบว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นเรื่องว่าใครจะมีเวลาทุ่มเทมากที่สุดในช่วงเลือกตั้ง เพราะบางคนที่เป็น ส.ส.เขตเขาไม่มีเวลาจริงๆ

เลื่อนซักฟอก 152 ไปหลังปีใหม่

นายสุทินยังกล่าวถึงการเลื่อนยื่นญัตติเสนอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า เป็นการเลื่อนตามสถานการณ์ เราวิเคราะห์กันดูว่าช่วงจากนี้ไปใกล้ปีใหม่ และชนกับการประชุมเอเปก ชนปีใหม่ คิดว่าหลังปีใหม่น่าจะเหมาะที่สุด รวมถึงมีหลายคนวิเคราะห์ว่าอาจยุบสภาฯน่าจะยังอยู่ถึงตอนนั้น เมื่อถามว่าการเลื่อนออกไปจะกระทบการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่ นายสุทินตอบว่า ไม่กระทบที่เลื่อนก็เพราะให้การทำงานสัมพันธ์สอดคล้องกันดีที่สุด เมื่อถามว่าเบื้องต้นทางพรรคพูดคุยกันแล้วหรือไม่ว่าจะเน้นอภิปรายเรื่องอะไรเป็นพิเศษ นายสุทินตอบว่า ที่พูดคุยกันในพรรคจะมีเรื่องการเก็บตกนโยบายและมาตรการสำคัญๆที่รัฐบาลไม่ทำ หรือทำแล้วล้มเหลว เพื่อเสนอแนะให้รัฐบาลเร่งแก้ตัว หรือแก้ปัญหาในช่วงเวลาที่เหลือ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ

“วันชัย” ปูดแบ่งเค้ก ส.ว.ลากตั้ง

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขณะนี้เป็นโค้งสุดท้ายรัฐบาลต้องเก็งสถานการณ์ประเมินเสียงและกำลังให้ดี ที่เห็นคนนั้นจะเข้าพรรคนั้นพรรคนี้ ถึงเวลาอาจไม่ใช่ก็ได้ พวกซุ่มเงียบรอเสียบตอนท้ายยังมีอยู่มาก รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดรัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่ได้ อยู่ที่เสียง ส.ส.เกินครึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่การเป็นนายกฯและเป็นรัฐบาลได้ ต้องใช้เสียง ส.ส.และ ส.ว.เกินครึ่งของรัฐสภาคือ 375 เสียงขึ้นไป ดังนั้น ปรากฏการณ์ ส.ส.ย้ายพรรคจึงเป็นภาพลวงตาการเมืองเบื้องต้น แต่ฉากหลังการเข้าเป็นรัฐบาลได้นั้น ส.ว. 250 คน ยังมีส่วนสำคัญโหวตนายกฯเป็นครั้งสุดท้ายตามรัฐธรรมนูญ เมื่อ ส.ส.ถูกแย่งแบ่งพรรค ส.ว.จะไม่ถูกแบ่งหรือ สถานการณ์โหวตนายกฯ คราวหน้าคงไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา ความเป็นปึกแผ่น พลังบารมีผู้มีอำนาจแต่ละคนไม่เหมือนเก่า ที่มาที่ไป ส.ว.แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน

ผู้มีอำนาจแตกคอทำบารมีหด

นายวันชัยระบุอีกว่า ส.ส.ที่ย้ายพรรคขณะนี้ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ไหลไปไหลมาก็พวกเดียวกัน ทำให้ทั้งพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติแบ่งแยกกันแล้วเล็กลง ไม่มีพลังเหมือนเก่า ยิ่งผู้มีอำนาจแตกกัน แยกกันเดินยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อ ส.ส.ถูกแย่ง ส.ว.คงถูกแบ่ง ส่วนใครจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ คงไม่ได้อยู่ที่บารมีหรืออำนาจของใครมากกว่าใคร เพราะอำนาจวันนั้นเกิดขึ้นจากการโหวตของประชาชน และ ส.ว.ก็คงต้องฟังเสียงประชาชนเช่นกัน

ถก “วิษณุ”-พท.ดันนิรโทษกรรม

นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า มีทั้งผู้เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย พรรคเพื่อไทยโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยันร่าง พ.ร.บ.นี้ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษนายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัปดาห์หน้าจะไปปรึกษากับพรรคเพื่อไทยหารือในรายละเอียดต่อไป ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เตือนว่ายังไม่เข็ดอีกหรือ คาดว่านายวิษณุยังไม่ได้อ่านหลักการและเหตุผล จึงกลัวจะถูกแปรญัตติในรูปแบบนิรโทษกรรมสุดซอยอีก แต่ถ้าได้อ่านร่างที่ตนเสนอน่าจะสนับสนุน เพราะตั้งแต่ปี 2557 ที่นายกฯตั้งศูนย์ปรองดองแห่งชาติ มีการเสนอคำขวัญ “รักสงบ จบที่ลุงตู่” ถึงวันนี้ยังไม่เห็นรูปธรรมที่ชัดเจนว่ารัฐบาลต้องการให้ปรองดองจริงหรือไม่ มีแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างคนรุ่นใหม่กับรัฐบาลมากขึ้น หากรัฐบาลผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนี้ จะเป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด ว่ารัฐบาลแสดงความจริงใจต่อประชาชน สัปดาห์หน้าจะไปหารือกับนายวิษณุต่อไป

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“จุฑาพร” ชี้นั่ง ส.ส.บางรักดีแน่

ด้าน น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตบางรัก-สาทร-ปทุมวัน คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ลงพื้นที่เขตบางรักพร้อมนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ รับฟังปัญหาและขอความเห็นประชาชนในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่าผู้ประกอบการจำนวนมากพบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเป็นเวลานาน ยิ่งระยะหลังค่าครองชีพพุ่ง ยิ่งทำให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก การลงพื้นที่ยังได้พบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ได้หารือปัญหาในพื้นที่ อาทิ ปัญหาการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินเพื่อให้ทัศนียภาพดูดี มั่นใจว่าหากมีโอกาสได้รับเลือก จะเข้าไปผลักดันให้เกิดการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น ทำให้ย่านธุรกิจบางรักกลับมาคึกคักเหมือนก่อน กระตุ้นเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดีขึ้น เร็วๆนี้พรรคจะมีนโยบายเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมา เชื่อว่าจะแก้ปัญหาได้ตรงจุด ทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมได้

สิ้นหวัง ก.ก.กอดสุราถีบส่งกัญชา

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง สภาผู้แทนราษฎร กลุ่มเครือข่ายภาคประชาชนเขียนอนาคตกัญชาไทย โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊กถึงพรรคก้าวไกลว่า เกิดภาวะสิ้นหวังทางการเมือง เมื่อพรรคก้าวไกลที่รักไปฟ้องศาลปกครอง เพื่อนำกัญชาสู่โหมดยาเสพติด พรรคนี้ตระหนักถึงพิษภัยของกัญชา หรือตระหนักถึงพิษการเมือง สิ่งที่สงสัยทำไมกอดสุราก้าวหน้าแต่ถีบส่งกัญชา ทำให้ประชาชนต่างเชื่อมั่นว่ามีพรรคการเมืองหนึ่งที่ไม่ทิ้งประชาชน แต่สิ่งที่ดำเนินการกลับทำลายเจตนารมณ์ที่ทำมา เราเป็นประชาชนเสนอเรื่องนี้ให้กัญชาเป็นสิทธิของประชาชน ไม่ได้เล่นเกมการเมือง ที่ฟ้องศาลปกครองเพื่อล้มกฎหมายฉบับนี้ ให้รัฐบาลออกกฎหมายลูกแทน เกมนี้ทำลายประชาชนในภาพรวม ขอถามว่าพรรคนี้เชื่อเรื่องสิทธิของประชาชนจริงหรือไม่ วันที่ 14 พ.ย. ภาคีฯจะแถลงการณ์ภาคประชาชน ที่สวนครูองุ่น ทองหล่อ ซอย 3

ปชป.หวด สธ.คุมเข้มแค่ช่อดอก

น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศสมุนไพรควบคุมช่อดอกกัญชาในฉบับปรับปรุงว่า เนื้อหาที่เพิ่มเติมคือการคุมเข้มเฉพาะช่อดอกให้เป็นสมุนไพรควบคุม ไม่ได้ช่วยปิดสุญญากาศกัญชาเสรี เทียบกับประกาศฉบับเดิมที่ให้กัญชาทั้งต้นเป็นสมุนไพรควบคุม ประกาศฉบับใหม่แม้คุมเรื่องช่อดอกชัดเจนขึ้น แต่ส่วนอื่นของกัญชาไม่มีการควบคุม ข้อห้ามทั้งหมดจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ที่รอพิจารณาในสภาฯวาระ 2-3 กำหนดให้ทุกครัวเรือนสามารถปลูกกัญชาได้ 15 ต้น เท่ากับไม่จำเป็นต้องไปซื้อ แต่ปลูกเองได้ถูกต้องตามกฎหมาย มีคำถามว่าเมื่อเปิดให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ไม่เกิน 15 ต้นต่อครัวเรือน แล้วจะไปคุมช่อดอกที่ประชาชนปลูกกันอย่างไร จะคุมการเสพในครัวเรือน การจำหน่ายในชุมชนอย่างไร ในต่างประเทศกำหนดเขต ร้านที่จำหน่ายได้ แต่ตอนนี้เป็นกัญชาเสรีถึงก้นครัวไปแล้ว ที่พูดไม่ใช่การสกัด หรือเตะตัดขาทางการเมือง แต่ที่ต้องพุ่งชนเต็มสูบ เพราะเชื่อว่า 5-7 ปี จะเหมือนผีดิบเดินได้

“หนู” เย้ยค้านแต่ไม่ทำการบ้าน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวตอบโต้กระแสต้านกัญชาเสรีว่า ทุกพรรคไม่มีพรรคไหนกล้าพูดว่าไม่เอากัญชาเลย ล้วนสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ เพราะกลัวเสียคะแนน แต่พอจะทำกฎหมายให้ควบคุมกลับออกมาต้าน มันย้อนแย้งมั้ย พรรคภูมิใจไทยสัญญาว่าจะปลดล็อกคืนกัญชาให้ประชาชนใช้ประโยชน์ สร้างรายได้เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ถ้าร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงไม่ผ่านใครจะรับผิดชอบในส่วนนี้ ถือว่าเราทำหน้าที่สมบูรณ์แล้ว วันนี้กัญชาเป็นพืชเศรษฐกิจ คือสมุนไพร คืนกัญชาให้ประชาชนแล้ว ออกกฎกำกับดูแลเท่าที่ขอบเขตอำนาจจะทำได้แล้ว ถ้าสุดท้ายสภาไม่เอาสิ่งที่ร่วมกันสร้างมาไม่เป็นไร สมัยหน้าตนก็เสนอใหม่ กลัวพรรคภูมิใจไทยได้รับความนิยมจากพี่น้องประชาชนมากเกินไป ดูได้จากคำพูดสมาชิกพรรคที่ต่อต้านก็เข้าใจได้ว่าไม่ได้ทำการบ้านไม่มีหลักการรับวาระแรกแล้วจะคว่ำวาระสองไม่รักประชาชน

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“พิพัฒน์” เลื่อนชงเปิดผับถึงตี 4

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงความคืบหน้าแนวคิดการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. จากเวลาเดิม 02.00 น.ว่า ขณะนี้จัดทำข้อมูลครบทั้ง 8 พื้นที่เป้าหมายแล้ว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เดิมจะนำเสนอเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 15 พ.ย. แต่มีการนำเสนอพื้นที่เข้ามาเพิ่มเติม อาทิ สงขลา กาญจนบุรี จึงขอจัดทำข้อมูลให้ครบทุกพื้นที่ ก่อนนำเสนอ ครม.อีกครั้งในวันที่ 29 พ.ย. เชื่อว่าไม่มีจังหวัดใดที่อยากตกขบวนรถไฟนี้ ยืนยันว่าที่เลื่อนนำเข้า ครม. ไม่เกี่ยวกับการประท้วง หรือกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เชื่อว่านายกฯมองภาพออกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ค่อนข้างรวดเร็ว ภายใต้ข้อจำกัดของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สิ่งใดที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายได้ต้องเดินหน้าเต็มที่ ให้มีรายได้เพิ่ม 30-40%

คนภาคกลางเทใจให้ “อุ๊งอิ๊ง”

วันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนภาคกลาง อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 2,002 คน เรื่อง “คนที่ใช่ พรรคที่ชอบของคนภาคกลาง” พบว่าบุคคลที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 24.18 เป็น น.ส.แพทองธาร (อุ๊งอิ๊ง) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ชื่นชอบอุดมการณ์ของพรรคเพื่อไทยที่ทำได้จริง ขณะที่บางส่วนระบุว่า ศรัทธาในตระกูลชินวัตร อันดับ 2 ร้อยละ 16.73 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะเป็นคนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์ในการบริหารประเทศ บางส่วนชื่นชอบอุดมการณ์พรรคก้าวไกล อันดับ 3 ร้อยละ 16.23 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนซื่อสัตย์สุจริต มีประสบการณ์ด้านการบริหาร ชื่นชอบผลงานรัฐบาลในปัจจุบัน และทำบ้านเมืองสงบ อันดับ 4 ร้อยละ 13.54 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 5 ร้อยละ 7.04 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย)

เพื่อไทยกระแสยังมาอันดับ 1

ส่วนพรรคการเมืองที่คนภาคกลางจะเลือก ส.ส.แบ่งเขต พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.42 พรรคเพื่อไทย 2.ร้อยละ 19.98 พรรคก้าวไกล 3.ร้อยละ 13.99 ยังไม่ตัดสินใจ 4.ร้อยละ 10.54 พรรคพลังประชารัฐ 5.ร้อยละ 7.54 พรรคประชาธิปัตย์ ตามด้วย พรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย สำหรับการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 32.57 พรรคเพื่อไทย 2.ร้อยละ 19.83 พรรคก้าวไกล 3.ร้อยละ 14.28 ยังไม่ตัดสินใจ 4.ร้อยละ 10.49 พรรคพลังประชารัฐ 5.ร้อยละ 7.14 พรรคประชาธิปัตย์ ตามด้วยพรรคเสรีรวมไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรคชาติพัฒนากล้า

ส่องภาพจำแคนดิเดตนายกฯ

นายนพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจเรื่องภาพจำแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,108 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 8-12 พ.ย. 5 อันดับแรกภาพจำที่ประชาชนประทับใจต่อ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ ความสงบบ้านเมือง ปกป้องเสาหลักของชาติ เปิดประเทศได้สำเร็จ มีความอดทน แบกรับภาระหนัก และซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกิน 2.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร คือ เป็นคนรุ่นใหม่ เป็นบุตรสาวอดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้หญิงกล้าทำงานการเมือง รักษาฐานเดิมของพรรคเพื่อไทย และสุภาพ อ่อนน้อม เรียบง่าย พูดจาดี 3.นายอนุทิน ชาญวีรกูล คือ มีผลงานแก้วิกฤติโควิด จิตใจดีมีน้ำใจช่วยเหลือชีวิตประชาชน มีความรู้ความสามารถการศึกษาดี กล้าคิดกล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง และเป็นคนทำงานจริง 4.นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ คือ ชัดเจนจงรักภักดีปกป้องเสาหลักของชาติ มีวิสัยทัศน์ สุภาพ พูดจาดีไม่ดุดัน ใกล้ชิดนายชวน หลีกภัย และเป็นกันเอง ชาวบ้านเข้าถึงง่ายไม่เรื่องมาก และ 5.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือ เป็นคนรุ่นใหม่ กล้าเปลี่ยนแปลง มีการศึกษาดี มีความสามารถ และเป็นคนทำงาน

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“บิ๊กตู่” ชูกุญแจ 3 ดอกฝ่าวิกฤติ

เมื่อเวลา 08.20 น. ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เข้าร่วมการประชุม ASEAN Global Dialogue ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “การเสริมสร้างประชาคมอาเซียนที่มีความยืดหยุ่นในการปรับตัวและมีความยั่งยืนในยุคหลังโควิด-19 (Building Resilient and Sustainable ASEAN in the Post COVID-19 Era)” แบบเต็มคณะ มีนายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นประธาน เพื่อนำเสนอ วิสัยทัศนผู้นำอาเซียน เกี่ยวกับการฟื้นตัวที่ยั่งยืนจากวิกฤติโควิด-19 ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาค และความร่วมมือระหว่างประเทศ นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในที่ประชุมว่า อาเซียนต้องเร่งสร้างอนาคตที่ยั่งยืนแก่ประชาชน พร้อมเสนอกุญแจสำคัญ 3 ดอก ประกอบด้วย การให้ประชาชนเป็นหัวใจของทั้งการฟื้นฟูในระยะสั้น และการพัฒนาในระยะยาว การฟื้นฟูเศรษฐกิจเน้นการสร้าง “ความสมดุลของสรรพสิ่ง” และช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและในโลก

“ปลากุเลาตากใบ” รับผู้นำเอเปก

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล กล่าวว่า “ปลากุเลาจากตากใบ” ได้รับคัดเลือกเป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่จะเสิร์ฟในงานเลี้ยงกาลาดินเนอร์แก่ผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจเอเปก ที่หอประชุมกองทัพเรือ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการโปรโมตของดีจังหวัดชายแดนใต้ เป็นสินค้าท้องถิ่นขึ้นชื่อให้โด่งดัง นอกจากจะเป็นสินค้าเลื่องชื่อของ อ.ตากใบ จ.นราธิวาสแล้ว ยังเป็นสินค้าโด่งดังของ จ.ปัตตานีด้วย รัฐบาล โดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้าไปมีบทบาทส่งเสริมการแปรรูปอาหารทะเลสร้างอาชีพและรายได้สู่ชุมชน เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนธุรกิจประมงพื้นบ้านของโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” อาทิ วิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย ที่มีผู้รู้จักไปทั่วประเทศ

เปิดชื่อผู้นำร่วมประชุมเอเปก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปก ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กทม. ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกันสู่สมดุล” มีผู้นำเขตเศรษฐกิจ และแขกพิเศษ ที่ได้รับการยืนยันว่าจะเข้าร่วมประชุม อาทิ นายแอนโทนี แอลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย, สมเด็จพระราชาธิบดีฮาจี ฮัซซานัล บลเกียะฮ์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละฮ์ อิบนี อัล-มาร์ฮุม ซุลตัน ฮาจี โอมาร์ อาลี ไซฟุดดีน ซาอาดุล ไครี วัดดิน สมเด็จพระราชาธิบดี พระองค์ที่ 29 และนายกรัฐมนตรีบรูไนดารุสซาลาม, นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา, นายกาบริเอล โบริก ฟอนต์ ประธานาธิบดีชิลี, นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน, นายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จีนฮ่องกง, นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย, นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นายฮัน ด็อก-ซู นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้, น.ส.จาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์มีผู้นำแขกพิเศษเข้าร่วมด้วย

รวมถึงนายเจมส์ มาราเป นายกรัฐมนตรีปาปัวนิวกินี, นายแฟร์ดีนันด์ โรมูอัลเดซ มาร์โคส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์, นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์, นายเหวียน ซวน ฟุก ประธานาธิบดีเวียดนาม ตัน ซรี ดาโตะ เซอรี โมฮามัด ซูกี บิน อาลี เลขาธิการรัฐบาลมาเลเซีย, นายเบร์นาโด กอร์โดบา เตโย เอกอัครราชทูตเม็กซิโกประจำประเทศไทย, นางดินา เอร์ซิเลีย โบลัวร์เต เซการ์รา รองประธานาธิบดี คนที่ 1 เปรู, นายอันเดรย์ เบโลอูซอฟ รองนายกรัฐมนตรีคนที่ 1 สหพันธรัฐรัสเซีย, นายมอร์ริส จาง (นายจาง จงโหมว) ผู้แทนจีนไทเป (ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC)) และนางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมีผู้นำในฐานะแขกพิเศษ อาทิ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายก รัฐมนตรีกัมพูชา, นายเอมานูแอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด มกุฎราชกุมาร และนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย

“บิ๊กตู่” วอนเอเปกอย่าให้มีปัญหา

กระทั่งเวลา 16.40 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ว่า เหมือนเราไปดูงานก่อนจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ยอมรับว่าเป็นห่วงและกังวลเช่นกัน แต่ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้ว ทั้งฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ ติดตามรายงานอยู่จึงไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ สิ่งสำคัญที่สุดประชาชนทุกคนต้องช่วยกันอย่าให้เกิดปัญหาอะไร เวลานี้ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดปัญหา ขอร้องกัน คนที่ได้รับประโยชน์คือประชาชน อะไรไม่ดีก็เตือนกันมา รัฐบาลพร้อมดูแลแก้ไขด้วยความเข้าใจ ช่วงจัดประชุมเอเปกบ้านเมืองเราต้องสวยงาม ฉะนั้นอย่าทำอะไรให้มันเสีย เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารบ้าง และงานนี้ถือเป็นงานส่งท้ายปีเก่าก่อนไปปีใหม่ ทุกอย่างจะผลิดอกออกผลในปลายปีนี้ ไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เมื่อถามย้ำที่ระบุว่าปีหน้าจะมีความท้าทายนั้นจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนายกฯหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบเสียงแข็งว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นความท้าทายของโลก

ปี 66 โอกาสไทยรับบทครัวโลก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ไปร่วมประชุมคราวนี้มีประชุมทั้งหมด 16 วาระ ในปี 2565-2566 นับเป็นโอกาสดีของอาเซียนในเรื่องการเกษตร แม้ว่าเราจะได้รับผลกระทบแต่ก็ไม่เท่ากับเขา มีปัญหาอย่างเดียวคือเรื่องปุ๋ย และเรื่องต้นทุนการผลิต เราต้องกลับมาคุยกันเพราะทุกประเทศที่ไปร่วมประชุมมีปัญหาเหมือนกันหมด ปีหน้าปัญหาเรื่องอาหารจะหนักกันหมด แต่ไม่เท่าเราที่ยังมีอาหารการกิน แต่ประเทศไทยต้องเป็นแหล่งอาหารของโลกให้ได้ ต้องมาดูว่าจะเดินกันอย่างไร ส่วนเรื่องบรรยากาศสันติภาพ ทำอย่างไรให้เราอยู่ร่วมกัน มีปัญหาอะไรต้องพูดคุยกัน ต้องใช้หลักการของอาเซียน สิ่งสำคัญที่มีการตั้งประเด็นคือการรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หลังสถานการณ์โควิดและความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ของโลก และภาวะสงคราม

ประชาธิปัตย์ตกเลือด “เสนพงศ์” ออกยกตระกูล เดือดไม่ส่งชิงส.ส. ย้ายซบภูมิใจไทยคึกคัก!

“นพดล” ย้ำผู้นำชาติเจ้าภาพสำคัญ

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า สัปดาห์หน้าประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเอเปก ถือเป็นเกียรติของประเทศ เมื่อปี 2546 ไทยเคยเป็นเจ้าภาพในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ความสำเร็จของการเป็นเจ้าภาพอาจดูได้จากการมีผู้นำมาประชุมมากน้อยแค่ไหน มีข้อสังเกตว่าการประชุมปี 2546 เกิดขึ้นหลังการระบาดโรคซาร์ ปีนี้เกิดขึ้นหลังระบาดโควิด แต่ครั้งนี้ผู้นำหลายประเทศไม่ได้เดินทางมา แต่ในปี 2546 ผู้นำมาเกือบครบ สถานะประเทศไทยในเวทีโลกขณะนั้นโดดเด่น ความสามารถของผู้นำรัฐบาลประเทศเจ้าภาพ จะส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของการประชุม รัฐบาลนี้ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่เมนูรายการอาหารผู้นำที่มาร่วมประชุม ออกประกาศจุดห้ามชุมนุมในบางจุด เชื่อว่าคนไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพที่ดี แต่อยากให้รัฐบาลบอกให้ชัด เป็นรูปธรรมว่าคนไทยจะได้อะไรบ้างในทางการค้า การลงทุน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปข้างหน้า อย่างน้อยคนไทยจำนวนมากมีความหวังว่าหลังการประชุมเอเปกจะมีโอกาสเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อเลือก ส.ส.และพรรคการเมืองนำไปสู่การเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างมีประสิทธิผลต่อไป

“สุทิน” ขอห้ามชุมนุมเท่าที่จำเป็น

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสำนักนายกรัฐมนตรีออกประกาศห้ามชุมนุม ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ไม่ให้กีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนช่วงการประชุมเอเปกว่า ความจริงก็เป็นเรื่องปกติ หากเป็นช่วงที่ต้องใช้บริเวณนั้น เป็นที่รับแขกบ้านแขกเมือง เช่น ทางสัญจรไปมา พื้นที่ประชุม ที่รัฐบาลอาจนึกถึงเรื่องความปลอดภัย พอเข้าใจได้ แต่หากเป็นเขตที่ไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรห้าม

“วรเจตน์” พูดรอบ 10 ปีนิติราษฎร์

อีกเรื่อง ที่ห้องพูนศุข วิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ท่าพระจันทร์ มูลนิธิสิทธิอิสรา กองทุนประกันตัวให้ผู้ต้องหาคดี ม.112 และคดีชุมนุมทางการเมือง นำโดย น.ส.ไอดา อรุณวงศ์ ประธานมูลนิธิ จัดบรรยายสาธารณะหัวข้อ “112 กับสถาบันกษัตริย์ : 1 ทศวรรษเพื่อการทบทวน” ศ.ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มธ. อดีตแกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ กล่าวบรรยายว่า เหตุผลสำคัญที่มาพูดวันนี้คือครบรอบ 10 ปี คณะนิติราษฎร์ และคณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติม ม.112 คิดว่าสมควรมาทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ขณะนี้มีเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทผลักดันการเปลี่ยนแปลงแก้ไข ม.112 และมีการเสนอให้ยกเลิกมาตรานี้ แต่แนวคิดตนมองว่าแต่ละรัฐต้องมีผู้แทนหรือประมุขที่คุ้มครองระบอบ ตลอด 10 ปีถูกกล่าวหลายเรื่อง ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง และมีบทเรียนบางอย่างที่อยากบอกกับนักเคลื่อนไหวปัจจุบัน ว่ายังมีอะไรอีกหลายอย่างที่พูดในที่สาธารณะไม่ได้ การเคลื่อนไหวจึงต้องระมัดระวังอย่างสูง

สู้กับ 112 อาจไม่จบในรุ่นเรา

ศ.ดร.วรเจตน์กล่าวว่า เข้าใจเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่กำลังออกมาเคลื่อนไหว และถูกกดทับโดยบทบัญญัติมาตรานี้ แต่ต้องพยายามเข้าใจว่าการต่อสู้เรื่องนี้เป็นการต่อสู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงระยะยาว ต้องทำใจว่าอาจไม่จบในเจเนอเรชันเดียว ต้องส่งผ่านต่อๆไปในหลายๆเจเนอเรชัน เมื่อมีใครคนใดจุดไฟขึ้นมาแล้วต้องพยายามหล่อเลี้ยงไว้ไม่ให้ดับ โดยไม่ต้องคาดหวังว่าจะต้องสำเร็จในรุ่นเรา เพราะสภาพสังคมต้องการรวมคนมากกว่านี้อีกเยอะ 10 ปีที่ผ่านมาแม้มีการเปลี่ยนแปลงก็จริงแต่ปริมาณคนยังไม่มากพอ จึงอยากให้สุขุมรอบคอบ และอาจต้องทำใจว่าต้องมีบาดเจ็บถูกกล่าวหา ความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องยืนยันในการต่อสู้ระยะยาว ทุกวันนี้อุดมการณ์ของผู้บังคับใช้ ม.112 ไม่เปลี่ยน บางคดีไม่เข้าข่ายแต่คนบังคับใช้กฎหมายกลับขยายจุดนี้ออกไปให้เข้าข่าย เท่ากับไปเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ตัวบท ให้เป็นการตีความตามความเชื่อส่วนตัว ที่ต้องทำคือทำให้คนถูกดำเนินคดีได้สิทธิ์ในการต่อสู้ในชั้นศาล ซึ่งมูลนิธิสิทธิอิสราเป็นผู้ดำเนินการอยู่เบื้องหลัง