จากสถานการณ์พายุดีเปรสชัน “โนรู” ที่ได้พัดเข้าถล่มประเทศไทย ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคตะวันออก หรือแม้แต่กรุงเทพฯ ทำให้มีฝนตกหนัก และหนักมากบางแห่ง โดยพายุลูกดังกล่าวมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ทำให้หลายพื้นที่พี่น้องประชาชนต้องประสบความเดือดร้อนได้รับผลกระทบ จากภัยกับธรรมชาติที่มีความรุนแรง และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทุกหน่วยงานจึงต้องผนึกกำลังลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แม้แต่ “กองทัพ” โดย ผบ.เหล่าทัพ ต้องจัดตั้งวอร์รูมรับมือ เพื่อระดมทุกสรรพกำลังที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นกำลังพล ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือช่าง ช่วยเหลืออย่างเต็มขีดความสามารถ ด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้คน ลดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน และจะดูแลจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
“บิ๊กตู่” สั่งเหล่าทัพใช้ทุกศักยภาพหนุนรัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือ ปชช.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม สั่งการให้ทุกเหล่าทัพ ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้ทุกศักยภาพที่มีอย่างเต็มขีดความสามารถ พร้อมทั้งบูรณาการความร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ และดำรงความต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมอบหมายให้ “กองทัพไทย” และส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย ได้จัดกำลังสนับสนุนรัฐบาล โดยบูรณาการความร่วมมือกับกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และส่วนราชการต่างๆ ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุทันที
โดยให้จัดเตรียมกำลังพลและเครื่องมือช่าง พร้อมหนุนเสริมให้การช่วยเหลือทุกจังหวัด รับมือกับ พายุโนรู โดยให้ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนประชาชนให้ทันเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือให้ทั่วถึงไม่ซ้ำซ้อน พร้อมย้ำให้อยู่กับประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สำหรับในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล หน่วยทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุน กทม.และจังหวัดปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการเตรียมรับมือจากมวลน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เอ่อล้นมากขึ้น จากปรับการระบายน้ำ โดยอยู่ระหว่างเร่งกรอกกระสอบทรายเสริมความแกร่งคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา การเร่งดูดและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่เก็บกักน้ำและคูคลอง รวมทั้งการกำจัดขยะวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวนมากในลำน้ำสายหลักและรอง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการระบายน้ำ
“ทัพไทย” ส่งทหารพัฒนา พร้อมเครื่องมือช่างลงพื้นที่ติดตาสถานการณ์
ขณะที่ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) สั่งการประชุมช่วยเหลือประชาชนจากเหตุพายุโนรู โดยการเตรียมความพร้อมด้านกำลังพล และยุทโธปกรณ์แนวทางในการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และสนับสนุนการปฏิบัติงาน ในพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมให้ประเมินภัยที่จะเกิดขึ้น เตรียมการจัดการ คน เครื่องมือ ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมกับเหตุการณ์ พร้อมจัดเฮลิคอปเตอร์สนับสนุน และแก้ไขปัญหา รวมทั้งจัดกำลังพล พลทหารกองประจำการ ยานพาหนะจากส่วนหลัง เดินทางไปสนับสนุนการปฏิบัติร่วมกับสำนักงานพัฒนาภาค ของหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประสบภัยโดยทันที
“จากสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม จึงให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จัดกำลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ เครื่องมือช่าง ยานพาหนะทั้งรถและเรือ เครื่องสูบน้ำและเรือท้องแบน สนับสนุนการปฏิบัติงานร่วมกับส่วนราชการและจิตอาสาในพื้นที่ต่างๆ”
สนภ.1 จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าเพชรบูรณ์ สกัดต้นน้ำป่าสัก
สำนักงานพัฒนาภาค 1 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 12 จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ลงสำรวจพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่เทศบาลเมืองปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 16 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว พร้อมด้วยกำลังพลจิตอาสา รถยนต์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก เรืออะลูมิเนียมพร้อมเครื่องยนต์ ออกให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยจากเหตุฝนตกหนักสะสมเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ทำให้พื้นที่ต้นน้ำแม่น้ำป่าสักมีปริมาณน้ำสะสมเป็นจำนวนมาก และไหลบ่าลงแม่น้ำป่าสักทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ในพื้นที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
สนภ.2 ลุยเข้า จ.เลย ขอนแก่น ช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ
สำนักงานพัฒนาภาค 2 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 21 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก รถยนต์บรรทุกเครน และเรือท้องแบน เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ในพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ทั้งนี้หน่วยยังคงให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ไปจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 23 จัดกำลังพลหน่วยชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว เข้าสำรวจสถานการณ์น้ำในพื้นที่ บ้านโคกขมิ้น ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะได้รับผลกระทบจากพายุ “โนรู” โดยอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ทั้งนี้ หน่วยได้จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยเตรียมความพร้อมในที่ตั้งหน่วย และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสามารถออกปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันที
สนภ.3 มอบถุงยังชีพ เครื่องดื่ม พื้นที่น้ำท่วมเชียงใหม่
สำนักงานพัฒนาภาค 3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย สำนักงานพัฒนาภาค 3 และ กำลังพลจิตอาสา สำนักงานพัฒนาภาค 3 จัดชุดช่วยเหลือประชาชนเคลื่อนที่เร็ว พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์ เข้าดำเนินการให้การช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง จากผลกระทบเหตุอุทกภัย โดยลำเลียงน้ำดื่มสะอาดบรรจุขวด จำนวน 850 ขวด และถุงยังชีพพร้อมสิ่งของจำเป็นเบื้องต้น มอบให้แก่ชาวบ้าน จำนวน 80 หลังคาเรือน ในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่
สนภ.5 เข้าพื้นที่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ ชัยภูมิ อุบลฯเร่งดูแลประชาชน
สำนักงานพัฒนาภาค 5 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 52 จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว ให้การสนับสนุนอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และผู้นำชุมชน ในการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย จำนวน 18 หลังคาเรือน พร้อมมอบน้ำดื่ม จำนวน 200 ขวด ในพื้นที่ บ้านตาเป๊ก หมู่ 3 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 ให้การสนับสนุนรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่พร้อมพลขับและนายทหารประสานงานลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการเดินทางเข้า-ออกพื้นที่ ที่ประสบเหตุน้ำท่วมถนนในระดับที่รถยนต์โดยสารขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ พร้อมทั้งลำเลียงถุงยังชีพเพื่อแจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย และขนย้ายประชาชนที่เดินทางเข้า-ออก ในพื้นที่ ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 55 จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว รถขุดตัก และรถลากจูงกึ่งพ่วงชานต่ำ ดำเนินการกำจัดซากต้นไม้ กิ่งไม้ วัชพืช ที่ไหลมาทับถมบริเวณสะพานข้ามลำน้ำพรม เชื่อมหมู่บ้านระหว่าง บ้านไร่ หมู่ 7 ต.บ้านยาง และ บ้านกุดเลาะ หมู่ 12 ต.กุดเลาะ อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ เพื่อเปิดทางให้น้ำไหลสะดวก ระบายมวลน้ำได้อย่างรวดเร็ว ถือเป็นการเตรียมรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมขังที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากอิทธิพลของพายุ “โนรู”
วางแนวป้องกันน้ำท่วม ปรับทางน้ำไหล จัด ฮ. 2 ลำ ช่วยส่งผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน
นอกจากนี้ สนภ.5 ได้จัดกำลังพลร่วมบรรจุกระสอบทราย เพื่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ดำเนินการขนย้ายสิ่งของให้แก่ประชาชนเพื่อนำไปไว้ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว มอบน้ำดื่มสะอาด และถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ประสบภัย ตลอดจนสนับสนุนรถประปาสนามผลิตน้ำอุปโภคบริโภค และรถสุขาเคลื่อนที่ ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว อำเภอวารินชำราบ พร้อมทั้งสำรวจระดับน้ำท่า เสริมแนวคันกั้นน้ำ ปรับทางน้ำไหล ตรวจสอบความแข็งแรงคอสะพาน ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง โดยใช้แนวทางการดำเนินการตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกองทัพไทย พ.ศ.2560
นอกจากนี้ ได้จัดกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วของหน่วย จัดชุดบรรเทาสาธารณภัยประกอบทางอากาศยาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดและการส่งผู้ป่วยในภาวะฉุกเฉิน ทั้งนี้ได้มีการจัดกำลังจากส่วนกลาง ได้แก่ การจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่จากสำนักงานแพทย์ทหาร กรมยุทธบริการทหาร การจัดรถยนต์บรรทุก และรถสไลด์ จากกรมยุทธบริการทหาร การจัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุก เรือท้องแบนพร้อมเครื่องติดท้าย จากกรมการสื่อสารทหาร การจัดกำลังพลและรถยนต์บรรทุก จากสำนักกองบัญชาการ กองบัญชาการกองทัพไทย รวมทั้งจัดกำลังพลพร้อมเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 2 ลำ จากกรมแผนที่ทหารเพื่อประกอบกำลังในการสนับสนุนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และส่วนราชการในพื้นที่ในการแก้ไขสถานการณ์ ทั้งนี้ประชาชนสามารถขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย 1784 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทบ.ช่วยประชาชนรับมือพายุโนรู เปิดค่ายตากข้าวช่วยชาวนา
พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. สั่งการหน่วยทหารทั่วประเทศ เข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยอย่างเต็มที่ เฝ้าระวังอิทธิพลของพายุโนรู ที่จะส่งผลกระทบกับพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้มีฝนตกหนักโดยกำชับให้เน้นเรื่องการลดผลกระทบ และรักษาทรัพย์สินของประชาชนมิให้เสียหายจากอุทกภัย พร้อมดูแลช่วยเหลือให้อยู่บนพื้นฐานเกี่ยวกับปัจจัย 4 คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร การแพทย์ รวมทั้งเครื่องมือในการประกอบอาชีพ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างปกติ ส่วนเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาที่เดือดร้อนจากอุทกภัย ให้หน่วยทหารทุกพื้นที่เข้าดูแลช่วยเหลือตามแนวทางที่กองทัพบกเคยดำเนินการทั้งช่วยเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนเกิดอุทกภัย หรือการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ถูกน้ำท่วมเพื่อลดความเสียหาย เปิดค่ายตากข้าวช่วยชาวนา โดยใช้พื้นที่ว่าง อาคาร โรงรถ ถนนในค่ายทหารเป็นพื้นที่ตากข้าวลดความชื้นรักษาคุณภาพข้าวให้กับเกษตรกร
ทอ. ขึ้นบินถ่ายภาพดาวเทียม จัดเตรียมทหาร 2,600 นาย ช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม
พล.อ.ท.ชัยนาท ผลกิจ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลเรือน-ทหาร ได้ดำเนินการจัดเตรียมกำลังพลจำนวน 2,600 คน รถบรรทุกช่วยรบขนาดใหญ่จำนวน 57 คัน กระสอบทรายพร้อมบรรจุจำนวน 110,000 กระสอบ และอากาศยานเพื่อช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนใช้ทรัพยากรและความสามารถของกองทัพอากาศ เพื่อเตรียมการป้องกันล่วงหน้าโดยการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมดำเนินการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมและเส้นทางน้ำไหล ในการเข้าช่วยเหลืออพยพขนย้ายสิ่งของ และใช้โดรนขนาดเล็กลงพื้นที่บันทึกภาพเตรียมความพร้อมช่วยเหลือในพื้นที่เฉพาะ
ขณะพื้นที่ภาคเหนือ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบิน 4 กองบิน 41 กองบิน 46 ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนวางกระสอบทราย สร้างแนวคันกั้นน้ำ พร้อมกรอกกระสอบทรายเพื่อแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน นำไปทำแนวคันกั้นน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนของตนเอง ทำแนวพนังกั้นน้ำ ป้องกันน้ำไหลท่วมพื้นที่โรงพยาบาลอำเภอตาคลี และบ้านเรือนของประชาชน รวมถึงขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย และนำยาสามัญประจําบ้านแจกจ่าย บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อเร่งการระบายน้ำบริเวณพื้นที่โรงพยาบาลอำเภอตาคลี เพื่อลดความเสียหาย และช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง และพื้นที่เศรษฐกิจในตลาดวังทอง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก และเขตเทศบาลตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ทร. จัดกำลังพล ยุทโธปกรณ์พร้อมช่วยเหลือ 24 ชม.
ส่วนพื้นที่อีสาน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 21 โดย จนท.ศบภ.บน.21 และทหารกองประจำการกองบิน 21 พร้อมเรือท้องแบนและรถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ ขนย้ายสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัย ณ ชุมชนหาดวัดใต้, ชุมชนท่าวังหิน (บ้านปากมูล) ชุมชนท่ากกแห่ ชุมชนวังสว่าง ชุมชนบูรพา อำเภอเมือง บ้านช่างหม้อ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี และบรรจุกระสอบทราย (เทศบาลเมืองอุบลราชธานี) และคาดการณ์ว่าระดับน้ำจะสูงขึ้น โดยมีพื้นที่เป้าหมายในการให้ความช่วยเหลือ คือ ชุมชนศรีประดู่, บ้านหาดคูเดื่อ, ชุมชนบ้านปากห้วย และชุมชนบูรพา อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ด้าน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. สั่งการกองทัพเรือ เตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน จากพายุไต้ฝุ่นโนรู ที่จะส่งผลทำให้ประเทศไทยในทั่วทุกภูมิภาคของพื้นที่จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากกับลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ช่วง 28 ก.ย.-1 ต.ค.65 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ จึงเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย โดยประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนสามารถแจ้งเพื่อขอรับความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ได้ที่สายด่วน 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดกำลังพล รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบบ และเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่.