ฟ้าสว่างถึงเห็นศพ – วันที่ 13 ก.ค. เอพี รายงานโศกนาฏกรรมไฟไหม้หอผู้ป่วยโควิด-19 ที่โรงพยาบาลอัลฮุสเซน เมืองนาสิริยาห์ ทางตอนใต้ของประเทศอิรัก คร่าชีวิตคนในอาคารอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 100 คน
เหตุเกิดช่วงดึกของวันจันทร์ที่ 12 ก.ค. เป็นความโกลาหลตลอดค่ำคืน ทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยพยายามควบคุมเพลิงที่โหมไหม้ และช่วยผู้ติดอยู่ข้างใน แต่ทำไม่ได้มากนัก เนื่องจากความมืดมิด กระทั่งรุ่งเช้าถึงเห็นร่างผู้เคราะห์ร้ายที่เจ้าหน้าที่ห่อมาวางเรียงไว้ด้านหน้าโรงพยาบาล
บรรดาญาติพากันร่ำไห้ปิ่มขาดใจ และโกรธแค้นทั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเขตธีคาร์ และรัฐบาลกลางที่ปล่อยปละละเลยให้อาคารสาธารณะสำคัญไม่มีความปลอดภัย ท่ามกลางบรรยากาศดังกล่าวเกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ จนรถตำรวจถูกจุดไฟเผา
สำหรับสาเหตุไฟไหม้ดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่มีรายงานเบื้องต้น ว่าเป็นเพราะถังออกซิเจนระเบิด และเจ้าหน้าที่บางคนเผยว่า ไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งหมดตอกย้ำระบบสาธารณสุขอิรักอยู่ในสภาพย่ำแย่ หลังจากเผชิญกับความขัดแย้งนานหลายปี โดยแผนกผู้ป่วยโควิดในโรงพยาบาลที่เกิดเหตุ เพิ่งสร้างเมื่อ 3 เดือนก่อน รองรับได้ 70 เตียง
นายมุสตาฟา อัลกัดฮีมี นายกรัฐมนตรีอิรัก สั่งให้จับกุมผู้อำนวยการโรงพยาบาล ส่วนนายโมฮัมหมัด อัลฮัลบูซี ประธานรัฐสภาอิรักระบุว่า เหตุเพลิงไหม้เป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงความล้มเหลวที่จะคุ้มครองชีวิตชาวอิรัก และว่าถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ความล้มเหลวขั้นหายนะดังกล่าวสิ้นสุดลง
โศกนาฏกรรมไฟไหม้ครั้งใหญ่ครั้งนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองต่อเนื่องจากเมื่อเดือนเม.ย. ถังออกซิเจนระเบิดทำให้เกิดเพลิงไหม้คร่า 82 ชีวิตและบาดเจ็บอีก 110 คนที่โรงพยาบาลในกรุงแบกแดด ส่งผลให้นายฮัสซัน อัลทามิมี รมว.สาธารณสุขต้องลาออก
ปัจจุบันสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยังน่าวิตกมาก มียอดผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นสูง สถิติสัปดาห์ก่อนอยู่ที่วันละ 9,000 คน ยอดผู้เสียชีวิตมีมากเกิน 17,000 ราย จากยอดผู้ติดเชื้อ 1.4 คน