มติ ศบค.ชุดใหญ่ยังไม่มีการ “ล็อกดาวน์” แต่ปรับพื้นที่สีส้มจาก 39 จังหวัดเป็น 69 จังหวัด และคงพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัดรวมถึงบางอำเภอในพื้นที่สีส้ม โดยพื้นที่สีฟ้าทำกิจกรรมกิจการต่างๆได้เหมือนพื้นที่สีเขียว ดื่มสุราในร้านได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม ให้เข้มงวดตรวจสอบสถานบันเทิงสถานบริการอย่างจริงจัง หากพบใครฝ่าฝืนทำผิดให้พักใบอนุญาตและสั่งปิดจริงจัง ส่วนข้อแนะนำประชาชนงดการเดินทางไม่กระทบการขนส่ง ขอประชาชนยึดข้อปฏิบัติตาม ศบค. เพื่อความปลอดภัยจากโอมิครอนที่ระบาดเร็วแต่อย่าตื่นตระหนก ชลบุรีพีกสุดติดเชื้อทำนิวไฮเป็นประวัติการณ์กว่า 1,342 ราย พะเยามาแรงอาจติดเชื้อนับพันคน ภูเก็ต อุบลฯ ยอดติดเชื้อก็ไม่แผ่ว ด้านองค์การอนามัยโลก ออกแถลงการณ์เรียกร้องทั่วโลกอย่าประมาท โอมิครอนว่าไม่แรง พบเด็กสหรัฐฯอายุต่ำกว่า 5 ขวบป่วยเข้า รพ.อื้อ
ไทยเข้าสู่การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 5 ที่เป็นสายพันธุ์โอมิครอนและจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสอันตรายดังกล่าวในไทยพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงวันที่ 7 ม.ค.อยู่ในระดับ 7 พันกว่ารายแล้วหลังจากลดลงไปอยู่ในระดับ 3 พันกว่ารายเมื่อปลายปีที่แล้ว
นายกฯถก ศบค.สั่งเตรียมพร้อม
ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 7 ม.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยนายกฯขอบคุณ ศบค.ที่ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลัง ทำให้ไทยผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤติในปี 64 และขอบคุณการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มแข็ง แต่สถานการณ์โควิด-19 ยังไม่ยุติลง ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้หลายประเทศดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น
ขอ ปชช.อย่าตื่นตระหนก
นายกฯกล่าวอีกว่า ข้อมูลจาก WHO ระบุสายพันธุ์โอมิครอนติดเชื้อได้เร็ว แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า จึงต้องหาแนวทางประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องให้มีความรู้ความเข้าใจประชาชนอย่างไม่ตื่นตระหนกและให้เกิดความร่วมมือ ขอให้ศปก.สธ.ศปก.ศบค.เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข ทั้งเรื่องวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ การครองเตียงต่างๆให้พร้อม ชุดตรวจ ATK ยารักษาที่จำเป็นต้องมีเพียงพอ เตรียมโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย HI/CI ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมาก เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและเร่งรัดแผนการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด
ให้ท้องถิ่นช่วยดูแลพื้นที่เสี่ยง
นายกฯกล่าวต่อว่า สำหรับพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ทั้งชุมชน ชุมชนแออัด ส่วนท้องถิ่นต้องช่วยกันดูแล โดยขอให้หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ร่วมมือการแก้ปัญหาอย่างเข้มแข็งต่อไป ส่วนการท่องเที่ยวจากต่างประเทศจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามายังคงมีจำนวนไม่มากนัก เพราะประเทศต่างๆยังไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล Universal Prevention และ Covid Free Setting รวมถึงการทำงานที่บ้าน ควรต้องมีการติดตามประเมินผลการปฏิบัติ โดยเฉพาะการพัฒนาระบบติดตามตัว แอปพลิเคชันหมอพร้อม หมอชนะ ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ต่อไป ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป ต้องระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น
ติดเชื้อพุ่ง 7.5 พันราย ดับ 19 ราย
ที่ทำเนียบรัฐบาลเวลา 12.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงสถานการณ์โควิดในไทยประจำวันที่ 7 ม.ค. หลังเสร็จสิ้นการประชุมศบค.ชุดใหญ่ว่าในที่ประชุม ศบค. กระทรวงสาธารณสุขรายงานสถานการณ์โควิดว่าพบผู้ติดเชื้อใหม่ 7,526 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 19 ราย ยอดผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 รวม 21,799 ราย ยอดฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.64 ทั้งสิ้น 105,419,287 โดส ขณะที่ สถานการณ์โลก มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 300,800,312 ราย เสียชีวิตสะสม 5,489,717 ราย
หย่อนยานคาดติดเชื้อพุ่ง 3 หมื่น
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.กระทรวงสาธารณสุขยังได้รายงานฉากทัศน์คาดการณ์การติดเชื้อที่สถานการณ์ปัจจุบันอยู่ในเส้นสีเทาที่ประชาชนส่วนใหญ่หย่อนยานการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข หากปล่อยเช่นนี้ต่อไป ภายในปลายเดือน ม.ค.หรือต้นเดือน ก.พ.ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะพุ่งไปถึง 3 หมื่นรายต่อวัน ประเด็นนี้นายกฯมีความเป็นห่วงอย่างยิ่ง จึงใช้เวลาในการประชุมเพื่อรับมือสถานการณ์เป็นเวลานาน แต่สิ่งที่ทำให้สบายใจได้ขึ้นมานิดนึงคืออัตราการเสียชีวิตยังต่ำ ทำให้เรารู้ลักษณะของโอมิครอนว่าไม่ได้รุนแรงเหมือนกับเดลตา ก่อนหน้านี้กระทรวงสาธารณสุขได้ปรับระดับการเตือนภัยเป็นระดับ 4 ที่มีข้อแนะนำออกมาแต่วิธีการปฏิบัติให้ยึดตามมาตรการของ ศบค.
69 จว.สีส้มห้ามรวมกลุ่มเกิน 500 คน
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ขยายเวลาเวิร์กฟรอมโฮมทั่วประเทศจนถึงวันที่ 31 ม.ค.ในส่วนสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ปรับไปเปิดในรูปแบบของร้านอาหาร โดยต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดก่อนวันที่ 15 ม.ค. พร้อมกันนี้ ศบค.มีมติปรับระดับพื้นที่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยยกระดับของทั้งประเทศเป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากเดิม 39 จังหวัด เป็น 69 จังหวัด ส่วนกิจการและกิจกรรมในพื้นที่สีส้มนั้น ทำได้แทบทุกอย่าง เพียงแต่ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 500 คน ร้านอาหารสามารถเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่ห้ามบริโภคสุราและแอลกอฮอล์ในร้าน
8 จว.สีฟ้าดื่มเหล้าได้แค่ 21.00 น.
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) ยังคงไว้ 8 จังหวัด ได้แก่ กทม. กาญจนบุรี กระบี่ ชลบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พังงาและภูเก็ต รวมถึงบางอำเภอใน 18 จังหวัดพื้นที่สีส้ม โดยมาตรการพื้นที่สีฟ้าจะทำกิจกรรม กิจการต่างๆ ได้เหมือนพื้นที่สีเขียว ดื่มสุราในร้านอาหารได้ไม่เกิน 21.00 น. ส่วน 5 จังหวัดที่มีขอเพิ่มเป็นพื้นที่สีฟ้าขอให้เลื่อนการดำเนินการไปก่อนเพื่อรอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง นายกฯย้ำว่าการมีส่วนร่วมรับผิดชอบเป็นเรื่องที่สำคัญ ร้านอาหารต้องการโอกาสในการเปิด ศบค.ผ่อนปรนให้เปิดได้ แต่ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือประมาณหนึ่ง ใครทำผิดขอให้ทำให้ถูกต้อง โดยให้ ศปม.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ ศบค.มท. ศบค.สธ. เข้าไปตรวจสอบอย่างจริงจัง หากทำไม่ถูกให้ดำเนินคดี หรือสั่งพักสั่งปิดพักใบอนุญาตอย่างจริงจัง ต้องปราบปรามไม่ให้มีการกระทำความผิด ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 9 ม.ค.
เพิ่ม 3 จว.แซนด์บ็อกซ์
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ได้ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคในการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างประเทศในระบบเทสต์แอนด์โกที่พบผู้ติดเชื้อพอสมควร ที่ประชุมอภิปรายประเด็นนี้กันพอสมควร และมีข้อสรุปเกี่ยวกับการเดินทางเข้าประเทศว่า ให้ยกเลิกการกำหนดกลุ่มประเทศเสี่ยงที่ก่อนหน้านี้มี 8ประเทศจากแอฟริกาออกไป เพราะเชื้อโอมิครอนกระจายไปหลายประเทศทั่วโลกแล้ว ไม่จำเป็นต้องกำหนดกลุ่มเสี่ยงและยังเห็นชอบเพิ่มพื้นที่แซนด์บ็อกซ์อีก 3 จังหวัด จากเดิมมีเพียงภูเก็ต โดยเพิ่ม จ.สุราษฎร์ธานี เฉพาะเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า รวมถึง จ.พังงา และ จ.กระบี่ทั้งจังหวัด
Test&Go ห้ามเข้าหลัง 15 ม.ค.
โฆษก ศบค.กล่าวด้วยว่า ตรงนี้มีการกำชับให้ควบคุมการเดินทางเข้าพื้นที่แซนด์บ็อกซ์ หากสายการบินนานาชาติบินตรงไปในพื้นที่ได้เลยให้ใช้ช่องทางนั้น แต่หากต้องมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขอให้ควบคุมการเดินทาง ไม่ให้ปะปนกับประชาชนทั่วไปด้วยการใช้ระบบซีลรูท เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อส่วนระบบเทสต์แอนด์โกที่ยังเป็นช่องว่างในการนำเชื้อเข้ามาเพราะเชื้อโอมิครอนหลบการตรวจจับนั้น ได้ขอระงับการลงทะเบียนเทสต์แอนด์โกออกไปก่อน โดยในที่ประชุมมองกันหลายด้าน ทั้งมิติของเศรษฐกิจ สุขภาพประชาชน จึงให้ระงับการเดินทางเทสต์แอนด์โกสำหรับผู้ที่ได้รับอนุมัติและจะเดินทางเข้ามาภายหลังวันที่ 15 ม.ค. นายกฯระบุว่าหากสถานการณ์ดีขึ้นจะมีการปรับเปลี่ยนมาตรการได้อีก ตอนนี้ขอดูสถานการณ์ก่อน
ตั้งเป้า ม.ค.ฉีดวัคซีน 9.3 ล้านคน
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวว่า สำหรับการให้บริการฉีดวัคซีนของปี 2564 ประสบความสำเร็จใน การดำเนินการไปแล้วรวม 105 ล้านโดส ดังนั้นในปี 2565 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอแผนโดยมี 3 เป้าหมาย คือ 1.ผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเลยให้สามารถวอล์กอินได้ 2.เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบเกณฑ์แล้วหรือผู้ที่เคยติดเชื้อแล้ว ให้ได้รับเข็มกระตุ้นตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข 3.กลุ่มอายุ 5-12 ปี เดิมยังไม่มีวัคซีนโดสเด็ก ตอนนี้ให้ฉีดได้ตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครอง ส่วนกลุ่มผู้ที่ต้องได้รับเข็ม 4 คือบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มเสี่ยง คือประชาชนกลุ่มโรคเรื้อรัง เป็นไปตามสูตรที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หากมีผู้ประสงค์จะฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ให้เป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้รับวัคซีน การฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 4 ในกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับวัคซีนสูตรอื่นๆให้เป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์และความสมัครใจของผู้ได้รับวัคซีน เรียกได้ว่าเป็นการเปิดกว้างมากขึ้น ทำให้เลือกได้ ส่วนเป้าหมายของแผนฉีดวัคซีนปี 2565 ตั้งเป้าไว้ในเดือน ม.ค. ประมาณ 9.3 ล้านคน โดยเตรียมไว้ทั้งเข็ม 1-2-3-4
ไฟเขียวหายาแพกซ์โลวิด 5 หมื่นชุด
โฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า สำหรับแผนการจัดหายารักษาโควิด-19 คือยาต้านไวรัสแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ที่เป็นยาที่มีคุณสมบัติใช้ในผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อย ปานกลาง ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง นำไปใช้ในการรักษา กระทรวงสาธารณสุขได้ขออนุมัติในการจัดซื้อจาก ศบค. 50,000 ชุด ถือเป็นความมั่นคงทางยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ระบุว่า ไม่ต้องการให้ซื้อไว้จำนวนมาก เพราะยาหลักยังอยู่ที่ฟาวิพิราเวียร์ ส่วนแพกซ์โลวิดจะมาเสริมขึ้น โดยขออนุมัติไว้ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศบค. อนุมัติให้ใช้เงินกู้มาซื้อยาดังกล่าวตามต้องการ
ให้งดเดินทางไม่กระทบขนส่ง
เมื่อถามถึงกรณีที่กระทรวงสาธารณสุขยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 4 เรื่องการงดเดินทางข้ามจังหวัด มีมาตรการชัดเจนอย่างไร นพ.ทวีศิลป์ตอบว่า ที่ประชุม ศบค.หารือว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งข้อสังเกตว่าข้อเสนอดังกล่าวของกระทรวงสาธารณสุขให้ออกมาว่าเป็นระดับการเตือนภัยและเป็นข้อแนะนำของประชาชน จะเห็นได้ว่ามีข้อย่อยหลายข้อที่ใช้คำว่างด ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นจากการประชุมของนักวิชาการสายทางการแพทย์ จึงเกิดมาตรการต่างๆที่มีความแตกต่างกัน เป็นการยกระดับมาถึงระดับ 4 ที่มีระบุว่างดการเดินทาง หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าจะไปกระทบกับการเดินทาง การขนส่งด้านต่างๆ ตอบว่าไม่กระทบ เพราะนั่นเป็นข้อแนะนำที่เกิดจากกระทรวงสาธารณสุขเตือนบุคคลต่างๆ ว่าหากไม่มีความจำเป็นไม่ต้องเดินทาง
ต้องยึดข้อปฏิบัติตาม ศบค.
โฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า ส่วนข้อปฏิบัติหรือข้อกำหนดต้องเกิดขึ้นจาก ศบค.เท่านั้น ที่จะออกข้อกำหนด สั่งให้ดำเนินการในภาพรวมของทั้งประเทศ ที่ประชุม ศบค.วันนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดหรือข้อคำสั่ง หรือมติที่ประชุมใดๆ ที่จะเป็นการปิดกิจการกิจกรรมใดๆ การเดินทางยังเหมือนเดิม ขอให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขสำหรับผู้ที่ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางให้ใช้เป็นเกณฑ์ในการดูแลตัวเอง ใช้เป็นข้อเตือนภัยเช่นเดียวกับการเตือนภัยต่างๆ เพื่อใช้เป็นมาตรการยกระดับให้ประชาชนตื่นตัวและขอความร่วมมือให้ดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เพื่อผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
สั่ง พณ.สกัดฉวยขึ้นราคา ATK
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้รับข้อร้องเรียนว่าขณะนี้ราคาชุดตรวจโควิด Rapid Antigen Test Kit (ATK) ปรับสูงขึ้นทั้งที่ขายในร้านขายยา ร้านค้าออนไลน์ เนื่องจากมีความ ต้องการใช้ตรวจคัดกรองมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มอบหมายกระทรวงพาณิชย์ติดตามอย่างใกล้ชิด หากพบฉวยโอกาสขึ้นราคาให้ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมวางแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบประชาชนที่อยู่ในช่วงยากลำบาก โดยให้กระทรวงพาณิชย์กับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ติดตาม วิเคราะห์สถานการณ์ซื้อขายชุดตรวจ ATK นำไปสู่การวางมาตรการต่างๆ เพื่อการขายที่เป็นธรรม จำหน่ายผ่านหลายช่องทางขึ้น ช่วยแก้ไขปัญหาและราคาชุดตรวจ ATK ต่ำลงมากจนประชาชนเข้าถึง ขอความร่วมมือผู้ขายอย่าฉวยโอกาส หากพบมีการเอารัดเอาเปรียบค้าขายไม่เป็นธรรมจะถูกลงโทษตามกฎหมาย
ยังไม่พบฟลูโรนาในไทย
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีมีการพบคนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่และเชื้อไวรัสโคโรนาในคนเดียวกันที่ต่างประเทศหรือที่เรียกว่า “ฟลูโรนา” (Flurona) ว่า ขณะนี้ยังไม่มีนัยสำคัญอะไรที่ต้องวิตกกังวล จากการเฝ้าระวังในไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อดังกล่าว ฟลูโรนาเป็นชื่อที่มาจากฟลูคือไข้หวัดใหญ่และโคโรนาคือ
โควิด-19 เชื้อทั้งสองเป็นไวรัสทั้งคู่ แต่คนละตระกูล ทั้งสองตระกูลทำให้เกิดอาการทางเดินหายใจคล้ายกัน เช่น เป็นหวัด คัดจมูก อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว คนที่มีอาการรุนแรงจะทำให้เกิดปอดอักเสบและอาจเสียชีวิตจากระบบทางเดินหายใจล้มเหลว หรืออวัยวะต่างๆล้มเหลว อาการฟลูโรนาเท่าที่มีการรายงานยังไม่มีอะไรต่างจากโควิดทั่วไป โอกาสติดเชื้อทั้ง 2 ตัวพร้อมกันค่อนข้างน้อย ผู้ป่วยที่พบยังมีจำนวนน้อย มีรายงานตรวจพบในอิสราเอล บราซิล ฮังการี ฟิลิปปินส์ การที่คนหนึ่งคนติดเชื้อสองอย่างโดยบังเอิญในเวลาเดียวกันมีความเป็นไปได้ แต่จะผสมพันธุ์กันจนเกิดเป็นไฮบริดไม่ได้ จึงไม่ต้องวิตกกังวล
ติดเชื้อไม่มีอาการประกันไม่จ่าย
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงจำนวนเตียงทั่วประเทศรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ว่า ข้อมูลวันที่ 7 ม.ค. มีผู้ป่วยครองเตียงทั่วประเทศร้อยละ 20 กรุงเทพฯ มีเตียงว่าง 2 หมื่นเตียง แนวทางรักษาจะใช้วิธีกักตัวที่บ้านหรือกักตัวในชุมชนก่อนอันดับแรก เพราะเชื้อโอมิครอนที่ระบาดระลอกนี้ ไม่ค่อยมีอาการ การเตรียมโรงพยาบาลสนามกับโรงพยาบาลจะเน้นรองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและแดงเป็นหลัก ต่างจังหวัดก็จะเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม หรือศูนย์กักในชุมชน (CI) แล้วแต่บริบทของแต่ละจังหวัด ที่จังหวัดชลบุรีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรี รายงานว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ติดโควิดซึ่งรอบนี้ไม่มีอาการ ปรากฏว่าบริษัทประกันไม่จ่ายเพราะจะจ่ายต่อเมื่อมีอาการ ทำให้จังหวัดชลบุรีต้องเปิดโฮเต็ลไอโซเลชัน ให้นักท่องเที่ยวกักตัวรักษาอาการโดยจ่ายค่าห้องเอง เพราะโรงพยาบาลจะรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลืองและสีแดงเท่านั้น
บอกไม่ได้ป่วยสูงสุดเท่าไหร่
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องการระบาดของโอมิครอนในไทยเป็นระลอกที่เท่าไรว่า ขณะนี้โอมิครอนกำลังเริ่มต้นระลอกที่ 5 ในเฟซบุ๊ก ศ.นพ.ยงยังได้ลำดับการระบาดของโควิด-19 ในไทยว่าระลอกแรกเกิดขึ้นเดือน มี.ค.-เม.ย.2563 เริ่มต้นที่สถานบันเทิงทองหล่อและสนามมวย ระลอก 2 เกิดที่ตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร กลางเดือน ธ.ค.2563 พบมากในแรงงานต่างด้าว ระลอก 3 เกิดขึ้นที่สถานบันเทิงทองหล่อ ปลายเดือน มี.ค.2564 และเกิดระลอก 4 ซ้อนขึ้นมาในหมู่คนงานก่อสร้าง เดือน ก.ค.-ส.ค.2564 แล้วค่อยๆลดจำนวนลงช้าๆ ก่อนเริ่มระบาดหลังปีใหม่ด้วยสายพันธุ์โอมิครอน การระบาดครั้งนี้จะเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์เดลตา ยากที่จะพยากรณ์ว่าจุดสูงสุดจะมีผู้ป่วยเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับทุกคนที่จะต้องช่วยกัน
สปส.รับมือโอมิครอน
ที่สำนักงานประกันสังคม จ.นนทบุรี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) แถลงหลังประชุมร่วมกับสถานพยาบาลประกันสังคมกว่า 50 แห่ง ว่า สปส.ได้เตรียมความพร้อมในการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 หากติดเชื้อเข้ารักษาได้ที่สถานพยาบาลตามสิทธิและสถานพยาบาลใกล้ที่พักทุกแห่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ประกันตนที่สงสัยว่าจะติดเชื้อ ทั้งที่มีอาการ ไม่มีอาการ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด หากผลตรวจเป็นบวกขอให้กักตัวและรีบเข้าสู่กระบวนการรักษาทันที สำนักงานประกันสังคมได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อผู้ประกันตน ติดต่อใช้บริการได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 6 และกด 7 จะมีคณะทำงานประสานสถานพยาบาล Hospitel เพื่อเป็นช่องทางรองรับการให้บริการให้ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาโดยจะมีรถไปรับตัวจากที่พักภายใน 3 ชั่วโมง
พะเยามาแรงอาจติดเชื้อนับพัน
สำหรับสถานการณ์โควิด -19 ในส่วนภูมิภาค ที่ จ.พะเยา นพ.ศุภชัย บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยาแถลงถึงสถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ พบมีผู้ป่วยเพิ่มสูงกว่า 200 ราย จากการรวมกลุ่มสังสรรค์ ส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ 4 คลัสเตอร์ ดังนี้ คลัสเตอร์นักเรียน-ครู-ครอบครัวในโรงเรียน เขตเทศบาลเมืองพะเยา 70 ราย ระบาดในพื้นที่ อ.เมืองพะเยา อ.แม่ใจ อ.ดอกคำใต้ อ.ภูกามยาว คลัสเตอร์ร้านอาหาร อ.เชียงคำ 13 ราย ระบาดในพื้นที่ อ.เชียงคำและ อ.ภูซาง คลัสเตอร์เคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ร้านพระราม 8 เขตเทศบาลเมืองพะเยา 57 ราย ระบาดในพื้นที่ อ.เมืองพะเยา อ.ดอกคำใต้ อ.ภูกามยาวและ อ.เชียงคำ คลัสเตอร์ติดเชื้อในครอบครัวจากญาติที่มาจากจังหวัดสมุทรปราการ 11 ราย ระบาดในพื้นที่ อ.แม่ใจ ได้ส่งตัวอย่างเชื้อไปตรวจหาสายพันธุ์พบ 2 คลัสเตอร์ที่เป็นสายพันธุ์โอมิครอน คือคลัสเตอร์ร้านพระราม 8 และคลัสเตอร์ติดเชื้อในครอบครัว อ.แม่ใจ ประเมินว่าการตรวจพบเชื้อโอมิครอนของ จ.พะเยา น่าจะมีเพิ่มกว่านี้เพราะยังมีกลุ่มเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก ประเมินคร่าวๆ ก่อนสิ้นเดือน ม.ค.น่าจะมีราว 500-1,000 ราย
ผวจ.สั่งปิดร้านพระราม 8 รวม 30 วัน
ด้าน พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จ.พะเยา เปิดเผยว่า ได้สั่งปิดสถานบันเทิงร้านพระราม 8 ไปก่อนหน้านี้เป็นเวลา 15 วันหลังปล่อยให้ผู้ติดเชื้อเข้าใช้บริการ แต่ในการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.พะเยา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. นายศักดิ์ฤทธิ์ สลักคำ ผวจ.พะเยา ได้มีคำสั่งใหม่ให้ปิดเพิ่มเป็น 30 วันและให้ฝ่ายปกครองสอบสวนหลังจากพบไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อว่าไม่มีการสวอบนักท่องเที่ยวและปล่อยให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี และ 16 ปีเข้าใช้บริการและติดเชื้อโควิดกลายพันธุ์โอมิครอน เพื่อพิจารณาลงโทษสถานหนักคือปิด 5 ปี ต่อไป
ร้อยเอ็ดป่วยเพิ่มจากปัจจัยเสี่ยง
ส่วนสถานการณ์ของ จ.ร้อยเอ็ด พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 81 ราย โดยสำนักงานสาธารณสุขรายงานว่า หลังเทศกาลปีใหม่พบผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด คือการใช้บริการเป็นเวลานานในสถานที่ระบบปิด กิจกรรมงานเลี้ยง งานบุญ การเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดในครอบครัว ชุมชน และสถานที่ทำงาน เพิ่มขึ้น
แจ้งจับ 4 ผับ–ป่วยเพิ่ม 554
ที่ จ.อุบลราชธานี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ. ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มอบหมายให้นายนคร ศิริปริญญานันท์ นอภ.เมืองอุบลราชธานี เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สนัด พรมประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดีกับร้านอาหารกึ่งผับ 4 แห่ง มีร้านรินเดอะโรส ร้านอนานัส ร้านรียูเนียน ร้านการิน เพิ่มเติมจากที่แจ้งดำเนินคดีร้านเอกมัย 487 ข้อหาฝ่าฝืนประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ 2558 และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 นอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารกึ่งผับลักษณะเดียวกัน 5-6 แห่ง ที่กำลังมีการสอบสวนโรคจากนักเที่ยว หากให้การเชื่อมโยงมีการฝ่าฝืนขายเหล้าถึงร้านใด ก็จะเข้าแจ้งดำเนินคดีเพิ่ม และหากพบมีการปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการจะถูกเสนอสั่งปิดร้านเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อพบติดเพิ่มอีก 554 ราย
งดงานวันเด็ก–วันครู
นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของจังหวัดยังทรงตัวและต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด สำหรับคลัสเตอร์โอมิครอนที่เชื่อมโยงกับสองสามีภรรยากลับจากต่างประเทศและร้านอาหารกึ่งผับในตลาดโรงสียังไม่พบผู้ป่วยเพิ่มเป็นวันที่ 2 เท่าที่ได้รับรายงานคลัสเตอร์นี้คุมสถานการณ์ได้แล้ว ผู้ติดเชื้อยังอยู่ที่ 254 ราย เชื่อมโยงไปยังการแสดงดนตรีหาดแสงจันทร์ อ.สหัสขันธ์ 17 รายเท่าเดิม ผลยืนยันอย่างเป็นทางการเป็นโอมิครอนจากคลัสเตอร์นี้ 233 รายเท่าเดิม ส่วนที่พบคลัสเตอร์ใหม่ที่เชื่อมโยงสถานศึกษา ต.สงเปือย อ.นามน พบผู้ป่วยกว่า 57 ราย เป็นเด็กนักเรียน 30 ราย ติดในชุมชน 27 ราย และได้แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆทั้ง 18 อำเภอให้งดจัดงานวันเด็ก 8 ม.ค. รวมถึงการงดจัดงานวันครู 16 ม.ค.
สกลนครงดคอนเสิร์ต
ทางด้านสถานการณ์จังหวัดสกลนครวันที่ 7 ม.ค. พบผู้ติดเชื้อใหม่ 51 ราย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสกลนครสั่งงดการแสดงคอนเสิร์ตในงานนมัสการพระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสน ที่จะจัดระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค. ทั้งในวัดพระธาตุเชิงชุมและสนามมิ่งเมือง ที่มีการโปรโมตกำหนดการแสดงของเหล่าศิลปินดารานักร้องชื่อดังไว้แล้วแต่ต้องถูกยกเลิกเพราะโควิด
มหาสารคามเข้มตรวจสถานบันเทิง
ส่วนที่ จ.มหาสารคาม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผวจ. เผยถึงผู้ป่วยโควิดว่า พบใหม่ 93 ราย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดมีมติเห็นชอบให้เปิด รพ.สนามมหาวิทยาลัยมหาสารคามจำนวน 122 เตียง รพ.สนาม มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 200 เตียงและสั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษจังหวัด/อำเภอ ออกตรวจสถานบริการ สถานประกอบการทุกวันเพื่อกวดขันและแนะนำให้ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดและมาตรการทางด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด หากพบการฝ่าฝืนกระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ภูเก็ตติดเชื้อนิวไฮอีก 415 ราย
ที่ จ.ภูเก็ต สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตรายงานพบผู้ติดเชื้อใหม่ 415 ราย เป็นผู้ติดเชื้อภายในจังหวัด 256 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 1 ราย ติดเชื้อจากโครงการ Phuket Sandbox 97 รายผู้ติดเชื้อจาก Test&Go 61 ราย ขณะที่นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ภูเก็ต นายอำนวย พิณสุวรรณ รองผวจ.ภูเก็ต นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมหารือกับกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ต มีกงสุลใหญ่ออสเตรเลีย กงสุลกิตติมศักดิ์ออสเตรีย กงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโก กงสุลกิตติมศักดิ์เนปาล กงสุลกิตติมศักดิ์เนเธอร์แลนด์ กงสุลกิตติมศักดิ์นอร์เวย์ กงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย ประจำจังหวัดภูเก็ตและกงสุลกิตติมศักดิ์สวิตเซอร์แลนด์ หารือแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ได้รับทราบและนำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติที่อาศัยในจังหวัดภูเก็ตทราบถึงมาตรการต่างๆที่จังหวัดออกมาเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19
ชลบุรีโควิดพีกสุดติด 1,342 ราย
ที่ จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์โควิด-19 ทำสถิตินิวไฮ โดยพบผู้ติดเชื้อมากถึง 1,342 รายในวันที่ 7 ม.ค. และตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ชลบุรี ได้สั่งการให้เปิดสถานประกอบการต่างๆไปแล้วนั้น ไม่ได้มีคำสั่งให้ปิดบริการแต่อย่างใด เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ หากพื้นที่ไหนมีความรุนแรงของการแพร่ระบาดจะใช้มาตรการที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ตามที่สั่งการไปแล้วคือทั้งพนักงานผู้ประกอบการต้องตรวจ ATK รวมทั้งผู้เข้ามาใช้บริการด้วย หากมีการฝ่าฝืนก็จะสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าวAds by optAd360
รับผิดไม่ตรวจ ATK ลำไย ไหทองคำ
ขณะที่นายวินัย อินทร์พิทักษ์ นายกเทศบาลเมืองหนองปรือ กล่าวถึงการจัดงานเคาต์ดาวน์แล้วมีนักร้องคนดัง ลำไย ไหทองคำ ติดโควิดและเจ้าตัวระบุว่าไม่มีการตรวจ ATK ว่า งานที่จัดมีมาตรการการควบคุมโรค โดยจัดทางเข้าทางเดียว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีการตรวจสอบผู้ที่มาร่วมงานต้องฉีดวัคซีนอย่างต่ำ 2 เข็ม ในวันงานเจ้าหน้าที่มีการขอตรวจ ATK ทีมงานนักร้องลำไย ไหทองคำ แต่ทางทีมงานไม่ให้ตรวจ ทางเราจึงไม่ได้ตรวจเพราะถือว่าเป็นการให้เกียรติกัน ยอมรับความผิดในเรื่องการหย่อนยาน เมื่อรู้ว่านักร้องดังลำไย ไหทองคำ ติดโควิด จึงได้ตรวจ ATK ผู้บริหารทั้งเทศบาลหนองปรือและเทศบาลโป่ง ไม่พบผู้ติดเชื้อ ทำให้มีความเป็นได้ว่าลำไยอาจติดเชื้อก่อนหน้านี้
นทท.ต่างชาติรอตรวจ PCR ล้น รพ.
ที่ รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี วันเดียวกันมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากมาเข้ารับการตรวจ PCR รอบ 2 ตามระบบ แต่เนื่องด้วยคิวนัดหมายเต็มยาวเหยียด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติพากันยืนรอจนล้นสถานที่ในการรอรับการตรวจตรงจุดรับเอกสารมีเพียงเอกสารและวิธีการดำเนินการแปะติดไว้เท่านั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยทำความเข้าใจหรืออธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้เข้าใจ ทำให้บางรายเกิดความสับสนและไม่เข้าใจขั้นตอนการดำเนินการ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนและพื้นที่จำกัด นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มารอตรวจ PCR ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า งงและสับสนว่าจะต้องเตรียมเอกสารอะไรมาบ้าง รวมไปถึงการรอผลตรวจที่แจ้งผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อมเท่านั้นหรือไม่ หรือได้รับเอกสารทางอีเมล หรือเอกสารต้องไปรับที่ไหน เนื่องจากนักท่องเที่ยวบางรายไม่มีแอปพลิเคชันไลน์ หรือใช้อินเตอร์เน็ตได้ตลอดเวลา รวมไปถึงสถานที่ในการตรวจเองมีความเสี่ยงเพราะพื้นที่คับแคบแออัด นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายรายระบุว่า พร้อมทำตามกฎระเบียบอยู่แล้ว ขอเพียงให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐของไทยสร้างมาตรฐานในการเข้ารับการตรวจและระบบที่มีคุณภาพจะเป็นเรื่องดีและส่งผลถึงภาพลักษณ์ต่อประเทศไทย
นนท์ติดเชื้อพุ่งลิ่ว 311 ราย
นอกจากนี้ ศูนย์โควิด-19 จังหวัดนนทบุรี รายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งสูงขึ้นถึง 311 รายเป็นชาวต่างชาติ 8 ราย คือเมียนมา 4 ราย ลาว 2 ราย กัมพูชา 1 ราย เกาหลี 1 ราย ผู้ติดเชื้อมากที่สุดอยู่ที่อำเภอเมืองนนทบุรี 116 ราย ไทม์ไลน์กลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อได้แก่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ 15 ราย กลุ่มเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ 24 ราย เดินทางต่างจังหวัด 17 ราย นักเรียนนักศึกษา 23 ราย กลุ่มอาชีพเสี่ยง ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนมากไปเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต บางใหญ่ นนทบุรี ในช่วงที่ “โอมิครอน” กำลังระบาดรุนแรง
คนวงการบันเทิงติดเชื้ออีก
ด้านวงการบันเทิงวันเดียวกัน GMMTV โพสต์แจ้งข่าวว่า “อาร์ม-วีรยุทธ จันทร์ สุข” นักแสดงในสังกัด GMMTV ติดเชื้อโควิด-19 โดยมีอาการไอและไข้เล็กน้อยระหว่างนี้ได้กักตัวอยู่ในที่พักรอเข้ารับการรักษาตัว ส่วนช่องวัน 31 แจ้งว่า “ไบร์ท-นรภัทร วิไลพันธุ์” พระเอกดาวรุ่งนักแสดงในสังกัดช่องวัน 31 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และเข้ารักษาตัว
ที่ รพ.แล้ว นอกจากนี้ “โดนัท-ภัทรพลฒ์ เดชพงษ์วรานนท์” พระเอกหนุ่มดาวรุ่งในสังกัด ก็ติดเชื้อโควิด-19 หลังมีอาการเจ็บคอและไอก่อนจะตรวจด้วย ATK และพบเชื้อจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้ง พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงได้เร่งแจ้งคนเกี่ยวข้องและรอเข้าสู่กระบวนการรักษา
โอมิครอนทำเด็กเข้า รพ.อื้อ
วันเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั่วโลก อย่าตีตราว่าเชื้อโควิด-19 ตัวกลายพันธุ์โอมิครอน เป็นเชื้อที่ “เบา” ไม่มีความรุนแรง เพราะทั่วโลกยังมีคนป่วย มีคนเสียชีวิต อัตราการติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 71 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ป่วยอาการรุนแรงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ส่วนที่สหรัฐฯ สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลว่า การระบาดอย่างรุนแรงของเชื้อโอมิครอนในสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบล้มป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยมีเด็กล้มป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเฉลี่ยวันละ 672 คน ส่วนช่วงสัปดาห์ปลายเดือน ธ.ค. มีเด็กติดเชื้อโควิดมากกว่า 325,000 คน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลจากโควิดมีอาการรุนแรงจนต้องเข้ารักษาตัวในห้องฉุกเฉินไอซียู ซึ่งในกลุ่มนี้ มีประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ