“ยุทธพงศ์” ซัดต้นเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางเหตุอธิบดีกรมอุตุฯพยากรณ์ผิดพลาด ไม่ปล่อยผ่านเตรียมอภิปราย ม.152 นายกฯ-ชัยวุฒิ ก่อนยื่นปปช.ฟันซ้ำฐานประพฤติหน้าที่โดยมิชอบ
พรรคเพื่อไทยนำโดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมนายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี และน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวสาเหตุเบื้องลึก ที่เรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง และเรื่องการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152
โดยนายยุทธพงศ์ ระบุว่า กรณีเรือรบหลวงสุโขทัยอับปาง ซึ่งเหตุการณ์นี้พรรคเพื่อไทยขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียเรือรบหลวงที่มีความสำคัญ เสียใจต่อผู้บาดเจ็บ เสียชีวิต และผู้สูญหาย การสูญเสียครั้งนี้มีความสำคัญมากเพราะเป็นเรือชั้นแนวหน้า โดยเบื้องลึกตนฟันธงว่าเกิดจากความผิดพลาดของกรมอุตุนิยมวิทยา เพราะต้องพยากรณ์อากาศ ต้องบอกเจ้าหน้าที่ทหารเรือ ชาวประมง ว่าจะมีพายุลมแรงขนาดใด แต่ไม่ได้มีการแจ้งเตือนไปยังเรือหลวง หากมีการแจ้งเตือนคงไม่มีการขับเรือออกไปบริเวณนั้นซึ่งมีคลื่นลมที่แรงถึง 6 เมตร
โดยนายยุทธ์พงศ์ ระบุว่า อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาคนปัจจุบันที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่เคยทำงานกรมอุตุนิยมวิทยา ไม่มีความรู้ และเป็นเสมียนเก่าที่เคยทำงานให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมคนเก่า ซึ่งอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ที่เกิดจากการพยากรณ์อากาศที่ผิดพลาด เรื่องนี้หากมีการประกาศแจ้งเตือนเรือหลวงสุโขทัยคงไม่ออกจากท่าเรือสัตหีบ นอกจากนี้มองว่ามีการแจ้งผิดที่ผิดตำแหน่ง เป็นการพยากรณ์คลื่นลมแบบ กว้างๆไม่ได้บอกพิกัดหรือตำแหน่งที่ชัดเจน โดยนายยุทธ์พงศ์ท้าให้ฟ้องร้องได้เลยหากไม่เป็นความจริง และท้าให้ออกทีวีแข่งกับตนเรื่องการพยากรณ์อากาศได้เลย และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สอบสวน ตนจะยื่นสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ให้ตรวจสอบแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบจะไม่ให้ทหารเรือต้องตายฟรี
นอกจากนี้จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในมาตรา 152 ซึ่งตนจะอภิปรายเอง เรื่องของนายกรัฐมนตรีที่เอาเสมียนที่ไม่มีความรู้มาทำงาน นอกจากนี้จะอภิปรายนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมต้องรับผิดชอบด้วยที่มีการเสนอชื่อดังกล่าวให้มาปฏิบัติหน้าที่ โดยญัตติได้ร่างเรียบร้อยแล้ว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ บริหารแผ่นดินขาดความซื่อสัตย์ ไม่เป็นไปตามนโยบายที่เสนอต่อสภา รวมไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยไปเยี่ยมหรือดูทหารเลยหลังจากที่ตนพูดในสภา จึงลงไปติดตาม แต่ที่ลงพื้นที่เชียงรายและภาคใต้ เป็นการหาเสียง เพราะอยากเป็นนายกรัฐมนตรีอีก