ระทึก เรือสปีดโบ๊ตท้องเรือแตก ล่มกลางทะเลตราด นักท่องเที่ยวและแม่วัย 80 ปี คนขับรวม 7 ชีวิต ต้องลอยคอ 2 ชั่วโมงกว่า รอความช่วยเหลือ โชคดีเรือประมงชาวบ้านไปพบจึงช่วยชีวิตไว้ได้ทั้งหมด
เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา นายมานพ เหลืองอ่อน ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตราด ได้รับแจ้งจาก นายนาวิน วิรันโท อายุ 41 ปี ว่ามีเรือสปีดโบ๊ต ชื่อเรือ ช.ประสพโชค เกิดเรือแตกแล้วล่มอยู่กลางทะเล ห่างจากชายฝั่งสะพานแหลมงอบประมาณ 2 กิโลเมตร โดยทั้งหมด 7 ชีวิต กำลังใส่ชูชีพลอยคอรอความช่วยเหลืออยู่กลางทะเล หลังเกาะช้าง หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แหลมงอบ, สถานีตำรวจน้ำ 5 กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจน้ำ (ตำรวจน้ำแหลมงอบ), เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยส่งกำลังบำรุงทหารเรือตราด, เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง กู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด และ กู้ภัยตราดพุทธสงเคราะห์ ให้นำเรือออกตรวจสอบให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งการค้นหาจุดที่เรือล่มเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจาก พิกัดที่ได้รับแจ้งไม่แน่ชัด ประกอบกับเจ้าหน้าที่ค้นหาตามที่ได้รับแจ้งแล้วก็ยังไม่พบ เนื่องจากผู้ที่ประสบภัยสวมใส่เสื้อชูชีพอาจจะลอยน้ำเคลื่อนที่ไปเลื่อยๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้นำอุปกรณ์ปฐมพยาบาลมารออยู่ที่ปลายสะพานแหลมงอบ โดยตั้งเป็นจุดประสานงานในการติดต่อสื่อสารกับเรือของเจ้าหน้าที่แต่ละลำที่ออกค้นหา
นายนาวิน วิรันโท อายุ 41 ปี ผู้แจ้งเหตุ เล่าว่า ตนเองได้รับโทรศัพท์จาก นาย จีรศักดิ์ ทิพย์ยอและห์ อายุ 43 ปี ที่เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัย โทรมาบอกว่าเรือสปีดโบ๊ตที่นั่งไปเรือเกิดแตกและเรือได้ล่มจมลง หลังจากที่ขับออกมาจากเกาะลิ่มมาได้ประมาณ 5 นาที ซึ่งติดต่อได้สักพักก็ขาดการติดต่อไป โดยเรือลำดังกล่าวได้ออกไปจากฝั่งบ้านแหลมงอบ ประมาณ 14.00 น. โดยมีผู้โดยสารและคนขับรวม 7 ชีวิต เป็นชาย 6 คน หญิง 1 คน โดยผู้หญิงเป็นหญิงสูงอายุ 80 ปี ซึ่งคนส่วนใหญ่มาจาก กทม. โดยคนทั้งหมดได้ไปเที่ยวและเยี่ยมญาติที่อยู่ที่เกาะลิ่ม และขากลับเกิดเรือประสบเหตุเรือแตกจนเรือจมลง ทั้งหมดใส่เสื้อชูชีพลอยคอรอความช่วยเหลือ
โดยใช้เวลาค้นหานานกว่า 2 ชั่วโมงกว่า จนได้รับแจ้งจากเรือประมงพื้นบ้านของชาวบ้านว่าสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทั้งหมด โดยได้แจ้งพิกัดที่พบอยู่ห่างจากฝั่งหน้าหาดทรายดำ อ.แหลมงอบ ออกไปประมาณ 2 ไมค์ทะเล จากนั้นเรือตำรวจน้ำก็ได้เดินทางไปพิกัดดังกล่าวเพื่อให้การช่วยเหลือรับผู้ประสบภัยทั้งหมด แต่มี 1 ราย ที่มีอาการอ่อนเพลียมาก ชาวบ้านที่พบได้รีบนำเข้าฝั่งมาก่อน 1 คน โดยได้ลำเลียงนำเข้าฝั่งที่ท่าเทียบเรือประมงบ้านแหลมทองหลาง หมู่ 5 ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ เป็นชายมีอาการอ่อนเพลียโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันนำผู้ประสบภัยขึ้นจากเรือมาทำการปฐมพยาบาลก่อนจะให้รถกู้ชีพจากโรงพยาบาลแหลมงอบ นำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ประสบภัยอีก 6 ราย ทราบว่าเรือตำรวจน้ำกำลังนำมาขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือสะพานแหลมงอบ
นายปริญญา วงศ์เดอรี อายุ 66 ปี 1 ในผู้ประสบภัย เล่าว่า ตนเองมาจาก กทม. และได้ไปเที่ยวเยี่ยมญาติที่เกาะลิ่ม และที่เกิดเหตุเรือล่มตอนขากลับ สาเหตุที่เรือล่มเกิดจากเรือมันแตกเรือกระแทกกับคลื่นจนท้องเรือแตก ตนเองและญาติๆ ที่ไปด้วยกันต้องลอยคอนานกว่า 2 ชั่วโมงกว่า และยังมีคนแก่อายุ 80 ปี ด้วยที่ต้องลอยคอด้วย ตอนที่ลอยคอก็ต้องช่วยกันประคองกันมา โชคดีที่ใส่เสื้อชูชีพ และมีเรือประมงชาวบ้านมาพบและช่วยเหลือจึงรอดมาได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ตนเองเข็ดไปจนตาย
ด้านนายสมควร จันศิริ อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นคนขับเรือ เล่าว่า ตนเองเป็นคนขับเรือ โดยพาผู้โดยสารกลับจากเกาะลิ่ม เมื่อมาถึงบริเวณจุดเกิดเหตุห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมค์ทะเล เรือแตกจากด้านหน้าน้ำเริ่มเข้า เรือเริ่มวิ่งไม่ไหว ตนเองจึงเบาเรือให้ช้าลง แล้วบอกให้คนในเรือโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยเหลือ พร้อมทั้งตรวจเสื้อชูชีพที่สวมใสให้เรียบร้อย ก่อนที่เรือจะจมลงทุกคนก็ต้องลอยคอรอความช่วยเหลือ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ประสบภัยทั้งหมดส่งโรงพยาบาลแหลมงอบ เพื่อตรวจสภาพร่างกาย พร้อมทั้งได้ทำการนัดหมายนายสมควร จันศิริ คนขับเรือมาให้ปากคำอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ต่อไป.