ความคืบหน้ากรณี รถทัวร์นักท่องเที่ยวแหกโค้งพลิกคว่ำบนเขาน้ำหนาว เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 46 ราย
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีเมื่อเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ 191 ว่าเกิดอุบัติเหตุหมู่รถทัวร์นักท่องเที่ยวพลิกคว่ำ บนเส้นทางหลวงหมายเลข 12 ถนนสายหล่มสัก-ชุมแพ หลักกิโลเมตรที่ 148 – 149 บริเวณช่วงระหว่างอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว-หน่วยพิทักษ์ป่าฯซำมะคาว อยู่ในเขตพื้นที่ ต.น้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 46 ราย และเสียชีวิต 1 ราย จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย รถกู้ชีพโรงพยาบาลน้ำหนาว และอาสาสมัครกู้ภัยกกไทรหล่มสัก-น้ำหนาว รวมทั้งอาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่เข้าให้การช่วยเหลือ นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลน้ำหนาว และโรงพยาบาลคอนสาร จ.ชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว มาทาง อ.ชุมแพ ประมาณ 5 กิโลเมตรพบรถทัวร์ยี่ห้อ Scania สีเขียว หมายเลขทะเบียน 30-0595 ขอนแก่น พลิกคว่ำอยู่ที่กลางถนน ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อน เบาะนั่งผู้โดยสารกระเด็นออกมาอยู่นอกตัวรถ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุรชัย ซึ่งเป็นคนขับรถ และมีผู้ได้รับบาด 46 ราย อาสาสมัครกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลน้ำหนาว จำนวน 45 ราย และโรงพยาบาลคอนสาร จ.ชัยภูมิ จำนวน 1 ราย
จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า รถทัวร์คันดังกล่าว ได้นำคณะสตรีจาก อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม มาศึกษาดูงานและพักค้างคืนอยู่ที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเดินทางกลับ โดยเส้นทางดังกล่าว เป็นทางลงเขาที่มีความลาดชันสลับกับเป็นทางที่คดเคี้ยวระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร คาดว่าระบบเบรกอาจขัดข้อง รถได้เสียหลักชนการ์ดเลนและพลิกค่ำ ส่วนคนขับคือนายสุรชัย แซ่จึง กระเด็นออกมานอกรถ เสียชีวิตคาที่ ส่วนรถได้ไถลไปกับถนนระยะทางเกือบ 100 เมตร
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุหมู่ รถทัวร์พลิกคว่ำในครั้งนี้ คาดว่าระบบเบรกอาจจะมีปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ นายราม สิงหโศภิษฐ์ นายอำเภอน้ำหนาว เดินทางมา เพื่ออำนวยการสถานการณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดถนนเพื่อให้การช่วยเหลือและเคลื่อนย้ายรถทัวร์คันเกิดอุบัติเหตุให้ชิดขอบทาง แต่การทำงานเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากถังน้ำมันรถคันเกิดอุบัติเหตุได้รั่ว มีน้ำมันไหลออกมาเป็นจำนวนมาก จึงต้องใช้สารเคมี และน้ำพ่นเลี้ยงอยู่ตลอดเวลาขณะดึงรถ เพราะเกรงว่าจะเกิดประกายไฟ และทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้