ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ 17 สาขา มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 66 เว็บไซต์ราชกิจจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่อง อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ (ฉบับที่ 12)
ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 21 ได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับตามมาตรฐานฝีมือ และมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ให้กำหนดอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ รวม 17 สาขา โดยใช้มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นเกณฑ์วัดค่าทักษะฝีมือ ความรู้ ความสามารถ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 79 (4) และมาตรา 88 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงานพ.ศ. 2541 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2551 คณะกรรมการค่าจ้างจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ประกาศนี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ 2 ในประกาศนี้ “มาตรฐานฝีมือ” หมายความว่า มาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
ข้อ 3 อัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในแต่ละสาขาอาชีพและในแต่ละระดับ ให้เป็นดังนี้
(1) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างระบบส่งถ่ายกำลัง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละสี่ร้อยเก้าสิบห้าบาท
(2) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างระบบปั๊มและวาล์ว ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยสิบห้าบาท
(3) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างประกอบโครงสร้างเหล็ก ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยบาท
(4) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างปรับ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยบาท
(5) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาผู้ควบคุมระบบงานเชื่อมมิก-แม็ก ด้วยหุ่นยนต์ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยยี่สิบบาท
(6) สาขาอาชีพช่างอุตสาหการ สาขาช่างเมคคาทรอนิกส์และหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ระดับ 1เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยสี่สิบห้าบาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยสามสิบห้าบาทและระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละเจ็ดร้อยสิบห้าบาท
(7) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาช่างซ่อมรถแทรกเตอร์การเกษตร ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละสี่ร้อยหกสิบห้าบาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยสามสิบห้าบาทและระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยยี่สิบบาท
(8) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถตักหน้าขุดหลัง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยแปดสิบห้าบาท
(9) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถขุด ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยเจ็ดสิบบาท
(10) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถลากจูง ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยห้าสิบห้าบาท
(11) สาขาอาชีพช่างเครื่องกล สาขาพนักงานควบคุมเครื่องจักรรถตัก ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยยี่สิบบาท
(12) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (โภชนบำบัด)ระดับ1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยบาท และระดับ2เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยบาท
(13) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (วารีบำบัด)ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยบาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยบาท
(14) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขานักส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวม ไทยสัปปายะ (สุคนธบำบัด)ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยบาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยบาท
(15) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาพนักงานผสมเครื่องดื่ม ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละสี่ร้อยเจ็ดสิบห้าบาท ระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยยี่สิบห้าบาท และระดับ 3 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยบาท
(16) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยสามสิบบาท
(17) สาขาอาชีพภาคบริการ สาขาช่างเครื่องช่วยคนพิการ ระดับ 1 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละห้าร้อยยี่สิบบาท และระดับ 2 เป็นเงินไม่น้อยกว่าวันละหกร้อยบาท
ข้อ 4 เพื่อประโยชน์ตามข้อ 3 (1) ถึง (17) คำว่า “วัน” หมายถึง เวลาทำงานปกติของลูกจ้าง
ข้อ 5 นายจ้างที่ให้ลูกจ้างทำงานในตำแหน่งงานหรือลักษณะงานที่ต้องใช้ทักษะฝีมือความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับใด ไม่ว่าจะครอบคลุมมาตรฐานฝีมือนั้นทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดก็ตาม ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับนั้น
ข้อ 6 ภายใต้บังคับข้อ 5 ลูกจ้างที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับใด ไม่ว่าก่อนหรือหลังประกาศนี้มีผลใช้บังคับ หากประสงค์จะใช้สิทธิให้ยื่นหนังสือรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือในสาขาอาชีพและระดับนั้นแก่นายจ้างโดยเร็ว
เมื่อนายจ้างได้รับหนังสือรับรองตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้จ่ายค่าจ้างตามอัตราในประกาศนี้ให้แก่ลูกจ้างนับแต่วันที่ได้หนังสือรับรองเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2566
บุญชอบ สุทธมนัสวงษ์
ปลัดกระทรวงแรงงาน
ประธานกรรมการค่าจ้าง