นายลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีบราซิล จะกลายเป็นประธานาธิบดีบราซิลสมัยที่ 3 หลังสามารถเอาชนะการเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม ได้รับชัยชนะเหนือนายฌาอีร์ โบลโซนารู ประธานาธิบดีบราซิลคนปัจจุบัน และมีกำหนดเข้าสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคมนี้
หลังการนับคะแนนไปได้ราว 99% นายลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา อดีตประธานาธิบดีวัย 77 ปี ลงสมัครในนามตัวแทนพรรคคนงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายซ้าย ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 50.89% คิดเป็น 60,218,484 คะแนน ขณะที่ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำคนปัจจุบัน วัย 67 ปี จากพรรคอนุรักษนิยม ได้รับคะแนนเสียงสนับสนุน 49.11% คิดเป็น 58,111,752 คะแนน ซึ่งถือเป็นการแข่งขันที่ค่อนข้างสูสี หลังจากที่การเลือกตั้งรอบแรกเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ไม่มีใครในผู้สมัครทั้งสองรายที่ได้รับเสียงสนับสนุนเกินครึ่งหนึ่ง ทำให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งรอบสองตามมา
ประชาชนชาวบราซิลมากกว่า 156 ล้านคนที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งในปีนี้ ขณะที่ผู้สมัครทั้งสองได้ทำการลงคะแนนเสียงไปตั้งแต่ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ และยังไม่มีรายงานความรุนแรงที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองใดๆ เกิดขึ้นในวันเลือกตั้ง
การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากนายโบลโซนารู ซึ่งมีมุมมองทางการเมืองฝ่ายขวาจัดและประชานิยม แต่อดีตประธานาธิบดีรายนี้ก็สูญเสียแรงสนับสนุนไปเช่นกัน จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งบราซิลกลายเป็นชาติที่มีตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดใหญ่เลวร้ายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ดา ซิลวา ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีบราซิลมาแล้ว 2 สมัยในระหว่างปี 2003-2006 และ 2007-2011 ภายใต้การเป็นผู้นำของเขาเศรษฐกิจของบราซิลเจริญเติบโตขึ้นเนื่องจากผลพลอยได้ที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งช่วยสนับสนุนโครงการสวัสดิการสังคมขนาดใหญ่ และขจัดความยากจนให้กับคนหลายล้านคน โดยเขาได้รับคะแนนนิยมสูงถึง 90% หลังออกจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมามีการสอบสวนเกี่ยวกับคดีทุจริตคอร์รัปชันที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล ซึ่งนำไปสู่การตั้งข้อหานักการเมืองและนักธุรกิจระดับสูงหลายร้อยคนทั่วลาตินอเมริกา นายดา ซิลวา ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาทุจริตและฟอกเงินในปี 2017 แต่ศาลได้ยกเลิกคำพิพากษาเมื่อเดือนมีนาคม 2021 ซึ่งทำให้เขาสามารถกลับมาสู่เส้นทางการเมืองได้อีกครั้งหนึ่ง.