วัยรุ่นชายหญิงซ้อน จยย.ออกเที่ยวพุ่งชนอัดท้ายสิบล้อจอดเสียข้างทาง ตาย 3 ศพ บนทางหลวงหมายเลข 2178 ขาเข้า อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี หลังออกทริปเที่ยวกลับมาจากผามออีแดง
เมื่อเวลา 10.20 น. เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 64 ร.ต.อ.วิเศษ บัวแก้ว รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรง จังหวัดอุบลราชธานี รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ทางหลวงหมายเลข 2178 ขาเข้า อำเภอวารินชำราบ บริเวณบ้านหนองสิม ตำบลโนนกลาง อำเภอสำโรง จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบูชาธรรมสถานอุบลราชธานี แพทย์เวรโรงพยาบาลสำโรง เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าสีแดง 2 กค 6376 อุบลราชธานี ชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อบรรทุกไก่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 82-5202 อุบลราชธานี มีนายอำคา สายเคน อายุ 33 ปี แสดงตัวเป็นผู้ควบคุมรถ มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุ ทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ นางสาวแสงดาว ไชยชนะ อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุบลราชธานี ถูกอัดร่างคาซากรถจักรยานยนต์ นายอธิวัฒน์ คำประวัติ อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี คนขับ และนายภทรพล แดงสด อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี คนซ้อน นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถจักรยานยนต์
สอบถามนายอำคา กล่าวว่า กำลังจะนำไก่ไปส่งที่โรงงานในเขตอำเภอวารินชำราบ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถชิดขอบทางแล้วลงไปซื้อกับข้าว ระหว่างนั้นได้ยินเสียงดังคล้ายรถชน เมื่อหันหลังกลับไปดูก็พบว่ารถจักรยานยนต์ของ น้องทั้ง 3 พุ่งชนท้ายรถจนเสียชีวิตดังกล่าว
ด้านนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนของผู้ตายให้การว่ากลุ่มของผู้ตายและตนเองได้ออกทริปไปนอนผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ และกลับลงมาเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ระหว่างทางรถของตนยางรั่วจึงได้จอดซ่อมรถก่อนถึงจุดเกิดเหตุ แต่ทั้ง 3 คนรีบจึงได้เดินทางกลับก่อน มาพบอีกครั้งก็พบว่าทั้งหมดประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ชี้แจงข้อกฎหมายให้กับนายอำคา ทราบว่าการจอดรถในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนคนขับรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่จะได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและทรัพย์สินได้รับความเสียหาย แต่เนื่องจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้เสียชีวิตแล้วคดีก็จะสิ้นสุดเหลือแต่ส่วนของนายอำคา ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง.
