ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ควบเก๋งจะไปรับลูกที่นาเกลือ เสยท้ายรถบรรทุกพ่วงจอดริม เสียชีวิตคาที่ พี่สาวเผยเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งแล้ว
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เวลา 18.10 น. ร.ต.ท.ราชวรรณ ขวัญศรี รอง สว.(สอบสวน)สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถรถบรรทุกเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บนถนนสายบ้านทุ่ง จะไปบ้านกล้วย ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้วรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงอุดรธานี จุดบริการอำเภอบ้านดุง บ้านดุงอัพเดทและหน่วยกู้ภัยวีอาร์บ้านดุง ออกเหตุช่วยเหลือในเบื้องต้นพร้อมออกตรวจทันที
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ขน 6534 ขอนแก่น สภาพด้านหน้ายุบไปทั้งแถบ ห้องเครื่องพังจนควันขึ้นโขมง และยังพบศพเป็นหญิงอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพมีแผลบริเวณเข่า ขาขวาหัก หน้าอกยุบ เสียชีวิต น่าจะเกิดจากถูกกระแทกอย่างแรง เป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าวทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.ธัญญาลักษณ์ สีแสด หรือ “ครูลักษณ์” อายุ 42 ปี อยู่ ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี และเป็น ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.บ้านชัย
ห่างจากรถเก๋งไปประมาณ 10 เมตร พบรถเทรลเลอร์บรรทุกเกลือเต็มคันรถ หมายเลขทะเบียนลูกพ่วง 70-0792 ยโสธร จอดฝั่งถนนด้านซ้าย คนขับยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ไม่ได้หนีไปไหน ขณะที่ญาติๆ ของผู้เสียชีวิตหลังมาเจอร่างไร้วิญญาณของครูลักษณ์ต่างพากันร้องไห้ระงม โดยเฉพาะลูกสาววัย 17 และลูกชายวัย 14 ปีพากันร้องไห้แทบขาดใจ พร้อมบอกแม่ที่เสียชีวิตว่า “แล้วพวกหนูจะอยู่กับใคร” เป็นภาพที่สะเทือนใจกับผู้มาดูเหตุการณ์อย่างมาก
พี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ครูลักษณ์ผู้เป็นน้องสาว เลิกกับสามีอยู่กับลูกชายและลูกสาวรวม 3 คนและเพิ่งย้ายมาเป็น ผอ.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ไม่นาน เป็นคนใจดี ใครๆ ก็รักทั่วทั้งตำบล โดยเฉพาะเด็กๆ ศูนย์เด็กเล็ก ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายขับรถเก๋งจะมารับลูกชายที่มารับจ้างกวาดขี้เลนนาเกลือเพื่อจะรับไปทานข้าวด้วย แต่ยังไม่ถึงนาเกลือ รถเก๋งของผู้ตายก็ชนท้ายรถบรรทุกที่จอดอยู่ริมถนนอย่างแรงทำให้เสียชีวิตทันที ตนบอกน้องสาวตลอด เพราะตั้งแต่มีรถเก๋งคันนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยมาก อยากผู้ตายขายทิ้งไปเพราะเชื่อว่าไม่ถูกโฉลกแต่ไม่ยอมขายเสียที สุดท้ายต้องมาจบชีวิตในวันนี้
ด้าน ตร.สอบสวนคนขับรถบรรทุกเทรนเลอร์ ได้ความว่า ขณะที่คนขับกำลังช่วยกันคลุมผ้าใบเกลืออยู่ด้านบนเพื่อเตรียมไปส่งลูกค้าต่างจังหวัดฯ ก็ได้ยินเสียงดังโครมท้ายรถ มองไปดูท้ายรถก็พบรถเก๋งชนเข้าท้ายรถเทรนเลอร์อย่างจัง เห็นมีควันออกบริเวณห้องเครื่อง ก็รีบกระโดดลงมาช่วยคนขับจนดึงร่างออกมาได้ พร้อมยืนยันว่าตนเปิดไฟหรี่และไฟขอทางเอาไว้แล้ว แต่เนื่องจากถนนมืด คนขับอาจจะมองไม่เห็น
ทั้งนี้ตร.สันนิษฐานว่า ผู้ตายขับรถมาตามถนนแต่เนื่องจากถนนไม่มีไฟส่องสว่าง ประกอบกับรถบรรทุกคนงานกำลังคลุมผ้าใบที่บรรทุกเกลือจะไปส่งลูกค้า ปลายผ้าใบอาจจะปิดไฟขอทางด้านท้ายทำให้คนขับรถเก๋งมองไม่เห็นจนเกิดอุบัติเหตุสลดดังกล่าว หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ ตร.จะได้ดำเนินคดีกับรถบรรทุกในข้อหาจอดรถประมาททำให้มีผู้เสียชีวิต ส่วนศพผู้เสียชีวิตญาติได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลตามไปประเพณีต่อไป