“หมอปลา” บุกพบ “พระพยอม” กรณีพระกาโตะมีพระผู้ใหญ่หนุนหลัง ยันน้องตองป่วยจริง ผิดหวังสังคมรุมด่าผู้เสียหาย

นนทบุรี หมอปลาบุกพบพระพยอมคดีพระกาโตะมีพระผู้ใหญ่หนุนหลัง ยันน้องตองป่วยจริง ผิดหวังสังคมรุมถล่มผู้เสียหายเสียเองทั้งที่ยอมออกมาเปิดเผยความจริง พระพยอมชี้เหมือนตาลยอดด้วน

เมื่อวันที่ 2 พ.ค.65 เมื่อเวลา 09.30 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เดินทางไปยังวัดสวนแก้ว เข้าพบพระพยอม กัลยาโณ เพื่อขอคำชี้แนะในคดีพระกาโตะที่ตกเป็นข่าวว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาในรถ ก่อนที่ต่อมาพระกาโตะตัดสินใจลาสิกขาออกไป

ทั้งนี้ พระพยอม กล่าวว่า พฤติกรรมพระแบบนี้เปรียบเสมือนตาลยอดด้วน ไม่มีโอกาสได้แทงยอดออกใบอีกต่อไปเหมือนกับพระรูปนี้ ดังนั้นแม้ว่าจะตัดสินใจลาสึกออกไปแล้ว การสอบสวนก็ยังต้องดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงินว่ามีการใช้เงินของวัดไปโอนให้กับใครบ้าง โอนเพื่ออะไร โอนไปทำไม อาตมาเชื่อว่าการที่อดีตพระกาโตะตัดสินใจสึกกะทันหันโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความจริงตามข้อครหา เป็นเพราะถูกกดดันหรือไม่ก็มีคนแนะนำให้สึกเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน 

พระพยอม กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเรื่องที่สีกาบอกว่ามีพระผู้ใหญ่สอนให้พูดว่าเรืองที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเขาป่วยเป็นโรคทางประสาทนั้น ถ้ามีพระผู้ใหญ่ไปแนะนำให้พูดจาบิดเบือนแบบนั้นจริง สอนให้คนโกหก อันนี้แสดงว่าตัวเองต้องมีความผิดด้วยและแอบปกปิดอะไรเอาไว้ แค่การพูดโกหกก็ผิดศีลใน 5 ข้อแล้ว การสอนให้คนโกหกไม่มีอยู่ในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเลย นอกจากพวกเนื้องอกหรือสาวกเทียมเท่านั้น สถานการณ์ในตอนนี้จึงกลายเป็นว่าพระย้อยที่ไปฉายเดี่ยวในเรื่องนี้ สุ่มเสี่ยงทำผิดวินัยสงฆ์ไปเสียเอง คือ เป็นพระแล้วไปกล่าวหาพระด้วยกันเอง มีความผิดต้องสังฆาทิเสสแต่ไม่ถึงขั้นปาราชิก ต้องไปอยู่กรรมชดใช้

ทางด้านนายจีรพันธ์ หรือ หมอปลา กล่าวว่า เรื่องคดีน้องสีกากับพระกาโตะนั้น ตนและทีมงานได้รับข้อมูลมาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. แล้ว น้องผู้หญิงเป็นคนนำหลักฐานส่งคลิปเสียงมาให้กับตนตั้งแต่ในวันนั้น และยืนยันว่าตัวน้องไปมีสัมพันธ์กับพระรูปนี้ในรถจริง แต่เนื่องจากหลักฐานในตอนนั้นตนเห็นว่ายังไม่แน่นหนาเพียงพอ จึงมีการนัดพบกันอีกครั้งที่บ้านของตนในจังหวัดเพชรบุรีเมื่อวันที่ 16 เม.ย. แต่เนื่องจากน้องเป็นคนใจร้อน จึงนำเรื่องคลิปเสียงนี้ไปเปิดเผยกับพระย้อยก่อนจนกลายเป็นข่าวขึ้นมา 

หมอปลา กล่าวอีกด้วยว่า สาเหตุที่ตนยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ก่อนพระย้อยนั้น เป็นเพราะตนทำงานกันเป็นทีมและเห็นว่าพยานหลักฐานที่น้องให้มาเป็นคลิปเสียงยังไม่เพียงพอที่จะผูกมัดพระรูปนี้เอาไว้ได้ เนื่องจากพระรูปนี้มีพระผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่อีกทีหนึ่ง สังเกตได้ว่าวันที่เกิดเรื่องเป็นข่าว พระรูปนี้ยังเดินทางมาหาพระผู้ใหญ่ที่กรุงเทพฯ อยู่เลย ยังมีการถ่ายภาพกับพระผู้ใหญ่ไปลงโพสต์ในเฟซบุ๊กอีกด้วย ตนจึงต้องการรอให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนมัดตัวได้แน่นหนา เพราะจากประสบการณ์จากตัวอย่างที่บุกจับพระนอกรีตเหล่านี้มาหลายเคส ขนาดเห็นกับตาว่าอยู่ในห้องนอนสองต่อสองกับสีกา มือกำลังล้วงอยู่เลย ยังปฎิเสธไม่ยอมรับ มีพระรูปไหนที่ออกมายอมรับบ้าง มีแต่ปฏิเสธกันหมด 

นอกจากนี้ หมอปลา ยังระบุว่า ที่ตนแปลกใจและสงสัยสังคมในตอนนี้คือ ทำไมคนที่กล้าออกมาเปิดเผยความจริงอย่างน้องผู้หญิงในเรื่องนี้ กลับเป็นฝ่ายโดนด่า มีทัวร์ไปลง คนทำผิดกลับมีคนไปให้กำลังใจช่วยเชียร์ ตนอยากให้สังคมไปเข้าใจน้องใหม่ด้วยว่า การที่น้องยอมออกมาพูดความจริง มาเปิดเผยความจริง ยอมเอาตัวเองเข้าแลก ตกเป็นตราบาปไปทั้งชีวิตเพื่อไม่ต้องการให้พระรูปนี้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก กลับถูกด่าถูกต่อว่าแบบนี้ ต่อไปใครจะกล้าออกมาเปิดเผยความจริงอีก น้องเขายอมแลกเพื่อให้ตัวเขาเองเป็นเคสสุดท้าย และน้องเขาก็ไม่รู้หรอกว่าการไปหาที่พึ่งทางใจ ไปหาพระนักเทศน์ให้กำลังใจชื่อดัง จะต้องไปเสียตัวไปเป็นเมียพระแบบนี้ ไปเข้าทางพระพวกนี้ที่พยายามจ้องหาคนที่ป่วยทางจิตใจมาเป็นที่ระบายอารมณ์ทางเพศ ซึ่งตนบอกได้เลยว่ายังไม่ใช่มีแค่กาโตะเท่านั้น ยังมีอีกในวงการนี้ที่สังคมยังไม่รู้ ยังคงยกมือกราบไหว้อยู่ ตนกำลังเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อแฉพฤติกรรมพระนอกรีตเหล่านี้ต่อไป