อ.เฉลิมชัย ยังเคืองปมย้ายผู้ว่าฯ ย้ำไม่ช่วยจัดเบียนนาเล่เชียงราย ลั่นไม่เคยพึ่งรัฐบาล เงิน 35 ล้าน ยังหาเองได้
จากกรณี จ.เชียงราย มีกำหนดเป็นเจ้าภาพในการจัดงานศิลปะนานาชาติหรือ Thailand Biennale Chiangrai 2023 ในเดือน พ.ย.2566 และทาง อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ได้ทุ่มเงินส่วนตัว สร้างหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย เพื่อรองรับการจัดงานในพื้นที่หมู่บ้านสันตาลเหลือง หมู่ 1 ต.ริมกก อ.เมืองเชียงราย ใกล้ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ซึ่งมีผู้บริจาคที่ดินให้ประมาณ 17 ไร่นั้น
ล่าสุดหลังจากทางกระทรวงมหาดไทยมีโผโยกย้ายนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ไปเป็นผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ และให้นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ ไปเป็นผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย จนทำให้อาจารย์เฉลิมเคยออกมาแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับการโยกย้าย เพราะเห็นว่านายภาสกรเข้าใจงานศิลปะและร่วมกันเตรียมการเพื่อรองรับงานศิลปะนานาชาติดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้อาจารย์เฉลิมชัย ยังได้กล่าวย้ำถึงจุดยืนดังกล่าวภาในงาน Local Economic Forum Chiang Rai 2022 สร้างความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจฐานราก เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ โรงแรมแกรนด์วิสต้า อ.เมืองเชียงราย อีกว่า การพัฒนาผลงานทางศิลปะไม่จำเป็นต้องเป็นงาน Biennale เพราะตนสามารถพัฒนาเชียงรายด้านอื่นได้โดยไม่ต้องใช้คำว่า Biennale ของทางรัฐบาลและไม่ต้องใช้งบประมาณของทางราชการด้วย ที่ผ่านมาตนทำงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่มาโดยที่ไม่ต้องพึ่งพารัฐบาล และล่าสุดตนได้สร้างหอศิลปะนานาชาติด้วยตัวเองโดยเงินส่วนตัวโดยไม่ต้องขอเงินใครจำนวน 35 ล้านบาท เพื่อรองรับงาน Biennale ด้วยความเต็มใจและเพื่อให้เกิดประโยชน์กับ จ.เชียงราย ของตน เป็นงานสุดท้ายก่อนที่ตนจะตาย
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวว่า ดังนั้นตนก็จะยังสร้างหอศิลป์นานาชาติให้ทันกับการจัดงาน Thailand Biennale Chiangrai 2023 เพื่อให้การจัดงานใช้สถานที่ของหอศิลป์นี้ได้ แต่ตนจะไม่เข้าไปเป็นแกนหลักและผู้จัดงาน ทางราชการจะต้องจัดงานกันเอง ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรนั้นจะทำให้ทางราชการรู้ว่าเกิดจากการที่ไม่ร่วมมือกับตน ด้วยการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันออกไป แม้ว่าการโยกย้ายจะเป็นเพราะเกมทางการเมืองหรือเพราะสิ่งใดตนไม่ทราบ แต่เมื่อทางราชการไม่ยอมรับในสิ่งที่ตนคิดและทำตนก็ไม่ควรจะร่วมมือด้วย
เชียงรายสามารถทำอย่างอื่นได้หลัง Biennale ถ้า Biennale ล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จเหมือนโคราชเหมือนกระบี่ ไม่โด่งดัง ไม่มีเงินเข้ามา ปกติมันก็เหมือนเดิม มันก็ต้องเหมือนเดิม แต่ถ้าผมทำวิธีคิดผมแตกต่างและผมทุ่มทุกอย่างเพื่อเชียงรายของผม เหมือนเชียงรายเกมส์ที่สามารถทำเชียงรายเกมส์ให้ดังได้ ให้เชียงรายมีหน้ามีตาได้ ขนาดฝนตก บ้าบอคอแตกก็ยังดัง
อาจารย์เฉลิมชัย กล่าวและว่านั่นคือสิ่งที่เราทำให้เชียงรายของเรามีศักยภาพด้วยการนำศิลปะมารับใช้จังหวัด ศิลปะนำพาไปสู่ความตื่นเต้นของคนทั้งประเทศ ซึ่งศิลปะใน Biennale ก็เช่นกันถ้าตนได้ทำจะยิ่งใหญ่มากแต่ว่าสุดท้ายตนไม่ทำ ยังไงตนก็ไม่ทำ ตนบอกส่วนท้องถิ่นแล้วว่าให้ทำเลยตนไม่ทำอย่างแน่นอน แม้ผู้ว่าราชการจังหวัดคนใหม่จะมาหาตน ตนก็ไม่ทำ เพียงแต่สามารถให้พื้นที่ไปจัดงานเท่านั้นโดยที่ตนจะไม่เป็นผู้จัดการในการจัดงาน Biennale แน่นอน ไม่เหมือนการจัดการแข่งขันกีฬาเชียงรายเกมส์ซึ่งตนเป็นผู้จัดการในงานด้วยตัวเองซึ่งตนทุ่มเทเงินทองและทุกอย่างเพื่อให้การจัดงานดูดีรวมทั้งทำให้หน้าตาของจังหวัดดูดี