ถึงคิวเยือนถิ่นอีสาน ขอเชียร์ให้ไป “เที่ยวหนองคาย” เมืองที่อบอวลไปด้วยความสโลวไลฟ์ริมฝั่งโขง และยังงดงามด้วยวัฒนธรรมและประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ แหล่งท่องเที่ยวและคาเฟ่หลายแห่งได้พลังความชิลล์จากเสน่ห์ของ “แม่น้ำโขง” และอีกหลายจุดเช็กอิน ยังเต็มไปเสน่ห์ที่น่าค้นหาจากธรรมชาติ ไปจนถึงวัดวาอารามที่ควรแวะไปสักการะบูชา
ไปใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนที่ “หนองคาย” ด้วยกัน ปี 2022 หนองคายมีที่ไหนน่าไปเที่ยวบ้างตามเรามาเลย
Sky Walk วัดผาตากเสื้อ
เดิมที วัดผาตากเสื้อ เป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่ปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ และบำเพ็ญเพียรของพระสงฆ์ที่มีทัศนียภาพสวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย แต่ปัจจุบันนอกจากจะดึงดูดคนที่ต้องการค้นหาความสงบ ยังกวักมือเรียกคนที่ต้องการค้นพบความงามจากธรรมชาติอีกด้วย เพราะบริเวณริมหน้าผาของวัดผาตากเสื้อเป็นที่ตั้งของ Skywalk จุดชมวิวแม่น้ำโขงที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในไทย เนื่องจากเป็นจุดที่แม่น้ำจากประเทศลาวไหลมาบรรจบกับแม่น้ำโขง แบ่งเส้นเขตแดนระหว่างสองประเทศพอดี
ไม่ว่าจะมาเยือนฤดูไหนหรือโมงยามไหนก็สวยต่างกัน โดยเฉพาะฤดูหนาวหรือช่วงปลายปี อาจได้เห็นทะเลหมอกปกคลุมสุดสายตา และด้วยความที่ Skywalk เป็นทางเดินกระจกใสรูปเกือกม้าที่ยื่นออกไปจากหน้าผา 6 เมตร จึงเหมือนเรากำลังลอยอยู่บนทะเลหมอกเลยล่ะ ใกล้ ๆ กัน ยังมีอีกหนึ่งจุดชมวิวซึ่งเป็นชะง่อนผายื่นออก มุมนี้ก็สามารถเก็บภาพมุมสูงได้สวยไม่แพ้กัน มาสัมผัสความงามด้วยตาตัวเองได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และมาเที่ยวได้อย่างอุ่นใจ เพราะที่นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน SHA Plus
วังบัวแดง
จุดชมวิว ‘วังบัวแดง’ อลังการความงามของบัวสายสีแดงอมชมพูที่มองไปก็เห็นชูช่อสุดลูกหูลูกตา บนหนองน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เกือบ 2,600 พันไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล ของอำเภอเมืองหนองคาย ได้แก่ ตำบลปะโค ตำบลเวียงคุก และตำบลพระธาตุบังพวน กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนที่ชอบมาชมธรรมชาติและถ่ายภาพความงาม
ปกติแล้วบัวสายสีแดงจะเบ่งบานแน่นขนัดหนองน้ำช่วงปลายปีจนถึงเดือนมีนาคม โดยเฉพาะช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. จะได้เห็นนกนานาชนิดที่และปลาน้อยใหญ่ที่อาศัยในหนองน้ำ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือรับจ้างของชาวบ้านล่องชมความงามแบบเป็นส่วนตัว ค่าบริการคนละ 50 บาท และกลางหนองน้ำมีโป๊ะให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปถ่ายรูปชมวิวสวยงามได้ แม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแต่ก็มีมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยที่คุมเข้ม นักท่องเที่ยวต้องแสดงหลักฐานได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม และตลอดใส่เสื้อชูชีพตลอดการล่องเรือ
ลานพญานาคริมโขง
ลานพญานาคริมโขง หรือลานวัฒนธรรมหน้าวัดลำดวน แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดหนองคาย เป็นที่ตั้งของประติมากรรมพญานาคสีทองขนาดมหึมา ความสูง 15 เมตร ความยาวลำตัว 45 เมตร กำลังพ่นน้ำอย่างสง่างามอยู่ริมฝั่งโขง สะท้อนความเชื่อต่อพญานาค และความผูกพันกับแม่น้ำโขงของชาวหนองคายที่มีมาอย่างยาวนาน
นอกจากนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาชมประติมากรรมคู่เมืองหนองคายและชมวิวฝั่งลาวแล้ว ลานพญานาคยังเปรียบเสมือนแหล่งรวมตัวของชาวหนองคาย คุณจะได้พบเห็นวิถีชีวิตของผู้คนริมโขง ตลอดทั้งวันจะเห็นชาวเมืองหนองคายมาออกกำลังกาย เดินเล่น และบางจุดยังจัดไว้ให้ร้านค้าแผงลอยจำหน่ายอาหาร หากมาช่วงเทศกาลอาจได้เห็นกิจกรรม ประเพณีพื้นถิ่นของชาวหนองคาย อาทิ งานวันออกพรรษา ที่จัดแสดงแสง สี เสียง และยังเป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคอีกด้วย
ศาลาแก้วกู่
ศาลาแก้วกู่ หรือ อุทยานเทวาลัย หรือที่ชาวหนองคายเรียกว่า “วัดแขก” เป็นศาสนสถานที่มีประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งขนาดยักษ์จำนวนมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 200 องค์ สร้างตามนิมิตของปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ใครที่เคยไปเยือนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนกำลังเดินอยู่ในภาพจำลองนรกสวรรค์
บนพื้นที่ 42 ไร่ เต็มไปด้วยรูปปั้นก่ออิฐถือปูนมากมายทรงสูงตระหง่านใหญ่โต ถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาและความเชื่อของ ปู่เหลือว่า ทุกศาสนาผสมผสานกันได้ โดยต้องการให้ที่นี่เป็นสถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง โดยเทวาลัยต่าง ๆ จะมีเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมถึงเรื่องราวต่าง ๆ ตามตำนานความเชื่อในพราหมณ์ ฮินดู และ คริสต์ สังเกตให้ดีบริเวณฐานของเทวาลัยเหล่านี้จะมีคำอธิบายเป็นภาษาไทยอีสานและภาษาไทยภาคกลาง บอกเล่าถึงเรื่องราวซึ่งเกี่ยวข้องกับชิ้นงานนั้น ๆ ภายในวัดแขก และยังมีอาคารสำนักพุทธศาสนาแก้วกู่ ซึ่งเป็นอาคารสูงสามชั้นโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมเลียนแบบมัสยิด โดยชั้นบนสุดจะมีร่างที่ไม่เน่าเปื่อยของ ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ บรรจุอยู่
น้ำตกธารทอง
น้ำตกสุดฮิตของจังหวัดหนองคาย ตั้งอยู่ในสวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง ตัวน้ำตกขนาดไม่สูงชันมากนัก มีลักษณะเป็นธารหินต่างระดับชั้น เหมาะกับการมานั่งเล่นพักผ่อนช่วงหน้าฝนไปจนถึงต้นหนาว เวลาที่สวยที่สุดในการมาเที่ยวชมน้ำตกคือระหว่างเดือนมิถุนายน-เดือนพฤศจิกายน
น้ำที่ไหลผ่านระดับชั้นของน้ำตกธารทอง เป็นน้ำที่เกิดจากลำห้วยไซงัว ไหลผ่านลำธารและลานหินที่ค่อย ๆ ลดระดับลงมาจนกลายเป็นชั้นน้ำตก รวมระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ส่วนชั้นสุดท้ายก่อนสายน้ำจะไหลลงสู่ลำน้ำโขง มีระยะทางประมาณ 30 เมตร นอกจากน้ำตกธารทอง ภายในสวนรุกขชาติน้ำตกธารทอง ยังเต็มไปด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าดิบแล้งและป่าเบญจพรรณ มีพรรณไม้เด่น เช่น กระบก ตะแบก มะพอก ประดู่ป่า และดงไผ่ขึ้นตามจุดต่าง ๆ สามารถเล่นน้ำ พักผ่อนบริเวณน้ำตกและเดินชมความเขียวขจีของผืนป่าตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. นักเดินทางอุ่นใจได้เลยว่าจะทำกิจกรรมที่นี่ได้อย่างสบายใจ เพราะน้ำตกธารทอง เป็นอีกหนึ่งในหลายสถานที่ท่องเที่ยวของหนองคายที่ได้มาตรฐาน SHA Plus
The For Rest Coffee
ไม่ต้องเดินเข้าป่าแค่มาที่ ‘The For Rest Cafe’ คุณจะได้พบกับคาเฟ่ใจกลางหนองคายที่แปลงกายคล้ายกับหลงเข้าไปในป่าฝนเขียวชะอุ่มด้วยพุ่มไม้ พรรณไม้ และต้นไม้นานาพันธุ์ เป็นการออกแบบพื้นที่ของต้นไม้ น้ำตก และลำธารได้อย่างลงตัวทุกมุม
สายโพสต์เพลินแน่ เพราะไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนก็แชะภาพกันได้รัว ๆ แถมยังได้เติมโอโซนไปในตัว หลายมุมบรรยากาศเงียบสงบและค่อนข้างเป็นส่วนตัวมาก ๆ แม้แต่โซนอินดอร์ก็ยังเชื่อมต่อกับธรรมชาติได้ผ่านกระจกบานใหญ่ เลือกนั่งมุมไหนก็เพลิน ทางร้านอนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงมาได้ด้วยนะ ส่วนเรื่องความสะอาดก็มั่นใจได้เขาเพิ่งได้ SHA Plus+ มาหมาด ๆ สำหรับเครื่องดื่มและอาหารว่างบอกเลยดีงามไม่แพ้บรรยากาศ กาแฟคั่วเข้ม อยากให้ลอง Black Orange เพราะเขาใช้น้ำส้มออร์แกนิคคั้นสดกับกาแฟคั่วกลางค่อนเข้มลงตัวสุด ๆ หรือเครื่องดื่มผลไม้เย็น ๆ เข้าคู่กับเค้กที่เปลี่ยนรสชาติมาไม่ซ้ำ หรือทาร์ตรสละมุน อย่าง Raspberry Tart และ Lemon Tart ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. โทร. 081-661-9988
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/theforrestcoffee
Khong Cafe & Bistro Nongkhai
คาเฟ่ริมโขงที่ชาวหนองคายและนักเดินทางโหวตให้เป็นคาเฟ่ต้องแวะ เพราะตอบโจทย์ Foodie ทุกสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นคอกาแฟ ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างดีและมีเครื่องชงกาแฟตัวท็อป ดีไซน์เมนูกาแฟหลากหลาย ชอบแบบดั้งเดิมก็มีอย่าง ซันไรส์ไนโตร หรือ เมนูกาแฟที่ไปจอยกับส่วนผสมต่าง ๆ อาทิ สปาร์คกลิ้ง พีช เมนูพีชบวกกับโซดาและช็อตกาแฟ หรือ Lychee Coffee จะเลือกเป็นเมนูเรียกความสดชื่นก็ได้ อย่าง กีวี่ โซดา และ Sweet rose นั่งชิลล์ตรงทุ่งถั่วบราซิลคิ้วท์ ๆ ของทางร้าน สั่งเบเกอรี่และเค้กอร่อย ๆ ไว้กินเพลิน ๆ ด้วย
ส่วนสายชิม ทางร้านมีเมนูอาหารไทยและอาหารนานาชาติพร้อมมุมสุดพิเศษเอาท์ดอร์ ระเบียงที่ทอดตัวเคียงริมโขง นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินหรือจะสังสรรค์ในห้อง VIP พร้อมลิ้มรสเมนูอร่อย ๆ อาทิ พิซซ่าแซลมอน สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ยำรสเด็ด และบรรดาเมนูปลาคังน้ำโขง อย่าง ปลาคังน้ำโขงลวกจิ้ม ต้มส้มปลาคังน้ำโขง และ ลาบปลาคังน้ำโขง สามารถเลือกนั่งได้ 2 โซน โดยจะเปิดต่างเวลากัน ได้แก่ โซนคาเฟ่ เวลา 10.00 – 17.00 น. และโซนร้านอาหาร เปิด เวลา 17.30 – 23.00 น. โทรเช็กอีกทีก่อนเดินทางไปหรือจองมุมสุดพิเศษที่ โทร. 098 402 2971
ขอบคุณภาพประกอบจาก https://www.facebook.com/KhongLifestyleCafe/photos/?ref=page_internal