อาลัย ด.ต.ไสว หักพาล บิดา “บิ๊กโจ๊ก” ถึงแก่กรรมจากอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว กำหนดพิธีรดน้ำศพ-สวดอภิธรรม วัดพระศรีฯ พระราชทานเพลิง วันที่ 12 มี.ค
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. พล.ต.ตวัชรินทร์ ประสพดี ลก.ตร. มีบันทึกข้อความ แจ้งกำหนดการบำเพ็ญกุศล และพระราชทานเพลิงศพ ด.ต.ไสว หักพาล บิดาของ พล.ต.อ.สุรเซษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส) เรียนถึง ผบ.ตร., รอง ผบ.ตร., จตช., ผู้ช่วย ผบ.ตร., รอง จตช., ผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. ใจความว่า ด้วย ด.ต.ไสว หักพาล บิดาของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(สส) ได้ถึงแก่กรรม
เจ้าภาพแจ้งกำหนดการบำเพ็ญกุศล และพระราชทานเพลิงศพ ณ ศาลา VIP วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ โดยมีกำหนดการ ดังนี้ วันอังคารที่ 7 มี.ค. เวลา 15.00 น. รดน้ำศพ, เวลา 17.30 น. สวดพระอภิธรรม วันพุธที่ 8 มี.ค.-วันเสาร์ที่ 11 มี.ค. เวลา 18.00 น. สวดพระอภิธรรม และวันอาทิตย์ที่ 12 มี.ค. เวลา 10.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา, เวลา 10.30 น. พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์, เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล มาติกา-บังสุกุล และเวลา 17.00 น. พระราชทานเพลิงศพ เมรุ 2
สำหรับประวัติ ด.ต.ไสว หักพาล อดีตผู้บังคับหมู่งานพลาธิการ ตำรวจภูธรภาค 9 สมรสกับ นางสุมิตรา หักพาล อดีตข้าราชการครูสอนอยู่ที่โรงเรียนกลับเพชรศึกษา จ.สงขลา มีบุตร 2 คน ประกอบไปด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และนายเจษฎา หักพาล โดย ด.ต.ไสว ได้ถึงแก่กรรมจากอาการป่วยด้วยโรคประจำตัว ขณะพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนเมื่อเช้านี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศล และพระราชทานเพลิงศพ มีขึ้นที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน ซึ่งสาเหตุที่ทางครอบครัวได้จัดงานเป็นวันที่ 7 มี.ค. 66 เนื่องจากปลายสัปดาห์นี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล มีภารกิจต่างประเทศ ในการเดินทางไปสหรัฐอเมริกา โดยไปพร้อมคณะแก้ปัญหาค้ามนุษย์ของไทย เพื่อรายงานประจำปี สถานการณ์การค้ามนุษย์ หรือทริปรีพอร์ต ถอดประเทศไทยออกจากบัญชี เทียร์ 2 ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่สามารถเลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงการเดินทางได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครั้งหนึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เคยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊ก ถึง “เรื่องเล่าของพ่อผม” ว่าพ่อของผม “ดาบตำรวจไสว หักพาล” ข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่เป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตของผม ตั้งแต่เล็กจนโตครอบครัวเราเป็นชาวบ้านฐานะธรรมดา ๆ ทั่วไป ใช้ชีวิตง่าย ๆ ในอำเภอเล็ก ๆ ของ จ.สงขลา แต่ความไม่ธรรมดาของพ่อผม ก็คือ “คำสั่งสอน การปลูกฝัง ให้ผมเติบโตขึ้นมาทำประโยชน์เพื่อสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม”
พ่อตั้งความหวังให้ผมสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเพื่อเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตร ผมเดินตามเส้นทางที่พ่อแนะนำเพราะอยากให้พ่อภาคภูมิใจ ผมอ่านหนังสือสอบเอง และมีพ่อติวเสริมให้ จนสอบติดเตรียมทหาร โดยไม่ต้องเสียเงินเข้าโรงเรียนกวดวิชา
ภูมิใจที่สุดคือการเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารได้ตามความฝันของพ่อ จำได้ว่าวันแรกขึ้นมารายงานตัวเข้าเรียน เราสองพ่อลูกอาศัยเช่าโรงแรมเล็ก ๆ มีพัดลมเพดาน ราคาคืนละไม่กี่ร้อยบาทพักนอน พ่อมีรถเก๋งคันเก่า ๆ ขับตระเวนพาผมไปทำธุระเรื่องเรียน
ด้วยความที่บ้านเราไม่ได้มีฐานะ พ่อจึงต้องประหยัดเงิน อดออมเพื่อเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาของผม และส่งเสริมให้ผมเล่นกีฬามาตั้งแต่เล็ก เพราะพ่อเชื่อว่า “กีฬา” ทำให้เรารู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เมื่อแพ้ต้องยอมรับความจริง กลับไปซ้อมให้หนักแล้วมาสู้ใหม่อยู่ในกติกา
ครั้งหนึ่งพ่อผมเคยป่วยหนักถึงขั้นหยุดหายใจ ผมร้องวอนขอให้หมอช่วยปั๊มหัวใจพ่อขึ้นมา ผมรู้ตัวว่าผมไม่สามารถยอมรับความสูญเสียครั้งนั้นได้
ที่ผ่านมาชีวิตข้าราชการของผมไม่ได้ราบรื่นสวยหรูเหมือนที่ใคร ๆ เห็น มีอุปสรรคปัญหาอีกมากที่ผมต้องยืนหยัดพิสูจน์ตัวเองโดยมีพ่อคอยให้กำลังใจเคียงข้าง และย้ำเสมอให้ผมเป็นคนกตัญญูรู้คุณคน ทำทุกอย่างเต็มที่ตั้งใจจริงใจ แล้วจะสามารถผ่านบททดสอบต่าง ๆ ไปได้ ทุกวันนี้ผมยังคงเชื่อคำสั่งสอนของพ่ออย่างสม่ำเสมอ