อีสานอ่วมน้ำท่วมขัง น้ำมูลไหลทะลักตลิ่งท่วม 25 ชุมชนริมน้ำใน จ.อุบลราชธานี ส่วนน้ำชีไหลเข้า อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ชาวบ้านเริ่มอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ภาคใต้น้ำทะเลหนุนสูงในรอบ 50 ปี เจ้าของฟาร์มไก่อ่วม ไก่จมน้ำตายกว่า 5,000 ตัว ที่ถนนเจริญกรุง ย่านบางรัก ชาวบ้านงงฝนไม่ตก แต่น้ำท่วมถนนถึงฟุตปาท ขณะที่บนยอดดอยเริ่มหนาวเย็น นักท่องเที่ยวเริ่มออกทริปแบบนิวนอร์มอล
สถานการณ์แม่น้ำมูลไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน โดยเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำมูลปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนทางเข้าบ้านทัพไทยและหาดคูเดื่อ อ.เมืองอุบลราชธานีแพขายอาหารริมแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบ เพราะไม่มีที่จอดรถต้องปิดให้บริการ นอกจากนี้ น้ำยังไหลท่วมบ้านเรือน นาข้าว และพืชสวนของชาวบ้านที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำจมน้ำเสียหายนับร้อยไร่ เป็นน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำชีและแม่น้ำมูลมาบรรจบกันที่ จ.อุบลราชธานี สำหรับระดับน้ำของแม่น้ำมูลวัดได้สูง 7.70 เมตร ล้นตลิ่ง 70 ซม. ไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูล 25 ชุมชน มีชาวบ้านหนีน้ำไปอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพร่วม 1,300 คน
ส่วนมวลน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่บ้านดินแดง ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด น้ำท่วมทะลักเข้าจากจุดที่พนังแม่น้ำชีขาดก่อนหน้านี้ ทำให้มวลน้ำทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 50 หลังคาเรือน อาสาสมัครกู้ภัยเมตตาธรรมนำเรือท้องแบนเข้าช่วยเหลือผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง เร่งยกของขึ้นที่สูง คาดว่ามวลน้ำจะเพิ่มระดับสูงขึ้นอีก พบว่ามีประชาชนบางส่วนเริ่มอพยพเข้าไปพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวกว่า 20 หลังคาเรือนแล้ว
จ.พังงา เกิดน้ำทะเลหนุนหนักในรอบ 50 ปี ทะลักเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางเตย อ.เมือง นายอุดม ทรายทอง อายุ 54 ปี เจ้าของทรายทองฟาร์ม เปิดเผยว่า พักอยู่ในพื้นที่บ้านเขาเฒ่า หมู่ 3 มาตั้งแต่เกิดยังไม่เคยพบเห็นน้ำทะเลหนุนสูงจนเข้าท่วมบ้านเรือนเหมือนเช่นครั้งนี้ ระดับสูงเกือบมิดหัว ไก่ตาย 4 คอก ประมาณ 5,000 ตัว ค่าเสียหายกว่า 500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีบ่อปูดำไข่ที่ตนเลี้ยงไว้ ปูหนีจากบ่ออีกจำนวนมาก ส่วนพื้นที่หมู่ 2-3 ต.ตันหยงโป อ.เมืองสตูล น้ำทะเลหนุนเข้าท่วมบ้าน 30 หลัง
เช่นเดียวกับที่ จ.กระบี่ เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูงจนไหลเอ่อเข้าท่วมบางจุดในตัวเมืองกระบี่ โดยเฉพาะริมถนนอุตรกิจในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ และแนวชายหาดรวมถึงในพื้นที่หมู่ 1 ต.คลองประสงค์ อ.เมืองกระบี่ นาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 200 ไร่ บางจุดน้ำสูงถึงระดับหัวเข่า ทั้งที่ไม่มีพายุหรือฝนตกลงมาแต่อย่างใด สร้างความแปลกใจกับชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับเขื่อนหน้าเมืองกระบี่ เนื่องจากปรากฏการณ์น้ำทะเลขึ้นสูงแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ส่วนภาคกลางภายหลังเจ้าหน้าที่เปิดประตูน้ำโพธิพระยา จ.สุพรรณบุรี ระบายน้ำที่ท่วมขังไร่นาพืชสวนเป็นเวลานาน น้ำไหลลงสู่ประตูน้ำพระยาบันลือที่เชื่อมต่อแม่น้ำท่าจีนที่ อ.บางเลน จ.นครปฐม ล่าสุดมวลน้ำที่ถูกปล่อยลงมายังไหลท่วมอีก 2 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กำแพงแสน และ อ.ดอนตูม ระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนยังสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับน้ำทะเลหนุนขึ้นสูง น้ำในแม่น้ำท่าจีนไม่สามารถผลักดันน้ำลงสู่อ่าวไทยที่ จ.สมุทรสาคร ทำให้น้ำล้นตลิ่ง ขณะที่พระครูศรีสุตากร เจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ (หลวงพ่อสมหวัง) หมู่ 1 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นำจิตอาสาและชาวบ้านซื้อทรายมา 10 คันรถ และกระสอบทรายมาบรรจุนำไปกั้นกำแพงสูงร่วม 80 ซม. เพื่อกั้นน้ำไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและชุมชน
ขณะเดียวกันช่วงเช้าวันเดียวกัน ชาวบ้านออกมายืนงงฝนไม่ตกแต่น้ำท่วมถนนเจริญกรุง บริเวณห้างโรบินสัน บางรัก ระดับสูงถึงฟุตปาท เนื่องจากน้ำทะเลหนุนสูงทะลักเข้าท่วมพื้นที่ ส่วนถนนราษฎร์ บูรณะช่วงคลองบางปะแก้ว ไปจนถึงคลองราษฎร์บูรณะน้ำท่วมสูงเช่นกัน นอกจากนี้ที่ซอยวัดมหาวงษ์ (ซอยเทศบาลสำโรงใต้ 6) ช่วงคลองสำโรง จ.สมุทรปราการ น้ำท่วมผิวการจราจรสูงถึงฟุตปาท กระทั่งช่วงสาย ระดับลดลงจนแห้งสนิท
ส่วนภาคเหนือและอีสานอากาศเริ่มหนาวเย็น นายเกรียงไกร ไชยพิเศษ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า เหลือเวลาอีก 4 วัน ดอยอินทนนท์ทุกจุดจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมกันอย่างเต็มที่ ภายใต้การท่องเที่ยวแบบใหม่ปลอดภัยจากโควิด-19 แต่จำกัดนักท่องเที่ยวเหลือ 2,000 คนต่อวัน สำหรับบรรยากาศช่วงเช้าจะมีทะเลหมอก และแสงแรกแห่งวัน อุณหภูมิลดลงต่อเนื่องต่ำสุดวัดที่ยอดดอยอินทนนท์ 7 องศาเซลเซียส ส่วนที่กิ่วแม่ปาน 9 องศาเซลเซียส และที่ทำการอุทยานฯ 14 องศาเซลเซียส
ที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาพิชิตยอดภูกระดึงชมธรรมชาติสองข้างทาง ดูความสวยงามของทะเลหมอก สัมผัสอากาศหนาวเย็น ที่ผานกแอ่นอุณหภูมิวัดได้ 13.5 องศาเซลเซียส มีนักท่องเที่ยวพักที่ยอดภูกระดึง 1,125 คน ส่วนบรรยากาศช่วงเช้าที่ตัวเมืองเลยมีหมอกลงขาวโพลนเต็มพื้นที่ถนน ทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะเพียง 30 เมตร ชาวบ้านใช้รถสัญจรไปมาด้วยความระมัดระวัง
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือแจ้งว่า เมื่อเวลา 07.00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังอ่อนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือมีฝนน้อยในระยะนี้ ในช่วงวันที่ 7-13 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นจะมีอากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส การคาดหมายสภาวะอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้ามีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอากาศเปลี่ยนแปลง