อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก น้ำป่าซัดพ่อเฒ่าดับ 1 ศพ โคราชจ่อวิกฤติ ส่งผลกระทบหลายอำเภอ

วิกฤติน้ำท่วมส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์อ่วม ระดับน้ำสูงมิดหลังคา เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่ นายกฯ พร้อมคณะลงพื้นที่เยี่ยมชาวสุโขทัย สั่งเยียวยาช่วยชาวบ้านเต็มที่ จ.ชัยภูมิ ระดับน้ำสูง เข้าท่วม รพ.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากพื้นที่ โคราชน้ำป่าซัดพ่อเฒ่าดับ 1 ศพ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร ตอนล่างแตก ส่งผลกระทบหลายอำเภอ ส่วนพื้นที่ ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเฝ้าระวังมวลน้ำสูงขึ้น ขณะที่กรมอุตุฯ แจ้งเตือนฝนตกหนักต่อเนื่อง

จากผลพวงของฤทธิ์พายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดฝนตกหนัก ภาคเหนือ อีสาน ภาคกลางและภาคตะวันออกหลายพื้นที่เกิดน้ำท่วม ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เร่งช่วยอพยพไปพักที่ศูนย์พักชั่วคราว นอกจากนี้ กรมชล ประทานแจ้งเตือนชาวบ้านอาศัยอยู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะปล่อยน้ำเพิ่ม เตรียมยกทรัพย์สินขึ้นที่สูง

น้ำป่าซัด อ.แม่สะเรียง

วันที่ 26 ก.ย. นายพิศิฏฐ์ ปวงคำคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บ้านป่าเหว หมู่ 2 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรของราษฎรบ้านป่าเหวได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างถนนเส้นทางสายห้วยห้อม-ท่าตาฝั่งถูกน้ำเซาะขาดไปหลายจุด นอกจากนี้ น้ำป่าที่ไหลหลากยังซัดรถกระบะของชาวบ้าน 2 คัน จมน้ำกลางลำห้วยแม่กองคา ส่วนคนขับหนีออกมาจากรถได้ทัน

อาสาฯรับสาวท้องแก่ส่ง รพ.

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำจากเทือกเขาชัยภูมิที่อยู่ฝั่งตะวันออกและเทือกเขาเพชรบูรณ์ที่อยู่ฝั่งตะวันตก ไหลลงมาในเขตที่อยู่อาศัยเป็นที่ลุ่มอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทั้ง 2 แห่งนี้ อีกทั้งน้ำในแม่น้ำป่าสักจากทางด้านทิศเหนือไหลลงมาถึงพื้นที่ อ.บึงสามพันและ อ.วิเชียรบุรี ทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเข้าท่วมบ้านเรือนและเส้นทางคมนาคมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในพื้นที่ ต.พุเตย อ.วิเชียรบุรี น้ำท่วมถนนหลวงสาย 21 สระบุรี-หล่มสัก กม.ที่ 112-116 น้ำท่วมสูงจนรถทุกชนิดไม่สามารถวิ่งผ่านไปได้ รถที่จอดเสียน้ำท่วมสูงเกือบมิดหลังคา ขณะที่ชาวบ้านรวมทั้งผู้ป่วยติดเตียงไม่สามารถจะเคลื่อนย้ายออกจากบ้าน อาสากู้ภัยมูลนิธิสว่างมงคลศรัทธานำเรือท้องแบนออกไปรับผู้ป่วย รวมทั้งหญิงท้องใกล้คลอดวัย 23 ปี ต้องใช้เปลหามออกจากพื้นที่แล้วนำขึ้นเรือฝ่าสายน้ำไปส่งที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากบางช่วงกระแสน้ำไหลเชี่ยว

น้ำซัดถนนขาด 10 เมตร

ที่ อ.วิเชียรบุรี มวลน้ำไหลเข้าท่วม 40 หมู่บ้านใน 14 ตำบล บ้านเรือนน้ำท่วม 2,500 หลัง พืชผลทางการเกษตรจมอยู่ใต้น้ำหลายพันไร่ ถนนสายหลักและถนนภายในหมู่บ้านหลายสายน้ำท่วมถูกตัดขาด ขณะที่ทางหลวงหมายเลข 2275 ถนนสายวิเชียรบุรี-บ่อรัง บริเวณพื้นที่หมู่ 5 บ้านทุ่งใหญ่ ต.ท่าโรง ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากกัดเซาะพัดจนถนนขาดพังเสียหายไปเกือบ 10 เมตร ทหารจากกองพันทหารช่างที่ 8 กองพลทหารม้าที่ 1 นำอุปกรณ์สะพานแบริ่งความยาว 15 เมตร มาติดตั้งให้ใช้เป็นการชั่วคราว

ฟิล์ม-รัฐภูมิช่วยชาวสุโขทัย

จ.สุโขทัย ยังคงวิกฤติหนัก เนื่องจากมวลน้ำจากอ่างแม่มอก จ.ลำปาง ไหลมาสมทบกับน้ำจากอ่างแม่รำพัน อ.บ้านด่านลานหอย ประกอบกับมีฝนตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันจากพายุดีเปรสชัน “เตี้ยนหมู่” ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ศรีสำโรง และ อ.เมือง มวลน้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรเสียหายหนักระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ที่วัดเตว็ดใน หมู่ 4 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง คณะสงฆ์จังหวัดสุโขทัยนำโดยพระมหากายสิทธิ์ สิทธาภิภู รองเจ้าคณะจังหวัด พระปลัดธนะโรจน์ ปัญญาวชิโร (พระอาจารย์หมู) เจ้าอาวาสวัดหนองทอง พระปลัดสารัตน์ สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดเตว็ดใน พร้อมด้วย ฟิล์ม-รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ พระเอกชื่อดัง และแพททริค-นิพัธ เจริญผล นักแสดงช่อง 3 นำข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวน 100 ชุด ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณบ้านเตว็ดใน หมู่ 4 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง

เคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากบ้าน

ขณะเดียวกันทหารจากพัน บชร.3 ค่ายเอกาทศรถ จ.พิษณุโลก เข้าช่วยเหลือตา อายุ 72 ปี ผู้ป่วยติดเตียงอยู่ภายในห้องเช่า ริมถนนจรดวิถีถ่อง หมู่ 2 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ต้องให้นั่งรถวีลแชร์ฝ่ากระแสน้ำอันเชี่ยวพร้อมภรรยาออกจากบ้านอย่างทุลักทุเลไปพักอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว เช่นเดียวกับที่ตึกแถว 3 ชั้น ริมถนนบายพาส หมู่ 5 ต.บ้านกล้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิประสาทบุญญสถาน จ.พิษณุโลก นำเรือฝ่ากระแสน้ำที่ท่วมสูงถึงเอวเข้าไปรับนางประภา แซ่โต๋ว อายุ 67 ปีผู้ป่วยติดเตียงออกมาจากตึกไปส่งบ้านญาติ

นายกฯตรวจเยี่ยมสั่งเร่งเยียวยา

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายทองเปลว กองจันทร์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางไปที่ จ.สุโขทัย เพื่อลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการบริหารจัดการน้ำ ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชน พื้นที่ จ.สุโขทัยประสบอุทกภัย 9 อำเภอ 64 ตําบล 349 หมู่บ้าน มีเกษตรกรประสบภัย 14,464 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรประสบภัย 213,661 ไร่ คาดเสียหาย 169,297 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่นๆประสบภัย 2,701 ไร่ คาดเสียหาย 1,762 ไร่ ด้านประมงกระทบใน 8 อำเภอ 47 ตําบล 213 หมู่บ้าน เกษตรกร 2,504 ราย ในพื้นที่ 3,087.25 ไร่ และบ่อเลี้ยง 2,745 บ่อได้รับผลกระทบ โดยนายกฯสั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหายเร่งจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนอย่างครบถ้วน แม้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ 100% เพราะศักยภาพของพื้นที่ แต่จะต้องแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

น้ำป่าหลากท่วมรีสอร์ตอุ้มผาง

ที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก เกิดฝนตกหนัก ส่งผลทำให้น้ำป่าจากลำห้วยอุ้มผางจากยอดดอยไหลล้นตลิ่งแบบฉับพลันเข้าท่วมบ้านเรือนและรีสอร์ตติดลำห้วยอุ้มผาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้านใหม่ท่าแพ หมู่ 6 ต.อุ้มผาง อ.อุ้มผาง ส่วนสัตว์เลี้ยงของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้ติดแนวลำห้วยอุ้มผาง ถูกน้ำป่าซัดหายไป รวมทั้งรถ จยย.หายไปหลายคัน ระดับน้ำสูงมิดหลังคา ส่วนถนนสายอุ้มผาง-บ้านปะหละทะ เป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อไปแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำป่าทะลักแนวลำห้วยกลางหมู่บ้านไหลเข้าท่วมบนถนนระดับน้ำสูงถึงเอว รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลอุ้มผางต้องปิดการจราจรชั่วคราว

เตือนเร่งย้ายของขึ้นที่สูง

ที่ จ.พิษณุโลก น้ำเริ่มล้นตลิ่งแม่น้ำยมสายหลักและสายเก่าในเขตพื้นที่ อ.พรหมพิราม และ อ.บางระกำ กรมชลประทานเร่งเตือนประชาชนในที่พื้นที่ลุ่มต่ำเคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง เนื่องจากแนวโน้มระดับน้ำจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่น้ำในแม่น้ำวังทองล้นตลิ่งในพื้นที่ต่ำ หลากเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชน สำหรับบ้านเรือนที่อยู่ริมถนนพิษณุโลก-หล่มสัก น้ำท่วมขังสูงถึงหัวเข่าไปจนถึงเอว ส่วนในเขตเทศบาลตำบลวังทอง เจ้าหน้าที่ทำแนวป้องกันนำกระสอบทรายวางกั้นตลอดริมแม่น้ำวังทอง ทำให้ไม่มีน้ำไหลผ่านเข้ามาในเขตตลาด 120 ปี หรือในเขตตลาดเทศบาลตำบลวังทอง และจากระดับน้ำที่เริ่มไหลท่วมทุ่งและกระจายลงที่ต่ำ เริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ด้านล่างของเทศบาลตำบลวังทอง เริ่มมีน้ำท่วมผิวจราจรถนนสายรองหลายสาย เช่น ถนนสายบางสะพาน-บ้านวังครุฑ เส้นทางไปยัง ต.วังพิกุล อ.วังทอง

ช่วยชาวบ้านหนีน้ำป่า

ด้าน น.ส.ศุภาภรณ์ นุชนุ่ม ปลัดอาวุโสอำเภอคลองลาน จ.กำแพงเพชร พร้อมนายสุระชัย โพธิ์คะมณี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติคลองลาน นายวิทยา ทัศนไพบูลย์ นายกเทศมนตรีเทศบาลคลองลาน และเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจที่น้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จ.กำแพงเพชร น้ำป่ามีสีแดงขุ่นไหลหลากลงมาจากเทือกเขาคลองลานลงที่ลุ่มต่ำซัดบ้านเรือนเสียหายจำนวนมาก ขณะเดียวกันหน่วยกู้ภัยเทศบาลคลองลาน และกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรจุดตรวจคลองลาน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านคลองปลาสร้อย หมู่ 7 ต.ปางตาไว อ.ปางศิลาทอง พร้อมสุนัข 3 ตัว และแพะ 17 ตัวออกจากพื้นที่ หลังน้ำป่าถล่มเข้าหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ใช้เชือกมัดที่ตัวชาวบ้านและสัตว์เลี้ยงนำไปผูกติดกับต้นไม้ริมทาง ก่อนจะโรยตัวลงข้ามมาอีกฝั่ง

น้ำทะลักเข้าห้องเรียน

ส่วนที่โรงเรียนบ้านถนนงามมิตรภาพที่ 27 หมู่ 1 ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ภายหลังฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งคืน มีมวลน้ำจาก อ.คลองลาน ไหลเข้าพื้นที่ท่วมบ้านเรือนประชาชน และในโรงเรียน ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า คณะครูช่วยกันยกโต๊ะ เกาอี้ และอุปกรณ์การเรียนขึ้นที่สูง ด้านนายประดิษฐ์ ผลสูงดี อายุ 60 ปี ผอ.โรงเรียนบ้านถนนงามมิตรภาพที่ 27 เปิดเผยว่า น้ำท่วมเข้าห้องเรียน ภายในมีชั้นไม้อัดและอุปกรณ์อื่นที่ไม่สามารถเก็บได้ทันทำให้เสียหายไป ครูต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้น

นครสวรรค์น้ำป่าทะลัก

จ.นครสวรรค์ น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน วัด โรงพยาบาล สถานที่ราชการ และพื้นที่ชั้นเศรษฐกิจของ อ.หนองบัว ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า นอกจากนี้ ถนนสายหนองบัว-เพชรบูรณ์ บางจุดน้ำท่วมสูง รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ระดับน้ำยังสูงขึ้นเพราะน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ยังคงไหลเข้าพื้นที่ต่อเนื่อง ด้านชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลว่า น้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ และฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 25 ก.ย. ทำให้น้ำไหลเข้าพื้นที่อย่างรวดเร็ว แม้จะนำกระสอบทรายมากั้นแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากน้ำไหลแรงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ช่วยยายติดเกาะอยู่ในบ้าน

เหตุระทึกชาวบ้านหมู่ 1 ต.วังน้ำลัด อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ รวมพลังเข้าช่วยเหลือยายสังวาลย์ ฉ่ำผล อายุ 94 ปี พร้อมครอบครัวรวม 5 คนออกมาจากบ้าน หลังน้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำไหลเชี่ยวอย่างรุนแรง คนในบ้านทั้งหมดไม่สามารถลุยน้ำออกมาด้วยตัวเองได้ ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำนำบันได ไม้และห่วงยางรถยนต์ปีนขึ้นไปชั้น 2 ของตัวบ้าน เพื่อช่วยเหลือออกมาทีละ 1 คน โดยนำยายสังวาลย์นั่งในห่วงยางและพาลุยออกมาก่อน จากนั้นทยอยลำเลียงออกมาปลอดภัยทุกคนใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมง

น้ำท่วม รพ.บำเหน็จณรงค์

นอกจากนี้ พื้นที่ภาคอีสานยังมีน้ำท่วมหนัก ที่ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วม 10 อำเภอ หนักสุดในรอบ 50 ปี ที่ อ.บำเหน็จณรงค์ หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากลงไปในอ่างเก็บน้ำลำคันฉู มวลน้ำขนาดใหญ่ซัดเข้าบ้านเรือนและร้านค้า ส่วนที่ รพ.บำเหน็จณรงค์ น้ำไหลเข้าไปถึงภายในอาคาร รถพยาบาลที่จอดด้านหน้าอาคารหลายสิบคันน้ำท่วมถึงหลังคา น.ส.อ้อยใจ คำบุญเรือง นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ นำเจ้าหน้าที่ร่วมกับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางแพทย์เร่งอพยพคนไข้ผู้ป่วย ประกอบด้วยผู้ป่วยโควิด-19 รวม 10 ราย ผู้ป่วยทั่วไป 30 ราย พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 120 คน ไปอยู่ที่ บริเวณภายในปั๊ม ปตท.ตลาดคำปิง อ.บำเหน็จณรงค์ นำเรือกู้ชีพมารับผู้ป่วยอาการหนัก 3 รายเพื่อส่งไปที่ รพ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา เป็นการชั่วคราวไปก่อนแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่นอนอยู่ชั้น 1 ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 กันอย่างทุลักทุเล เครื่องมือทางการแพทย์ เตียง โต๊ะ เก้าอี้และอุปกรณ์สำนักงานลอยไปกับน้ำ เสียหายจำนวนมาก ส่วนในตัวอาคารมีน้ำหลากเข้าท่วมภายในได้รับความเสียหาย ระดับน้ำยังไหลเชี่ยวปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ระดับน้ำสูงมิดหลังคาบ้าน

ส่วนมวลน้ำปริมาณมหาศาลไหลล้นทางระบายน้ำ และสันฝายบ้านโนนคร้อ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ เข้าท่วมนาข้าวและบ้านเรือนประชาชนที่หมู่ 6, 11 และหมู่ 12 อย่างรวดเร็ว ชาวบ้านกว่า 800 หลังคาเรือน เก็บข้าวของขึ้นที่สูงไม่ทัน ถนนสายต่างๆที่ผ่านบ้านโนนคร้อรวมทั้งถนนสายบำเหน็จณรงค์-จัตุรัส น้ำท่วมสูงต้องปิดการจราจร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ น้ำป่าหลากท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคาบ้านเข้ามาในพื้นที่ในตัว อ.จัตุรัส โซนเศรษฐกิจกลางตัวอำเภอได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ ส่วนที่ อ.เมืองชัยภูมิ ยังเกิดฝนตกหนักน้ำป่าหลากจากเขื่อนลำปะทาว และลำน้ำชียังทะลักลงมาเข้าท่วมพื้นที่โซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมืองเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ น้ำไหลขยายวงกว้างเข้าท่วมบ้านเรือน 10 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,500 คน

ท้ายอ่างฯ เตรียมรับมวลน้ำ

ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกร อ.ด่านขุนทด อ.พระทองคำ อ.โนนไทย และ อ.โนนสูง จ.นครราชสีมาทำให้ปริมาณน้ำท่าในพื้นที่ลุ่มน้ำจำนวนมากไหลลงอ่างเก็บน้ำ ส่งผลให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) อ.ด่านขุนทด มีปริมาณน้ำในอ่าง 9.84 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือ 117% มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ 6.6 ล้าน ลบ.ม. ทำการระบายน้ำลงลำน้ำเดิมและทางระบายน้ำล้นรวม 6.9 ล้าน ลบ.ม. ส่วนอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง) อ.โนนไทย มีปริมาณน้ำในอ่าง 36 ล้าน ลบ.ม. หรือ 130% ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 9 ซม. มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำ 5 ล้าน ลบ.ม. และทำการระบายน้ำ 4.5 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยเทศบาลตำบลโนนสูง อ.โนนสูง บ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง และ ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด

อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรแตก

ต่อมาเวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางเพื่อสังเกตการณ์ในพื้นที่อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างพบว่า ด้านข้างบริเวณสันเขื่อนประตูระบายน้ำหรือสปิลเวย์ที่กำลังก่อสร้างแตกมีความกว้างกว่า 10 เมตร ทำให้น้ำทะลักล้นไหลลงมาบริเวณท้ายเขื่อนและไหลเชี่ยวไปตามคลองระบายน้ำทำให้ระดับน้ำมีความสูงเกือบล้นตลิ่ง ส่งผลให้พื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายอ่างเก็บน้ำได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยหมู่ 8 ต.จันอัด ชุมชนสวนผัก เทศบาลตำบลโนนสูง อ.โนนสูง หมู่ 9 บ้านลำเชิงไกร ต.โคกสูง อ.เมือง และหมู่ที่ 2, 4, 5, 7, 9 ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด

วางถุงบิ๊กแบ็กกั้นน้ำ

ขณะที่เจ้าหน้าที่โครงการชลประทานนคร ราชสีมา ดำเนินการวางถุงบิ๊กแบ็กทำคันกั้นน้ำบริเวณบ้านโนนสง่า เพื่อป้องกันน้ำจากลำน้ำห้วยสามบาท และลำห้วยลุงไหลเข้ามาสมทบกับน้ำท่วมขังพื้นที่บ้านบึงบัวทอง ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในลำเชียงไกรรวม 12 เครื่อง บริเวณบ้านโนนหัวนา ต.กำปัง อ.โนนไทย ชุมชนบ้านบัว ต.โนนสูง อ.โนนสูง และสะพานบ้านส้ม ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง รวมถึงติดตั้งกาลักน้ำ เพื่อเพิ่มอัตราการระบายน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกร (ตอนล่าง)

รถแบ็กโฮขุดดินระบายน้ำ

ส่วนเจ้าหน้าที่หมวดการทางด่านขุนทด นำรถแบ็กโฮมาขุดดินเกาะกลางถนนสีคิ้ว-ชัยภูมิ บริเวณหน้าหมู่บ้านเอกธานี กว้างประมาณ 5 เมตร ให้น้ำระบายออกลงไปทุ่งนา เพื่อไม่ให้เอ่อล้นท่วมบ้านเรือนราษฎร และท่วมถนนมากเกินไป เพราะมวลน้ำมาแรงและเร็วมากที่สุดในรอบ 10 ปี หลังจากสร้างถนนสี่เลนยังไม่เคยมีน้ำท่วมแม้แต่ปีเดียว แม้จะมีการระบายน้ำแต่น้ำลดลงไปไม่มากนัก รถเล็กยังไม่สามารถวิ่งผ่าน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เร่งวางกระสอบทรายรอบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จ.นครราชสีมา ป้องกันน้ำทะลักเข้าไปด้านในอาคาร หวั่นโบราณวัตถุล้ำค่าเสียหาย

พ่อเฒ่าถูกน้ำป่าซัดดับ

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ตระการ ศักดิ์ศรีกรม สว. (สอบสวน) สภ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ไปตรวจสอบพบศพลอยน้ำในคลองตะคองหลง หมู่ 2 ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน พบศพนายเพชร โคตรบำรุง อายุ 70 ปี สภาพศพขึ้นอืดส่งกลิ่นเหม็น สอบถามญาติทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพขายไก่ย่าง ช่วงเกิดน้ำป่าไหลหลากผู้ตายเดินออกไปจากบ้านแล้วหายไป คาดถูกน้ำป่าซัดจมลงคลองเสียชีวิต

อุทัยธานีน้ำสูงมิดหัว

ส่วนในพื้นที่ภาคกลางน้ำท่วมหลายจังหวัด ที่ อ.สว่างอารมณ์ และ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี มวลน้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไหลบ่าลงสู่แม่น้ำตากแดดเอ่อล้นตลิ่ง ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ช่วงกลางดึกวันที่ 25 ก.ย. ชาวบ้านขนของหนีน้ำกันอย่างอลหม่าน ระดับน้ำสูงมิดหัว พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก บ้านเรือนเสียหายกว่า 300 หลัง ส่วนที่ ต.โคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เกิดน้ำท่วมสูง ส่งผลกระทบขยายวงกว้างทั้งคนและสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะพื้นที่แอ่งกระทะจะมีน้ำไหลรวมลงไปขัง ระดับน้ำสูงมิดหัว

มวลน้ำมหึมาไหลเข้า จ.ลพบุรี

นอกจากนี้ มวลน้ำไหลเข้าพื้นที่ ต.เพนียด อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี น้ำเข้าท่วมหน่วยงานราชการ ตลาด ร้านค้า ชาวบ้านต่างเก็บของไม่ทัน ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า ถนนบางสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่วนน้ำป่าจากเทือกเขาโคกตูม และฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.เมืองลพบุรี ไหลบ่าเข้าท่วมถนนและชุมชนบ้านเขาหนีบ หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลท่าศาลา บ้านเรือนเสียหายกว่า 50 หลัง ชาวบ้านต่างเร่งนำกระสอบทรายมากั้นหน้าร้านค้าและเก็บของกันอย่างอลหม่าน คาดว่ามวลน้ำยังคงไหลหลากมาอย่างต่อเนื่อง

ไทด์ช่วยหนูน้อย 1 ขวบ

ขณะที่นายเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูพร้อมทีมงานเดินลุยกระแสน้ำไหลเชี่ยวที่ อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เข้าไปช่วยเด็กวัย 1 ขวบ ออกจากบ้านพร้อมกับครอบครัวไปอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวภายหลังชีวิตต้องอยู่ในสภาพติดเกาะไม่มีใครไปช่วยเหลือ จากวิกฤติพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้เกิดฝนตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าทั่วพื้นที่อย่างรวดเร็ว หนีออกจากบ้านไม่ทัน

แจ้งเตือนพื้นที่ริมแม่น้ำ

นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า แจ้งเตือนระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ขอให้พี่น้องที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด มีการบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่ เตรียมพร้อมด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงสามารถปฏิบัติงานได้ทันที และร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด

กทม.เตรียมช่วยระบายน้ำ

ด้านนายณรงค์ เรืองศร ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวถึงกรณีนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ขอให้ กทม.เปิดประตูระบายน้ำช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนใน จ.ปทุมธานีว่า การระบายน้ำในแนวคลองหกวาสายล่าง สำนักการระบายน้ำเปิดประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ เพื่อช่วยระบายน้ำผ่านเข้ามายังพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้อาคารบังคับน้ำที่มี ได้แก่ ประตูระบายน้ำ สถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เดินเครื่องสูบน้ำตลอดเวลาและติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงควบคุมระดับการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำให้สัมพันธ์กับการเดินเครื่องสูบน้ำและปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ ทั้งนี้ สำนักการระบายน้ำยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแนวทางป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำให้กระทบกับประชาชนในพื้นที่ต่างๆให้น้อยที่สุดต่อไป

กองทัพเรือใช้เรือผลักดันน้ำ

ที่สะพานข้ามคลองสำโรง หน้าวัดบางโฉลงนอก และสะพานข้ามคลองสำโรงซอยกู้พารา 2 อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ น.อ.อัศมัย นรินรัตน์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจผลักดันน้ำของกองทัพเรือ พร้อมกำลังพลสังกัดกรมอู่ทหารเรือ พระจุลจอมเกล้า ลำเลียงเรือผลักดันน้ำจำนวน 26 ลำ เข้าประจำการตามคลองต่างๆ จุดระบายน้ำที่สำคัญรวม 5 จุด ได้แก่คลองสี่ ต.บางปลา คลองสุวรรณภูมิ หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ต.บางโฉลง คลองกิ่งแก้ว คลองขุด ต.บางพลีใหญ่ และคลองสำโรง จะทำการผลักดันน้ำวันละ 16-20 ชั่วโมงต่อวัน รองรับปริมาณน้ำที่จะระบายลงมาจากหลายจังหวัดประกอบด้วยอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานคร

กรมเจ้าท่าช่วยชาวบ้าน

นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยว่า สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าและสำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำในเขตพื้นที่ภาคเหนือ เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นที่ จ.สุโขทัย สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 2 นำเรือพระราชทานท้องแบน 3 ลำ พร้อมเครื่องยนต์ รถยนต์หกล้อติดเครน 2 คัน และรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ 1 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงาน 10 นาย เข้าให้การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย และสำนักงานเจ้าท่าสาขาพิษณุโลก จัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือร่วมกับทหาร จิตอาสา และชาวบ้านในพื้นที่ ร่วมกันจัดทำกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมที่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พร้อมนำน้ำดื่มแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัย

ปลัด สธ.แจงย้ายผู้ป่วย

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากกรณีฝนตกและน้ำท่วมในหลายจังหวัด ได้รับรายงานโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 2 แห่ง คือ รพ.สุโขทัย น้ำท่วมทางเข้าและบริเวณโดยรอบ แต่ยังสามารถเปิดให้บริการได้ปกติ และ รพ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมอาคารบริการชั้น 1 สูงประมาณ 80 ซม.และบริเวณโดยรอบ ทำให้ต้องปิดบริการ มีผู้ป่วยในโรงพยาบาลมีทั้งหมด 40 ราย ส่งกลับบ้าน 14 ราย เคลื่อนย้ายผู้ป่วยอีก 26 รายไปยัง รพ.จัตุรัส เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายดูแลรักษา และส่งต่อไป รพ.เนินสง่า รพ.บ้านเขว้า รพ.ชัยภูมิ ผู้ป่วย 16 รายอาการไม่รุนแรงช่วยเหลือตัวเองได้ดี มีผู้ป่วยที่ต้องให้ออกซิเจน 3 ราย และผู้ป่วยโควิด-19 รวม 7 ราย

“นิพนธ์” รับมือน้ำท่วมใต้

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ยะลา ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำปัตตานี บริเวณหมู่ที่ 2 ต.บาเจาะ ต.บันนังสตา จ.ยะลา ความยาวรวม 575 เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมล้นตลิ่ง นายนิพนธ์เปิดเผยว่า เดินทางมาดูพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยหมู่ 2 บ้านบาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นพื้นที่รับน้ำได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจำนวนมากล้นตลิ่ง ท่วมบ้านเรือนประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง กรณีที่เขื่อนบางลางระบายน้ำ รวมทั้งช่วงที่เกิดอุทกภัย ฝนตกหนักฤดูน้ำหลาก กรมโยธาธิการและผังเมืองดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำล้นตลิ่งริมแม่น้ำปัตตานีที่บ้านบันนังสตา ไม่ให้น้ำท่วมบ้านเรือนและชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเกิดอุทกภัยในพื้นที่

กรมอุตุฯเตือนฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลาง ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคใต้ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ อำนาจเจริญ ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ไว้ด้วย