เกมแนว Soul-Like เป็นแนวเกมที่ขึ้นชื่อเป็นหนึ่งในแนวเกมที่ “ยากที่สุด” แต่มีคำถามว่าทำไมชาวเกมทั่วโลกถึงได้ยังชื่นชอบขนาดนี้ ไปหาคำตอบด้วยกันครับ
เชื่อว่าหลายคนเคยมีโอกาสได้เห็น ได้ดู (คนแคสเกม) หรือได้เล่นเกมแนวๆ Dark Souls หรือ Bloodborne ที่เรียกรวมๆกันว่าเกมแนว Soul-Like กันมาบ้าง ซึ่ง ขึ้นชื่อเรื่องความยาก ปริศนาวกวน หรือแม้แต่ความกวนประสาท (อยากเขียนหยาบอยู่นะ) ที่ทำให้คนหัวร้อนทุบโต๊ะโยนจอยกันจนทั่วหน้า แต่ทำไม คนถึงยังชอบเกม ที่ดูแล้วไม่น่าสนุกแบบนี้ ด้วยโอกาสอันดีที่เกมแนว Soul-Like ใหม่อย่าง Elder Ring ได้เปิดวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย วันนี้เราอยากจะพูดคุยกันว่า “ยากขนาดนี้” ทำไมคนถึงยังชอบเกม Soul-Like ได้
What is Soul-Like? อะไรคือเกม Souls
แนวเกม Soul-Like คือแนวเกมชนิดหนึ่งที่เอาไว้เรียกเกมจำพวกที่ลงท้ายด้วย Souls (หรือไม่ Souls ก็ได้นะ) ที่ ณ ตอนนั้นกำลังโด่งดังเป็นอย่างมากอย่าง Dark Souls, Demon Souls ซึ่งแนวเกมพวกนี้ขึ้นชื่อเรื่องความยาก ทั้งในการต่อสู้กับศัตรู กับดักต่างๆ หรือแม้แต่องค์ประกอบต่างๆ ก็สามารถฆ่าคุณได้ และทุกครั้งที่ตาย ของแทบจะทุกอย่างในตัวผู้เล่นจะหายไปด้วย แต่ผู้เล่นจะมีโอกาส 1 ครั้งในการกลับไปเก็บของที่ทำหล่นไว้ หากพลาดท่าตายก่อนกลับไปเก็บได้ ของเหล่านั้นจะหายไปถาวร โดยเจ้าของแมคานิคความยากนี้คือ Hidetaka Miyazaki หนึ่งในผู้พัฒนาเกมอย่าง From Software เจ้าของเกมระดับตำนานอย่าง Dark Souls โดย Miyazaki เปิดเผยว่า เจ้าตัวได้รับแรงบันดาลใจการสร้างเกมจากมังงะชื่อดังอย่าง BERSERK ของสุดยอดปรมาจารย์ผู้ล่วงลับอย่าง อาจารย์ Kentaro Miura ซึ่งเกมแนว Souls-Like มักจะมีความเป็น Action RPG รวมไปถึงความเป็น Hack&Slash ผสมอยู่ด้วยมาก แต่ถ้าหากจะแยกให้มันชัดๆว่าอันไหนคือ Souls-Like หรือไม่เดียวเราจะทำ Check List ง่ายๆแล้วเอามาเทียบกันว่าตรงกับเกมที่คุณเล่นกันไหม?
Souls : แต้มสำหรับอัพเกรดในตัวเกม หาได้จากการฆ่าศัตรูเท่านั้น และถ้าตายขึ้นมา มันจะดรอปออกจากตัวทั้งหมด และคุณมีโอกาสเดียวเท่านั้นในการจะไปเก็บคืน แต่บางเกมก็อาจจะมีรูปแบบการลงโทษที่แตกต่างกันไป
Checkpoint : เรียกให้เข้าใจง่ายๆ คือจุดพักผ่อนให้ผู้เล่นได้เติมเสบียง เติมเลือด พักสมองหลังจากกำศึกหนักมานาน แต่เมื่อขึ้นชื่อว่า Souls-like แมคคานิคของมันคือ หากผู้เล่นเลือกกดพักผ่อน นั่นหมายความว่าศัตรูที่ถูกฆ่าไปก็จะถูก Reset ฟื้นกับขึ้นมาใหม่ทันที ทำให้เราต้องสู้กับมันวนเวียนอีกครั้ง เป็นหนึ่งในความยากฉบับเกมแนว Souls ที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างก็คือรูปปั้น Jiso ในเกม Sekiro : Shadow die Twice หรือ Bonfire ใน Dark-Souls
Stamina : ด้วยความที่ส่วนใหญ่เกม Soul-Like เป็นเกมประเภท Action RPG หรือ Hack&Slash ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่รู้แกวมักจะให้การป้องกันไปเรื่อยและหาจุดอ่อนในการโต้กลับศัตรู หากไม่มีแถบ Stamina มันทำให้เกมดูง่ายเกินไป ฉะนั้นหน้าที่ของผู้เล่นที่จะต้องวางแผนการใช้ Stamina ให้ดีพอ ก็ไปเฝ้ารากมะม่วงได้เลย
Short Cut : ทางลัดเหมือนจะเป็น Feature เดียวที่ดูอ่อนโยนสำหรับผู้เล่น เพราะเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ของเกมพวกนี้มักจะ ไม่มีความเป็นเส้นตรง อยู่แล้วประกอบกับการที่ผู้เล่นจำเป็นต้อง ฟาร์มของ ถ้าจะไม่มีทางลัดให้เลยก็คงจะดูใจร้ายไปสักหน่อยเพราะนอกจากจะ Gliding ลำบากแล้ว ผู้เล่นคงเปิดเกมทิ้งไปซะก่อน (555+)
ยากขนาดนี้ทำไมคนถึง “ชอบ”
ถ้าจะให้สาธยายความดีงามของเกม Souls เป็น Paragraph คงจะได้อ่านยาวเป็นพรืดๆเป็นแน่ผมจึงขอสรุปสั้นๆเป็นข้อๆให้เข้าใจง่ายก็แล้วกันไปดูกันเลย
เอา “ความยาก” ท้าทาย “ความอยาก” ของมนุษย์
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าหนึ่งจุดที่ทำให้เกมแนว Soul-Like เลยคือเนื้อเรื่องและการผูกปมที่น่าสนใจเอามากๆ ตรงนี้ช่วยกลบจุดย่อยของความยากไปได้ส่วนนึง แต่หลักๆเลยคือ Soul-Like ให้ ความยาก เล่นกับ ความอยากของมนุษย์ คือ อยากรู้ ว่าเกมนี้จะจบยังไง อยากรู้ ว่าถ้าจะผ่านบอสตัวนี้มีวิธีอะไรบ้าง เพราะตาย 10 รอบเเล้วไม่ผ่านสักทีเเต่อยากรู้เนื้อเรื่องต่อทำไงดี หรือเกิดคำถามที่ว่าไอ้บอสตัวนี้มันเอาชนะได้จริงหรือเปล่า หรือแม้แต่อยากเอาชนะตัวเองใจให้ได้ คือต้องบอกเลยว่าทาง FromSoftware ทำได้ดีมาก วัดได้จากคะแนนรีวิวของเกม Soul-Like ดูก็ได้ถ้าไม่ดีขึ้นคนไม่เล่นเยอะขนาดนี้แน่
เป็นแนวเกมที่หายากในปัจจุบัน
สำหรับ เกมเมอร์สายท้าทาย ในยุคปัจจุบันการจะหาเกมยากๆเล่นคงจะมีค่อนข้างที่จะน้อยเเล้วเพราะในยุคใหม่ เกมก็เริ่มจะถูกทำให้มัน Casual มากขึ้นเพื่อให้ผู้เล่นเข้าถึงได้ง่าย เอาไว้ใช้เป็นสื่อบันเทิงความผ่อนคลายจากสังคมที่ตึงเครียดในปัจจุบัน ที่จะเห็นอยู่ถ้าเอาตรงๆเลยคือ Serkio : Shadow die Twice (อันนี้ออกมาสักพักละ) Demon Souls (อันนี้ Remake) และล่าสุดก็ Elder Ring เนี่ยแหละที่กำลังจะออก (จริงๆมีเยอะนะแต่มันไม่ค่อยดัง)
แล้ว Soul-Like เกมไหนน่าเล่นที่สุด และเกมไหนยากที่สุด
สำหรับผมเแล้ว Soul-Like ที่ดูแล้วน่าเล่นที่สุด คงไม่พ้น Serkiro : Shadow Die Twice ที่มีเนื้อเรื่องในธีมแนวญี่ปุ่นที่น่าสนุกน่าติดตาม ตัวเอกมีชื่อมีแซ่ มีภูมิหลัง มีแนวเกมที่หลากหลายและที่สำคัญมัน “ยากแบบพอดี” แถมการันตีด้วยรางวัล Game Of The Year 2018
ส่วนที่ยากที่สุดตอนนี้ผมยกให้ SiFu เกมแนวกังฟู กำลังภายในของจีน จากผู้พัฒนา Sloclap ที่มีแมคคานิคแปลกตา คือไม่ Souls ดรอปแต่จะใช้เป็น Exp แทน หากตาย 1 ครั้งอายุจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเท่าตัว 2 เท่าตัว ยิ่งเพิ่มจะยิ่ง ต่อยตีแรง แต่ก็แลกไปกับ ความแข็งแกร่งและ HP ที่น้อยลง (เพราะอายุมากขึ้น) ซึ่งประเด็นคือ มันโคตรจะยาก (เล่นไป ทุบโต๊ะไป) และด้วยความที่มันต่างจาก Dark Souls, Bloodborne เพราะมันไม่ได้มีอาวุธที่ชัดเจน ใช้หมัดศิลปะการต่อสู้ อย่างมากก็ไม้พลอง ทำให้มันดูยากยิ่งขึ้น…
สำหรับเกมแนว Soul-Like เอกลักษณ์อันโดดเด่นคือนั้นคือ “ความยาก” แต่ไม่ได้ทำให้ “ยาก” เพียงอย่างเดียว จะขายได้ ต้องทำให้ดีด้วย คนถึงจะซื้อ ถึงจะเล่น เกมมันถึงจะขายได้
สวัสดีครับ
GAMESTALK BY INSIDE THE GAME