ผู้นำยูเครนขู่กองกำลังรัสเซียต้องเอาชีวิตรอดให้ได้หากรัสเซียหวังบุกเข้ามายึดกรุงเคียฟ โดยประกาศพร้อมจะสู้จนตัวตาย
นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ประกาศเตือนกองกำลังของรัสเซียว่าจะต้องเผชิญกับการสู้จนตัวตาย หากรัสเซียพยายามบุกเข้ามายึดครองกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศ ท่ามกลางเสียงไซเรนเตือนเหตุโจมตีที่ยังคงดังสนั่นทั่วเมืองในช่วงเช้าของวันนี้
นายเซเลนสกีระบุว่า หากรัสเซียตัดสินใจทิ้งระเบิดปูพรม เพื่อหวังจะลบประวัติศาตร์ของดินแดนแห่งนี้ และทำลายชาวยูเครนทั้งหมด รัสเซียจะต้องบุกเข้ามายังกรุงเคียฟแน่นอน ซึ่งถ้านั่นคือเป้าหมายของรัสเซีย ก็คงต้องปล่อยให้พวกเขาเข้ามา แต่จำไว้ว่า พวกเขาจะต้องเอาชีวิตรอดในดินแดนแห่งนี้ด้วยตัวเอง เพราะชาวยูเครนจะสู้จนตัวตาย
ทั้งนี้ นายเซเลนสกี ยังคงปรากฏตัวผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อยืนยันว่าเขายังอยู่ในกรุงเคียฟโดยระบุว่า เมืองเล็กๆ หลายเมืองของยูเครนได้ถูกทำลายลงแล้ว นับตั้งแต่รัสเซียบุกเข้ามารุกรานตลอดช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยการบุกโจมตีของรัสเซียส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนต้องติดอยู่ตามเมืองต่างๆ ท่ามกลางสงคราม และมีชาวยูเครนอีกกว่า 2.5 ล้านคนที่อพยพหนีภัยสงครามไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว
ขณะที่หน่วยสืบราชการลับของยูเครนยังระบุด้วยว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากองกำลังของรัสเซีย เพิ่งจะสังหารพลเรือนยูเครน 7 คนซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก ในขณะที่พวกเขากำลังจะอพยพหนีการสู้รบใกล้กับกรุงเคียฟ อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวรอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันข่าวนี้ได้แน่ชัด และยังไม่มีการแสดงความเห็นในเรื่องนี้จากทางฝ่ายรัสเซียแต่อย่างใด
โดยจากการเปิดเผยล่าสุดของนายเซเลนสกี ระบุว่ายูเครนได้สูญเสียทหารไปแล้วราว 1,300 นายจากการสู้รบครั้งนี้ พร้อมยังเรียกร้องให้ชาติตะวันตกเข้ามาผลักดันการเจรจาสันติภาพให้มากกว่านี้.
ที่มา :แชนแนลนิวส์เอเชีย