วันนี้ (3 ต.ค. 64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากนางสาวเข (นามสมุมติ) อายุ 34 ปี ซึ่งแม่เด็กของน้องเอ (นามสมมติ) เด็กชายวัย 8 ขวบ ว่าถูกนายธนกรณ์ (สามีพ่อใหม่) อายุ 32 ปี ถือมีดขู่ไล่ตีและกักขัง พร้อมกับทุบตีเด็กชายเอ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงโดยร่างกายเขียวช้ำทั้งตัว ต้องการให้สื่อช่วยนำตนและลูกไปแจ้งความที่ สภ.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ด้วย
จากการลงพื้นที่ไปที่บ้านเทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบกับนางภา (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ซึ่งคนที่รู้จักกับแม่เด็ก และเป็นเพื่อนบ้านที่นำสองแม่ลูกหลบหนีออกมาพักอาศัยที่บ้านตน พร้อมกับได้พบนางสาวเข และเด็กชายเอ ด้วย โดยนางสาวเข ได้ชี้ให้ทีมข่าวดูร่องรอยบาดแผลที่ถูกนายธนกรณ์ สามี ทำร้ายลูกของตน จนเขียวช้ำทั้งตัว และตนนั้นก็มีรอยแดงที่ไหล่ด้านหลัง
โดย นางสาวเข เล่าว่า ตนและนายธนกรณ์ (สามี) อยู่กินจดทะเบียนสมรสกันมาปีกว่าแล้ว โดยตนนั้นมีลูกติดคือน้องเอ โดยนิสัยของนายธนกรณ์ จะเป็นคนโมโหร้ายและตลอดมานายธนกรณ์ ก็ไม่ชอบลูกชายของตนด้วย บ้านที่อยู่นี้ก็เป็นบ้านของนายธนกรณ์ อยู่กัน 3 คน ซึ่งนายธนกรณ์ ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร อาศัยเงินจากแม่เป็นค่าใช้จ่ายเท่านั้น ตนมีหน้าที่เป็นแม่บ้านคอยรับผิดชอบงานบ้านต่างๆ
จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 30 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. นายธนกรณ์ ได้กลับมาจากการหาเพื่อนในสภาพที่เมามาก เดินเข้ามาก็โวยวายหาเรื่องทุบตีด่าทอ และขังตนกับลูกชายไว้ในบ้านทั้งคืน พอเช้ามาของวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ตนและนายธนกรณ์ ก็ออกไปหยอดน้ำกรดด้วยกัน และส่งตนกลับมาที่บ้านเพื่อให้ทำกับข้าวรอ พอนายธนกรณ์ กลับเข้ามาถึงบ้านประมาณเวลา 11.00 น. ก็บังคับให้ตนนั้นทำกับข้าวให้ใหม่ บังคับลูกบังคับตนให้กินข้าว แสดงอารมณ์ที่โมโหร้าย ถือมีดขู่ฆ่า อาละวาดทุบตบตีตนและลูก โดยใช้กำปั้นทุบตนที่บริเวณหลังไหล่ซ้ายหลายที จนตนนั้นรู้สึกเจ็บและกลัวมาก ขอร้องเขา เขาก็ยังไม่หยุด นายธนกรณ์ ยิ่งจะโมโหจัด ขว้างปาจานจนแตกและกระชากลูกจากตนไปทุบตี ตนนั้นก็เข้าไปห้ามและพยายามแย่งลูกออกมาจากนายธนกรณ์ แต่แย่งออกมาไม่ได้ และได้พูดข่มขู่ตนและลูกชายอีกด้วยว่า ถ้าหนีออกไปจะฆ่าให้ตาย แต่ตนนั้นก็วิ่งหนีสลัดหลุดออกจากบ้านได้ และมาขอความช่วยเหลือจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ก่อนจะพาตนไปแจ้งความที่ สภ.ดม โดยตำรวจแนะนำว่าให้อดทนไว้ก่อน ให้เขาอารมณ์เย็นแล้วค่อยๆ เข้าไปพาลูกชายหนีออกมา
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. นายธนกรณ์ไม่อยู่บ้าน ลูกชาย จึงหนีออกมาได้ ผู้ใหญ่บ้านเห็นจึงพาน้องเอ ออกมาจากบ้านนั้นและพาไปซ่อนตัวไว้ในป่ายาง ก่อนตนจะหนีไปยังบ้านของคนที่รู้จัก เพื่อขอความช่วยเหลือและขอพักอาศัย โดยที่ตนและลูกชายไม่มีอะไรติดตัวออกมาได้เลย เสื้อผ้าก็ไม่มี โทรศัพท์มือถือก็ถูกนายธนกรณ์ นั้นทุบจนแตกละเอียด ตนไม่รู้จะไปพึ่งใครจึงติดต่อร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตนนั้นอยากเลิกและหย่ากับสามีแล้ว นายธนกรณ์ เคยก่อเหตุทำร้ายตบตีตนหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ตนรับไม่ไหวไม่ได้จริงๆ เพราะทำร้ายลูกชาย หากฝืนอยู่กันต่อไปอาจมีเหตุร้ายกว่านี้ได้ คงทนอยู่กันต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะสามีตนไม่รักลูกชายของตนเลย
ต่อมา นางสาวเข และเด็กชายเอ ได้ไปที่ สภ.ดม พบกับ ร.ต.อ.คงฤทธิ์ เรียบร้อย พนักงานสอบสวน ทำการลงบันทึกประจำวัน ในคดีอาญาที่ 207/2564 ฐานความผิด ทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น โดยเมื่อระหว่างวันที่ 30 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 19.00 น. ถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. เด็กเอ ถูกนายธนกรณ์ ทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นเหตุให้ เด็กชายเอ ได้รับบาดเจ็บ และปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนต่อไป
ด้าน สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางมายัง สภ.ดม เพื่อนำตัวเด็กชายเอ และนางสาวเขมิกาไปสอบปากคำ และนำตัวให้ไปพักอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย และฟื้นฟูสภาพจิตใจของเด็กต่อไป