เหยื่อผับมรณะ ถูกเพลิงนรกเผาตาย ล่าสุดเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 15 ศพ น้องสาวเผย พี่ชายไปร่วมฉลองวันเกิดกับเพื่อนในกลุ่มนับ 10 คน ขณะนี้ตายไปแล้ว 3 คน วอนหน่วยงานประสานทางร้านให้ความช่วยเหลือ
จากกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ “เมาน์เท่นบี” ในช่วงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม ที่ผ่านมา ริมถนนสายสุขุมวิท ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะที่มีนักท่องเที่ยวราตรีกำลังใช้บริการ 100 กว่าชีวิต โดยต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เนื่องจากหลังคามีการฉีดพ่นโฟมสำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัสดุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายอากาศและทางออกด้านหน้าเปิดอยู่เพียงประตูเดียว ด้วยมีการคัดกรองนักเที่ยวตามมาตรการโควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถออกมาได้ทัน อีกทั้งยังมีกลุ่มควันไฟอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 13 รายในที่เกิดเหตุ และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย รวมเป็น 14 รายที่เสียชีวิต โดยมีผู้บาดเจ็บ 38 ราย
ล่าสุดวันนี้ (6 ส.ค. 65) มีรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพิ่มเติม คือ นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี โดยเสียชีวิตที่ รพ.ระยอง ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุกาณ์นี้รวมเป็น 15 ราย บาดเจ็บ 37 ราย
โดย น.ส.นิตยา นีน้อย อายุ 30 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุพี่ชายได้เดินทางไปจัดงานวันเกิดที่ผับพร้อมกลุ่มเพื่อนรวมสิบกว่าคน โดยจองโต๊ะบริเวณหน้าเวที จึงทำให้ขณะเกิดเหตุซึ่งแม้จะออกมาภายนอกได้แต่ก็บาดเจ็บสาหัสและมาเสียชีวิตในวันนี้ ขณะที่กลุ่มเพื่อนของพี่ชายพบว่าเสียชีวิตแล้ว 2 ราย คือ นายสุรกานต์ เรืองฤทธิ์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตในกองเพลิง และนายสุเทพ มงคลแก้ว อายุ 33 ปี ที่เสียใน รพ.เมื่อวานนี้ ขณะที่เหลือส่วนใหญ่บาดเจ็บสาหัส รวมพี่ชายตน นายธนกฤต นีน้อย อายุ 36 ปี ตอนนี้ในกลุ่มเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน และยังมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสอีก 1 คน ในกลุ่มอาการแย่ที่ยังนอนอยู่ รพ. ส่วนคนอื่นในกลุ่มได้รับบาดเจ็บที่ยังนอนรักษาตัวอยู่อีกหลายคน
น.ส.นิตยา บอกเพิ่มว่า วานนี้ได้เดินทางไปแจ้งทางศูนย์ฯ ซึ่งได้รับแจ้งเพียงให้รอเรียกมาสอบสวนเท่านั้น ขณะที่ทางเจ้าของกิจการ หรือผู้บริหารทางร้านยังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าสร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ด้วยผู้ตายมีภรรยาซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์นี้ และบุตรที่ยังอยู่ในวัยเรียนเป็นหญิงอีก 2 คน คนแรกเรียนอยู่เทคนิค อีกคนเรียนมัธยมปีที่ 1 ร.ร.สิงห์สมุทร ทั้งนี้อยากให้ทางร้านหรือหน่วยงานต่างๆ ประสานความช่วยเหลือ เป็นที่น่าสงสัยว่าทำไมวันเกิดเหตุทางร้านถึงยังไม่ปิดทำการ เพราะทราบว่าพี่ชายและเพื่อนเข้าไปฉลองกันในผับเวลา 01.00 น. ก่อนจะเกิดเหตุเมื่อเวลาผ่านไปแค่ 20 นาที
ขณะที่ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นพบว่า ตลอดถึงช่วงเช้าวันนี้ที่ สภ.พลูตาหลวง มีการเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งผู้บาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์ และพนักงานของร้าน ทั้งนี้เพื่อรวบรวมหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้บริหาร หรือผู้ที่รับผิดชอบต่อไป.