แก๊งยานรกเหิม! ระดมพลร่วม 20 คน บุกปล้นชิงยาบ้าของกลาง รถปืนอส.ที่สงขลา

แก๊งยาเสพติดที่รัตภูมิ สงขลา ระดมพลมาร่วม 20 คน นำรถมาล้อมรถอส. ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัด อ้างเป็นตำรวจในพื้นที่ สั่งให้ถอดเสื้อ ปล้นเอายาบ้าของกลาง 10 มัด ปืน 5 กระบอก รถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ หลบหนีไป  

เวลา 23.00 น. วันที่ 18 ต.ค. 65 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ไพโรจน์ แก้วห่อทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตภูมิ รับแจ้งว่า ได้ถูกแก๊งค้ายาเสพติดจำนวน 20 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ บุกชิงยาเสพติดและอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัด ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเย่นต์ค้ายาในพื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้อาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ไป 5 กระบอก พร้อมรถเก๋ง 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง และยาบ้า 10 มัด แต่ไม่ได้ตัวผู้ต้องหาไป

เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.45 น. บริเวณทางเข้านิคมร่วมพัฒนา หรือศาลาเขียว พื้นที่หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ โดยเริ่มจากเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 17 ต.ค. จ่าเอกไพรัช แก้วมณี เจ้าพนักงานปกครอง รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา พร้อมอส.อีก 5 นาย ประกอบด้วย อส. นายเลิศฤทธิ์ ไชยพฤกษ์กุล, นายพิษณุ รัตนอุไร, นายอศิสักดิ์ หวังนิ, นายเฉลิมศักดิ์ ทองแว้ง และนายสุทิพงษ์ สุวรรณชาตรี ได้ล่อซื้อยาบ้าจาก นายธนกร สุวรรณชนะ อายุ 35 ปี ชาว จ.เชียงราย ได้ของกลางยาบ้าจำนวน 10 มัด ที่บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านควนสะตอ หมู่ 3 ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา และได้ให้นายธนกรติดต่อซื้อยาไอซ์ 8 กิโลกรัม จากนายดำ ไม่ทราบชื่อจริง อยู่ที่ จ.สตูล โดยนัดส่งมอบของกันในเวลา 19.45 น. ที่บริเวณแยกศาลาเขียว หมู่ 11 ต.กำแพงเพชร อ.รัตภูมิ ใช้รถ 2 คัน โดยจ่าเอกไพรัชกับอส.อีก 5 นาย เดินทางไปกับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5064 ทม. และให้ อส.สุทธิพงศ์ สุวรรณชาตรี ควบคุมตัว นายธนกร ผู้ต้องหา ไปกับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บษ 8065 เชียงราย ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหา

แก๊งยาเหิม กำลังพล 20 คน บุกปล้นชิงยาบ้าของกลาง รถ ปืนอส.ที่สงขลา

แต่เมื่อไปถึงจุดนัดพบได้มีรถยนต์ 4 คัน ประกอบด้วย รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ แคป สีบรอนซ์ มีรั้วกั้นด้านหลัง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คันที่ 2 รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน รถเก๋งฮอนด้า แจ๊ส สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน และรถยนต์กระบะ ไม่ทราบยี่ห้อ สี และหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดรถปิดล้อมรถของจ่าเอกไพรัช

จากนั้นกลุ่มชายประมาณ 20 คน มีอาวุธปีนพกสั้นทุกคน และมีอาวุธปืนยาว M4 จำนวน 1 กระบอก บังคับให้ทุกคนลงจากรถ และให้ถอดเสื้อ ปลดอาวุธปืนพกประจำกาย ประกอบด้วยอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน ของจ่าเอกไพรัช อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของ นายเลิศฤทธิ์ อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนของนายพิษณุ รัตนอุไร อาวุธปืนพกสั้น 9 มม. พร้อมเครื่องกระสุนปืน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของนายอดิศักดิ์ หวังนิ และอาวุธปืนพกสั้น 9 มม. 1 กระบอก โดยคนร้ายได้สอบถามเจ้าหน้าที่ว่าเป็นหน่วยใด จ่าเอกไพรัช แจ้งว่า เป็นเจ้าหน้าที่มีบัตร ป.ป.ส. และส่งบัตร ป.ป.ส.ให้คนร้ายดู และทางกลุ่มคนร้ายอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตภูมิ

แก๊งยาเหิม กำลังพล 20 คน บุกปล้นชิงยาบ้าของกลาง รถ ปืนอส.ที่สงขลา

คนร้ายได้ให้จ่าเอกไพรัชกับพวกรวม 5 คน ขึ้นรถยนต์กระบะคันที่มีรั้ว แล้วขับรถออกมาประมาณ 50 เมตร จอดให้จ่าเอกไพรัชกับพวกลงจากรถ แล้วคนรายได้ขับรถหลบหนีไปพร้อมกับขับรถยนต์เก๋งมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีดำ ทะเบียน กจ 5064 กทม. ของจ่าเอกไพรัชไปด้วย ซึ่งในรถมียาบ้าของกลาง 10 มัด อาวุธปืนพกสั้นของเจ้าหน้าที่จำนวน 5 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ หลบหนีไป ส่วนนายธนกร ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไม่ได้ตัวไป เพราะอยู่ในรถอีกคัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายพยายามจะบุกชิงตัวผู้ต้องหาไปด้วยหรือไม่ หรือต้องการเอายาเสพติดเพียงอย่างเดียว

ทางด้าน อส.สุทธิพงษ์ ที่อยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นเหตุการณ์จึงขับรถมาแจ้งเหตุที่ สภ.รัตภูมิ ทางตำรวจ สภ.รัตภูมิ จึงนำกำลังไปช่วยจ่าเอกไพรัชกับพวกออกจากที่เกิดเหตุ พามาที่สถานีตำรวจภูธรรัตภูมิ พร้อมแจ้งความร้องทุกข์

ล่าสุด วันที่ 19 ต.ค. ที่ สภ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตำรวจชุดสืบสวนภาค 9 ร่วมกับชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา นำโดย พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการสืบสวนภาค 9 พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผู้กำกับการสืบสวนภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พ.ต.อ.ศิรโกศล ปราบกรี ผู้กำกับการ สภ.รัตภูมิ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ลงพื้นประชุมสรุปเหตุการณ์และวางแนวทางการสืบสวนล่าตัวคนร้าย พร้อมกันนี้ได้ควบคุมตัว นายธนกรมาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพื่อหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 20 คน เพราะเชื่อว่าน่าจะรู้จักกับกลุ่มคนร้าย และได้เชิญตัวจ่าเอกไพรัช พร้อมอส.อีก 5 นาย มาสอบสวนในรายละเอียดเพิ่มเติมด้วย

สำหรับแนวทางการสืบสวน ทางชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องจรปิดตามเส้นทางทั้งก่อนและหลังจุดเกิดเหตุ โดยแยกเป็น 4 เส้นทางคือ เส้นทางท่าชะมวง-หาดใหญ่ ท่าชะมวง-สตูล รัตภูมิ-คูหา และทางเข้าบ้านนิคมร่วมพัฒนา ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อที่สามารถแยกไปได้อีกหลายเส้นทาง โดยแก๊งยาเสพติดแก๊งนี้เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.รัตภูมิ.