แฟนคลับ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” โล่งใจ นักร้องสาวสุขภาพดีไร้อาการ ส่วน 3 เพื่อนสาวในวงก็รอด ผลตรวจออกไม่พบเชื้อโควิด-19 ด้านโลกโซเชียลวิจารณ์สนั่นเหตุเกิร์ลกรุ๊ปก้องโลกเผลอการ์ดตก อนามัยโลกย้ำชัดฉีดวัคซีนก็ประมาทไม่ได้ ส่วนประเทศไทยยอดติดเชื้อยังทรง สธ.เคาะมาตรการเปิดประเทศเฟสสอง เพิ่มช่องทางเข้าทั้งทางบกและทางเรือ ปรับการตรวจเหลือแค่ ATK คณบดีแพทย์ศิริราชยกเหตุระบาดรอบใหม่ในยุโรปเตือนสติคนไทยระวังซ้ำรอย เมืองนนท์พบอีกหนุ่มใหญ่วูบหลังฉีดโมเดอร์นาเข็มแรก
การติดเชื้อโควิด-19 ของนักร้องสาวชื่อดัง “ลิซ่า แบล็กพิงก์” เป็นสัญญาณเตือนผู้คนทั่วโลกว่ายังคงต้องตระหนักในพิษภัยของไวรัสร้ายที่ยังคงแพร่ระบาดกระจายไปในทุกพื้นที่ ขณะที่ประเทศไทยก็ยังต้องลุ้นจิตสำนึกและความมีวินัยของคนในชาติ ที่จะไม่การ์ดตกระหว่างเดินหน้าเปิดประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“ลิซ่า” สุขภาพดีไม่มีอาการ
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. บริษัท วายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ต้นสังกัดของ “แบล็กพิงก์” วงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังก้องโลกจากเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่ น.ส.ลลิษา มโนบาล หรือ “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ติดเชื้อโควิด-19 ว่า สุขภาพของลิซ่าอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่แสดงอาการผิดปกติใดๆและหวังว่าลิซ่าจะหายดีโดยเร็ว
เพื่อนสาวในวงโล่งอกไม่พบเชื้อ
บริษัทต้นสังกัดศิลปินดังระบุว่า ส่วนอีก 3 สาวสมาชิกของวง คือ จีซู โรเซ่ และเจนนี่ หลังการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ได้รับการยืนยันผลเป็นลบคือปลอดเชื้อ ยืนยันว่าสมาชิกทั้ง 4 ของแบล็กพิงก์ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งบริษัทให้ความสนใจเป็นพิเศษต่อสุขภาพและความปลอดภัยของศิลปินทุกราย ทั้งให้ความร่วมมืออย่างจริงจังกับการสอบสวนทางระบาดวิทยาของหน่วยงานด้านสุขภาพของรัฐ ใช้มาตรการที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19
พบเหตุนักร้องดังเผลอการ์ดตก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดกระแสวิพากษ์ วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศถึงต้นเหตุการติดเชื้อโควิด-19 ของลิซ่า แม้ค่ายวายจี เอ็นเตอร์เทนเมนต์ต้นสังกัดปฏิเสธที่ให้รายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องนี้ แต่ได้มีการตั้งข้อสงสัยเป็นวงกว้างในโลกออนไลน์ โดยไทม์ไลน์ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ลิซ่าได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา และปรากฏคลิปวิดีโอเข้าร่วมงานปาร์ตี้ที่ซูค ไนต์คลับ ในนครลาสเวกัส รัฐเนวาดา แสดงให้เห็นลิซ่าได้เต้นอยู่ในบูธดีเจข้างๆ “ดีเจสเนค” ที่ออกซิงเกิลล่าสุด “SG” ร่วมกัน โดยถอดหน้ากากอนามัยห้อยไว้ข้างหู ทั้งยังมีการกอดขอบคุณดีเจสเนค และกอดทักทายแฟนคลับหลายคน ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดในเกาหลีใต้ก็ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อในวันเดียวทำสถิติ 4,116 คน เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 31 คน ขณะที่ปริมาณเตียงรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินในกรุงโซล เกาหลีใต้ เหลือเพียง 17 เปอร์เซ็นต์
WHO ย้ำฉีดวัคซีนก็อย่าชะล่าใจ
ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เตือนชาวโลกว่า การฉีดวัคซีนช่วยลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลตาได้ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่ถึงจะฉีดวัคซีนครบแล้วก็ไม่ควรชะล่าใจ ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันทางสาธารณสุขกันต่ออยู่ดี และไม่ควรลืมว่าคนที่มีภูมิคุ้มกันแล้วก็ยังสามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ ขณะที่ข้อมูลก่อนหน้านี้บ่งชี้ว่าการระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกเป็นเชื้อเดลตาถึง 99.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เยอรมนี ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทะลุ 100,000 คนอย่างเป็นทางการ
ไทยป่วยใหม่ 6,335 ตาย 37
ที่ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,335 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 6,298 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 6,092 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 206 ราย จากเรือนจำ 30 ราย มาจากต่างประเทศ 7 ราย หายป่วยเพิ่ม 7,218 ราย อยู่ระหว่างรักษา 80,657 ราย อาการหนัก 1,508 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 363 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 20 ราย เป็นผู้เสียชีวิตที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 33 ราย มีโรคเรื้อรัง 4 ราย พบผู้เสียชีวิตมากสุดอยู่ใน กทม. 5 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,088,327 ราย ยอดหายป่วยสะสม 1,987,089 ราย และยอดผู้เสียชีวิตสะสม 20,581 ราย ส่วนยอดผู้ได้รับวัคซีน 24 พ.ย. รวม 574,772 โดส รวมยอดฉีดวัคซีนสะสม 90,468,955 โดส ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 259,699,497 ราย เสียชีวิตสะสม 5,191,762 ราย ทั้งนี้ 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด กทม. 672 ราย สงขลา 455 ราย นครศรีธรรมราช 429 ราย สุราษฎร์ธานี 263 ราย เชียงใหม่ 258 ราย สมุทรปราการ 206 ราย ชลบุรี 204 ราย ปัตตานี 178 ราย ยะลา 171 ราย ประจวบฯ 154 ราย
จับตาปลดล็อก 6 พื้นที่แดงเข้ม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันที่ 26 พ.ย. เวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.จะเป็นประธานการประชุม ศบค.นอกจากจะพิจารณาเรื่องที่ ศปก. สธ.เสนอให้พิจารณาปรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ ปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วประเทศ โดยปรับลดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) 6 จังหวัด ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา นครศรีธรรมราช และตาก รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายกิจการและสถานบันเทิง ทางศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะเสนอให้พิจารณา เรื่องการขยายเวลาการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินคราวที่ 15 ต่อจากคราวที่ 14 เวลาประกาศตั้งแต่ 1 ต.ค.-30 พ.ย. หรือไม่
กมธ.ค้านไฟเขียวเปิดที่อโคจร
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พลังประชารัฐ ประธานกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนฯกล่าวถึงการพิจารณาเปิดสถานบันเทิงของ ศบค.ว่า เราเคยได้รับบทเรียนจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อมาแล้ว ระบบเศรษฐกิจพังยับ เปิดสถานบันเทิงต้องคิดให้รอบคอบ เข้าใจผู้ประกอบการสถานบันเทิงเดือดร้อน แต่ต้องเข้าใจความเดือดร้อนประชาชนที่พยายามทำตามมาตรการอย่างเคร่งครัดต้องมารับกรรมจากสถานบันเทิง เป็นธรรมหรือไม่ ศบค.ต้องพิจารณาให้ดี ชั่งน้ำหนักว่า กำลังเอาชีวิตคนไปเสี่ยงกับความตายอีกหรือไม่ ตัวเลขติดเชื้อกว่า 5,000 คนทุกวันยังไว้วางใจไม่ได้ ตอนนี้เหมาะสมหรือกับการไปเที่ยวสถานที่อโคจร
เคาะแล้วแนวทางเปิดประเทศเฟส 2
ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แถลงหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 11/2564 ว่า ที่ประชุมมีมติ 3 เรื่อง 1.เห็นชอบแนวทางปฏิบัติของคนต่างชาติที่เข้ามายังประเทศไทยตามนโยบายการเปิดประเทศระยะที่ 2 เริ่ม 1 ธ.ค.2564 โดยไม่กักตัว หากมีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบโดส มีการตรวจหาเชื้อก่อนเดินทาง ซึ่งปัจจุบันมี 63 ประเทศในระบบ Test & Go ซึ่ง สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะติดตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างใกล้ชิด 2.เห็นชอบยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมการออกวัคซีนพาสปอร์ตอิเล็กทรอนิกส์ จากเดิมที่เก็บ 50 บาท และเพิ่มจุดการขอออกวัคซีนพาสปอร์ตเพิ่ม 120 แห่งทั่วประเทศ กทม.อยู่ที่ รพ.บางรัก, สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และระดับพื้นที่ทั่วประเทศ และ 3.เห็นชอบการจัดซื้อยารักษาโรคโควิด-19 เพิ่มเติม โดยวันที่ 25 พ.ย.ได้มีการลงนามสั่งซื้อยาโมลนูพิราเวียร์ แล้ว 50,000 คอร์ส จำนวน 2 ล้านเม็ด และกำลังเจรจาซื้อยาแพ็กซ์โลวิดเพิ่มเติมจำนวนเท่ากัน 50,000 คอร์ส จำนวน 2 ล้านเม็ด
เพิ่มช่องทางเข้าทางบก-เรือ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเปิดประเทศระยะที่ 2 ที่จะเสนอ ศบค.วันที่ 26 พ.ย. โดยหลักจะเปิดช่องทางการเข้าประเทศมากขึ้น ดูข้อมูลแล้วว่าอัตราการติดเชื้อในคนที่เข้ามาในประเทศระยะแรกค่อนข้างน้อย เช่น คนที่เข้ามาตามระบบ Test & Go มีการติดเชื้ออยู่ที่ 0.08% เป็นไปตามแผนที่นายกรัฐมนตรีกำหนดไว้ ดังนั้นระยะที่ 2 มีแนวทางคือ 1.จะเสนอเปิดช่องทางการเข้าประเทศมากขึ้น เดิมอนุญาตให้เข้ามาเฉพาะทางอากาศเท่านั้น ก็จะเปิดเพิ่มทางเรือ และทางบก แต่ก็ไม่ใช่เปิดด่านบกทั้งหมดทั่วประเทศ เลือกเฉพาะด่านที่มีความปลอดภัย เพื่อเป็นการนำร่องก่อน 2.มีข้อจำกัดน้อยลงแต่ต้องเข้มข้นเรื่องการฉีดวัคซีน และการตรวจ Lab
ปรับการตรวจหาเชื้อเหลือ ATK
อธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวต่อว่า ส่วนรายชื่อประเทศที่จะเข้ามานั้น ที่ประชุม ศบค.ก่อนนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้พิจารณาประกาศเพิ่ม แต่แนวโน้มไม่น่าจะประกาศลดประเทศเดิมที่เราอนุญาตไปก่อนหน้านี้ เพราะดูประเทศก็เป็นเพียงต้นทาง ไม่สำคัญเท่าคนที่เข้ามา คือ ต้องฉีดวัคซีนครบทุกคน ยกเว้นเด็กที่ฉีดไม่ได้ ก่อนเข้าต้องตรวจ RT-PCR ในระยะ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และเมื่อเข้ามาแล้วเดิมเรากำหนดว่าให้ตรวจ RT-PCR ซ้ำ ก็อาจจะปรับเป็นการตรวจ ATK แทน และกำหนดว่าระหว่างนี้จะให้อยู่รอที่ไหน และใครจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนวิธีตรวจต้องใช้เวลา เพราะตอนนี้ระบบ Test & Go มีคนเข้ามา 5 พันกว่าราย เชื่อว่าถ้าเราเปิดเพิ่มจะมีคนเข้ามามากกว่านี้ ดังนั้นต้องวางระบบให้ดีก่อน
พร้อมนำเข้ายาใหม่อีก 2 ขนาน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ยาโมลนูพิราเวียร์ และแพ็กซ์โลวิด ขณะนี้อยู่ในขั้นศึกษาวิจัยระยะ 3 ผลเบื้องต้นสามารถลดป่วยหนัก และเสียชีวิตได้ ซึ่งในการประชุมได้มอบการบ้านผู้เชี่ยวชาญศึกษาเปรียบเทียบการใช้ยาของประเทศไทย ทั้งยาที่ใช้กันอยู่และยาที่กำลังเข้ามา รวมถึงเกณฑ์การให้ยาโมลนูพิราเวียร์ และแพ็กซ์โลวิดสำหรับผู้ป่วย คาดว่าเกณฑ์การให้ยากลางเดือน ธ.ค.จะมีความชัดเจน ทั้งนี้ ยาโมลนูพิราเวียร์คาดว่าสัปดาห์หน้าจะผ่านการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ FDA น่าจะนำเข้าได้ไตรมาสแรกปี 2565 ส่วนแพ็กซ์โลวิดก็เช่นกัน ได้เจรจาด้วยวาจาแล้วอยู่ระหว่างการทำสัญญา เพื่อส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาก่อนเสนอ ครม.ขออนุมัติวงเงิน ทั้งหมดได้เจรจาขอให้ได้ยาภายในไตรมาสแรก
แอสตราฯยันส่งไทยครบ 61 ล้านโดส
นายเจมส์ ทีก ประธานบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตามที่ประเทศไทยทำสัญญาจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกา จำนวน 61 ล้านโดสนั้น ขณะนี้ได้มีการส่งมอบวัคซีนที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ให้ประเทศไทย ยอดจนถึงเดือน ต.ค.64 แล้วจำนวน 35.1 ล้านโดส ทั้งนี้ ยืนยันว่าภายในปี 2564 จะส่งมอบวัคซีนให้ไทยได้ครบ 61 ล้านโดสตามสัญญา ส่วนปี 2565 นั้น ได้มีการลงนามจัดซื้อวัคซีนแอสตราเซเนกา เพิ่มอีก 60 ล้านโดส โดยจะเป็นวัคซีนรุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพต่อสู้กับสายพันธุ์ต่างๆได้ และพร้อมจะทยอยส่งมอบให้ และคาดว่าจะส่งให้ได้ทั้งหมดภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565
ไทยแลนด์พาสผ่านฉลุย
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าการเปิดประเทศด้วยระบบ Thailand Pass ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางเข้าไทยผ่านระบบ Thailand Pass แล้ว 296,842 คน ได้รับอนุมัติแล้ว 236,184 คน หรือเกือบร้อยละ 80 ในจำนวนดังกล่าวได้รับการอนุมัติแบบอัตโนมัติ 124,815 คน (ณ วันที่ 25 พ.ย.) ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปรับปรุงระบบและเพิ่มรูปแบบการใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น อาทิ เพิ่มให้อัปโหลดเอกสารเป็นไฟล์ PDF ได้ ให้ผู้ที่ลงทะเบียนเข้าไปตรวจสอบสถานะและดาวน์โหลด QR Code ได้ด้วยตนเองผ่าน access code โดยไม่ต้องรออีเมลอนุมัติ รวมทั้งการจัดทำรายชื่อโรงแรม SHA Extra Plus ที่เชื่อมต่อข้อมูลถึงโรงพยาบาลได้ ขณะนี้ผู้ใช้งานหลายคนแสดงความพึงพอใจ โดยได้รับอนุมัติ QR Code ภายในไม่กี่นาทีหลังลงทะเบียน
เผยต้นเหตุระบาดใหม่ในยุโรป
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทย ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง กรณีองค์การอนามัยโลกกำลังจับตาทวีปยุโรปที่กลายเป็นศูนย์กลางแพร่ระบาดของโควิด-19 ครั้งใหม่ ว่า เนื่องจากเริ่มมีการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น มีการผ่อนคลายมาตรการเพราะเชื่อมั่นในวัคซีนระดับหนึ่ง ทั้งที่การฉีดวัคซีนไประยะหนึ่งภูมิคุ้มกันจะลดลงจนต้องฉีดกระตุ้น อีกทั้งมีวัฒนธรรมความเชื่อไม่ยอมรับการใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ต่อต้านการฉีดวัคซีน ทำให้หลายประเทศต้องกลับมาทบทวนมาตรการ เช่น ออสเตรีย ส่วนอีกหลายประเทศก็มีการประกาศล็อกดาวน์ จำกัดจำนวนคนเข้าสถานที่ต่างๆ และแนะนำให้ทำงานที่บ้าน สำหรับสถานการณ์ที่สหราชอาณาจักร ที่มีการติดเชื้อจำนวนมากเช่นกัน ทั้งนี้ นักวิชาการกำลังเฝ้าติดตามสายพันธุ์เดลตาพลัส ซึ่งมีการกลายพันธุ์ที่ตำแหน่ง E484K ว่ามีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยังมีประเทศที่เปิดประเทศแล้ว ยังไม่เกิดการแพร่กระจายเชื้อคือ ญี่ปุ่น อิสราเอล เป็นผลจากความมีวินัย และความร่วมมือของทุกฝ่าย และประชากรได้รับวัคซีนครบในอัตราสูงกว่า 70%
ไวรัสร้ายยังไม่หยุดกลายพันธุ์
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวด้วยว่า ในช่วงเดือน ธ.ค.ถือเป็นจุดเสี่ยงการระบาดของทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศตะวันตกที่เข้าสู่ช่วงอากาศหนาว มีช่วงเทศกาลหยุดยาว ประกอบกับเมื่ออุณหภูมิลดลงทำให้คนส่วนใหญ่อยู่ในอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ปิด เสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมถึงการเดินทางและรวมกลุ่มพบปะกัน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยการกลายพันธุ์ของไวรัสที่นักวิจัยกำลังจับตาสายพันธุ์เดลตาพลัส และสายพันธุ์ใหม่ B.1.1529 มีการตรวจพบใน 10 คน โดยพบครั้งแรกที่บอตสวานา 3 ราย แอฟริกาใต้ 3 ราย และฮ่องกง 1 ราย พบมีการกลายพันธุ์ 32 จุดที่เกี่ยวกับสไปค์โปรตีน กำลังติดตามว่าจะมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันจำไม่ได้ และจะหลุดรอดกระทบต่อวัคซีนที่ฉีดหรือไม่ สำหรับไทยหากไม่อยากให้มีการแพร่ระบาดเหมือนยุโรป ต้องยกการ์ดขึ้น ปฏิบัติตนตามมาตรการต่างๆในการป้องกันตนเองสูงสุด และฉีดวัคซีนให้ครบตามกำหนด ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการกิจกรรมต่างๆ เน้นย้ำให้ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด หากเราช่วยกันทุกฝ่าย เชื่อว่าช่วงปีใหม่ก็สามารถเปิดประเทศอย่างมีความสุข แต่หากไม่ร่วมมือกันก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดประเด็นสำคัญคือ หลีกเลี่ยงอย่าให้บุคคลเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยงเกิดขึ้นพร้อมกันเพราะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดอีกได้
หนุ่มใหญ่วูบดับหลังฉีดโมเดอร์นา
ที่ จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.ท.พรนารายณ์ แสงทอง สว.ป.สภ.ปากเกร็ด รับแจ้งจากนายเฉลิมวุฒิ ยศมาดี อายุ 36 ปี ให้มาตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 42/63 ซอยอัมพรไพศาล 4 ถนนติวานนท์ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อญาติชื่อนายจิระยุทธ อินจันณรงค์ อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้เกรงว่าจะเกิดเหตุร้าย จึงนำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้าตรวจสอบ พบประตูรั้วบ้านถูกล็อกกุญแจแต่ไฟในบ้านเปิดไว้ เจ้าหน้าที่พยายามเรียกแต่ไม่ตอบรับ จึงตัดสินใจให้กู้ภัยใช้คีมตัดกุญแจเข้าไป พบร่างนายจิระยุทธนอนแน่นิ่งอยู่กลางบ้านใกล้กับโซฟาปัสสาวะราดหมดสติหายใจรวยริน ประสานรถกู้ชีพ รพ.ปากเกร็ด 2 มารับตัวไปรักษา สอบปากคำนายเฉลิมวุฒิ ให้การว่าเป็นญาติกับนายจิระยุทธ เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาทราบว่าเจ้าตัวไปฉีดวัคซีนโมเดอร์นาเข็มแรก ที่ รพ.เกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ จากนั้นญาติติดต่อเพื่อสอบถามอาการแต่เงียบไป ขับรถมาดูเรียกเท่าใดก็ไม่ตอบจึงโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นสงสัยว่าอาจเป็นเพราะเกิดจากอาการแพ้จากการฉีดวัคซีน เพราะไม่มีโรคประจำตัว แต่คงต้องรอผลตรวจเพื่อยืนยันสาเหตุต่อไป
เมืองนนท์ฉีดแอสตราฯ 2 เข็มยังติด
ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี แจ้งยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.นนทบุรี ว่าเฉลี่ยอยู่ที่วันละประมาณ 100 ราย แต่หลังจากที่ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องพบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อลดน้อยลงแต่ก็ยังพบผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มยังติดเชื้อโควิด-19 แม้จะเป็น AstraZeneca โดยพบถึง 23 ราย นพ.สฤษดิ์เดช เจริญไชย รองสสจ.นนทบุรี กล่าวว่า ตามที่ สสจ.นนทบุรีได้แจ้งยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้ประชาชนทราบทุกวันในจำนวนนี้เป็นผู้ได้รับวัคซีนเข็ม 1-2 และบางรายได้รับเข็ม 3 แล้ว เหตุเพราะวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าวัคซีนยี่ห้ออะไร ไม่ได้ป้องกันติดเชื้อได้ 100% ยังสามารถติดเชื้อได้ แต่จะป้องกันไม่ให้มีอาการป่วยหนักถึงขั้นรุนแรงหรือเสียชีวิต จังหวัดนนทบุรีไม่มีผู้เสียชีวิตจากโควิดนานกว่า 2 อาทิตย์ จากข้อมูลพบว่า ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบจะเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วกว่า 5- 6 เท่า
ยะลาตรวจหาซากเชื้อในน้ำ
ที่ จ.ยะลา เทศบาลนครยะลาร่วมกับทีมวิจัยวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก นำโดย ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ เดินทางมาเก็บตัวอย่างน้ำในคูระบาย บริเวณสี่แยกมุมถนนเทศบาล 3 หลัง ร.ร.สตรี เขตเทศบาลนครยะลา เพื่อตรวจสารพันธุกรรมของ SAR-COV-2 ในน้ำเสียเพื่อเตือนภัยล่วงหน้าการแพร่เชื้อในที่สุ่มเสี่ยงและชุมชน ผศ.ดร.ธนพล เผยว่า การตรวจครั้งนี้เป็นการเฝ้าระวังเชิงรุก หากพบเชื้อก็จะแจ้งเตือนก่อนระบาดได้ 3-14 วัน แนวทางนี้มีขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย เริ่มดำเนินการในภาคเหนือ ที่พิษณุโลก เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ ด้านนายยู่สิน จินตภากร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครยะลา กล่าวว่า การหาซากเชื้อที่เกิดจากโควิด-19 มาทำการวิเคราะห์เพื่อที่จะหาผู้ป่วยในวงกว้าง ซึ่งเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อในชุมชนนี้ประมาณกี่คน จะนำไปสู่การตรวจประเมินเพื่อหาแนวทางป้องกัน ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จ.ยะลา มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 171 ราย ใน อ.เมือง 49 ราย อ.เบตง 40 ราย อ.บันนังสตา 34 ราย อ.ยะหา 23 ราย อ.รามัน 14 ราย อ.กาบัง 7 ราย อ.ธารโตและกรงปินัง อำเภอละ 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย เป็นหญิงชราวัย 87 ปี เป็นเบาหวาน ความดันโลหิตสูงโรคปอดเรื้อรัง และไม่ได้ฉีดวัคซีน
กักตัวคลัสเตอร์งานศพนับร้อย
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ในพื้นที่ ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน ซึ่งเกิดคลัสเตอร์ในงานศพในวัดแห่งหนึ่ง ล่าสุดพบติดเชื้อในพื้นที่ 42 ราย ในขณะเดียวกันยังมีการกักตัวกลุ่มเสี่ยงอีกประมาณ 120 ราย นาย เรืองเดช เรืองพริ้ม ส.จ.พัทลุง เขต อ.เขาชัยสน ได้ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาตั้ง “ครัวชุมชนคนหานโพธิ์” บริเวณหน้าลานปาล์มแทนคุณ ท้องที่ ม.2 ต.หานโพธิ์ อ.เขาชัยสน เพื่อจัดทำอาหารกล่องแจกจ่ายให้แก่บุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เก็บกักตัวในบ้าน รวมทั้งเน้นย้ำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กันทุกคนและทุกครอบครัวด้วย
ขอนแก่นปิดตลาดพบติดนับร้อย
อีกด้านหนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ว่ามีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะตลาดเช้าดีบุญมี ณ ชุมแพ ตลาดเก่าอายุกว่า 100 ปี ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อที่เป็นคลัสเตอร์จำนวน 132 ราย นายณัฐภูมิ นนทสิริกุล ปลัดเทศบาลเมือง ปฏิบัติราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองชุมแพ ออกประกาศห้ามตั้งวางจำหน่ายสินค้าภายในตลาดเช้าดีบุญมี ณ ชุมแพ เป็นการชั่วคราวระหว่าง 25-29 พ.ย. ทั้งสั่งห้ามตั้งแผงจำหน่ายสินค้าริมถนนดีบุญมี ถนนคำหงส์ษา ถนนราษฎร์บำรุง และถนนตลาดชัยทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งอยู่ใกล้กับตลาด
เด้ง ผบ.ศูนย์ฝึกนายสิบเซ่นโควิด
ส่วนกรณีพบนักเรียนนายสิบตำรวจ ใน ศฝร.ภ.7 ใน จ.นครปฐม ติดเชื้อโควิด-19 ถึง 182 ราย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เผยว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบว่า พบนักเรียนนายสิบตำรวจมีพฤติกรรมแอบหนีออกนอกศูนย์ฝึกเวลากลางคืน บางกลุ่มไม่ปฏิบัติตามระเบียบ มีการแอบใช้โทรศัพท์สื่อสารกับบุคคลภายนอกหรือผู้ปกครอง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการและการตรวจสอบข้อเท็จจริง เห็นควรให้ พ.ต.ต.บุญส่ง สุขเหมือน ผบ.ร้อย ปค.ศฝร.ภ.7 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.7 จนกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเสร็จสิ้น นอกจากนี้ ยังให้ตั้งกรรมการสอบสวนผู้ที่ปล่อยปละละเลยตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการวินัยต่อไป
