โควิดสายพันธุ์ใหม่ล่าสุดโอมิครอน BA.2 ผู้แพร่และรับเชื้อเริ่มอาการไวกว่า BA.1 หมอธีระแนะผู้ปกครองดูแลลูกหลานใกล้ชิด
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)” โดยมีข้อความว่า
12 กุมภาพันธ์ 2565 ทะลุ 408 ล้านแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่มสูงถึง 2,267,864 คน ตายเพิ่ม 10,324 คน รวมแล้วติดไปรวม 408,596,943 คน เสียชีวิตรวม 5,818,626 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน รัสเซีย บราซิล ฝรั่งเศส และอเมริกา
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 87.29% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 80.22%
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นคิดเป็น 54.85% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 35.4%
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 6 ใน 10 อันดับแรก และ 11 ใน 20 อันดับแรกของโลก
อัพเดตความรู้ Omicron (โอมิครอน)
UK HSA ออกรายงานวิชาการ SARS-CoV-2 variants of concern and
variants under investigation in England ฉบับที่ 36 ล่าสุดเมื่อวานนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2565
สาระสำคัญที่ควรรู้มีดังนี้
1. การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) สายพันธุ์ Omicron แม้ในผู้ใหญ่จะพบว่ามีความเสี่ยงต่อการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลงราว 50% และความเสี่ยงในการเสียชีวิตลดลงราว 60% เมื่อเทียบกับระลอกเดลตา
แต่กลับพบว่า “เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี” นั้นมีอัตราการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลไม่แตกต่างจากระลอกเดลต้า
เรื่องนี้จึงสำคัญมาก และเน้นย้ำให้ผู้ปกครองดูแลลูกหลานให้ดี
2.Omicron สายพันธุ์ BA.2 ที่ระบาดต่อจากสายพันธุ์ดั้งเดิม BA.1 ซึ่งครองโลกอยู่ในปัจจุบันนั้น พบว่ามีอัตราการแพร่ระบาดได้เร็วกว่า BA.1
ที่น่าสนใจคือ ค่าเฉลี่ยของระยะเวลาตั้งแต่คนแพร่เชื้อเริ่มมีอาการ จนถึงคนที่รับเชื้อเริ่มมีอาการ (serial interval) ของเชื้อสายพันธุ์ BA.2 นั้นสั้นกว่า BA.1
โดย BA.2 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.27 วัน (ช่วงความเชื่อมั่น 3.09-3.46 วัน) และ BA.1 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.72 วัน (ช่วงความเชื่อมั่น: 3.62-3.80 วัน)
สรุปคือ เชื้อสายพันธุ์ Omicron นั้น หากคนแพร่เชื้อเริ่มมีอาการ แล้วแพร่ให้คนอื่นๆ โดยเฉลี่ยแล้วผู้ที่รับเชื้อมามักจะเริ่มมีอาการหลังจากนั้นประมาณ 3-4 วัน
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาอาจยาวไปได้ถึง 9 วัน
ข้อมูลข้างต้นเป็นประโยชน์สำหรับเราทุกคน เวลามีประวัติไปสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 สามารถใช้เฝ้าระวัง และสังเกตอาการตนเองไปนานราว 10 วันก็จะทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น
สำหรับไทยเรา
การระบาดยังรุนแรง กระจายไปทั่ว และเป็นขาขึ้น
ขอให้ใช้ชีวิตอย่างมีสติ ป้องกันตัวอย่างเป็นกิจวัตร
ใส่หน้ากากเสมอ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า
พบปะคนเท่าที่จำเป็น ใช้เวลาสั้นๆ
เลี่ยงการกินดื่มหรือแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่น
หากไม่สบาย แม้จะอาการเล็กน้อย ควรบอกคนใกล้ชิดและที่ทำงาน หยุดเรียนหยุดงาน ไปตรวจรักษาให้หายดีเสียก่อน เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม
ถัดจากนี้ไปจำนวนคนติดเชื้อที่มากขึ้น ทั้งที่ตรวจ ไม่ได้ตรวจ และไม่อยากตรวจ อาจทำให้เราเห็นปัญหาด้านสังคมมากขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงแง่เศรษฐกิจเท่านั้น ดังนั้นหากพอช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ ปัญหาก็น่าจะพอบรรเทาเบาบางลงไปได้บ้างไม่มากก็น้อย